สนธิกำลังจับสึกพระเกจิกำมะลอ ทาสยานรกยึดสำนักสงฆ์ตั้งแก๊งเสพยานรก-แฉคลุ้มคลั่งทำร้ายชาวบ้านและเจ้าสำนักสงฆ์หอบจีวรหนีตายจำพรรษาวัดอื่น-เตรียมขยายผลสาวโยงเครือค้ายานรกในขณะที่ชาวบ้านสุดดีใจแห่นิมนต์ “พ่อท่านจุน”อดีตเจ้าสำนักและผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์ถ้ำเหมากลับวัด
2 ธ.ค.2565 - จากกรณีที่ชาวบ้านใน ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เข้าร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าสำนักสงฆ์ถ้ำเหมา ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีพระพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ 1 รูป พร้อมผู้หญิง 2-3 คน ผู้ชายอีก 1 คนมีพฤติกรรมมั่วสุมยาเสพติด และกิจกรรมทางเพศ และมีอาวุธปืนในครอบครอง จน “พ่อท่านจุน” หรือพระยินดี จันฺทปัญฺโญ ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์ถ้ำเหมา มีญาติโยมศรัทธร่วมสร้างเสนาสนะมูลค่าหลายล้าน
ต่อมาพระจอม มาขอจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ ด้วย แต่ในระยะหลัง ๆ พระจอมมีพฤติกรรมมั่วสุมเสพยาเสพติดมีอาการประสาทหลอนคลุ้มคลั่ง ทำร้ายพ่อท่านจุน และชาวบ้านที่เข้าไปเที่ยวหรือทำบุญในสำนักสงฆ์ แม้จะแจ้งคณะสงฆ์และหน่วยงานในพื้นที่ให้แก้ไขปัญหาก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ พ่อท่านจุน จึงหลบหนีออกจากวัดไปจำพรรษาอยู่วัดไทรงาม ต.เขาแก้ว ห่างจากสนำสงฆ์ถ้ำเหมา 3-4 กม.
ขณะที่พระจอม ได้ครอบครอง สำนักสงฆ์ถ้ำเหมา และตั้งตัวสวมรอยอ้างว่าเป็น “พ่อท่านจุน” ไปโดยปริยาย โดยที่พุทธศาสนิกชนจากต่างพื้นที่ไม่รู้ อ้างทำพิธีโน้นพิธีต่างๆ และนำผู้หญิงมาอยู่กินแบบสามีภรรยา ในตอนกลางคืนจะมีวัยรุ่นผู้หญิงและผู้ชายเข้ามามั่วสุม ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสำนักสงฆ์ถ้ำเหมาอีกเลย
ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. ฯจึงได้ประสานงานกับ พ.อ.นุกูล ดำสุวรรณ หน.ชุด ชป.ทภ.4 กอ.รมน.ภาค 4 และชุด ฉก.ผู้ว่า ฯลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนเก็บข้อมูลจากชาวบ้านและพระยินดี จันฺทปัญฺโญ หรือ “ท่านจุน” ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์ถ้ำเหมา นอกจากนี้ยังให้สายลับปลอมตัวเข้าไปพบพระจอม ทาสยานรก พบว่าเป็นความจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียนทุกประการ
โดยพระจอม อ้างว่าตัวเองได้รับคำสั่งจากเทวดา ให้มาปกปักรักษาถ้ำเหมา โดยได้นำเอาอาวุธปืน มีด ดาบออกมาโชว์อ้างว่าเป็นอาวุธของเทวดาที่ให้มา และพบว่าพระจอม มักจะพูดคนเดียวอ้างว่าพูดกับเดทวดา นอกจากนี้มีผู้เสียหายที่โดนพระจอมโดนข่มขู่ นำขวาน และมีดดาบไล่ทำร้ายอีกด้วย
ล่าสุดวันนี้ พ.อ.นุกูล ดำสุวรรณ พร้อมกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ลานสกา นำโดยนายสุรเดช ปรีชา ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปรามและผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา ได้ใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ปปส.เข้าพบพระจอม หรือพระเจียมศักดิ์ จ้ายอั้น อายุ 46 ปี อยู่ในกุฏิลักษณะอาการเหมือนไม่ใช่พระสงฆ์ แขวนลูกกระคำ และสร้อยคอหลายพวง สวมแหวนหลายนิ้ว สักตามร่างกายลายพร้อย พูดจาวกไปวนมาเหมือนคนเมายาเสพติด
โดยมีผู้หญิงอยู่บนกุฏิ 3 คน ผู้ชายอยู่นอกกุฏิ 1 คนอ้างว่าเป็นคนขับรถแท๊กซี่ที่มาให้บริการอยู่ในสำนักสงฆ์ต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว จึงขอทำการตรวจปัสสาวะของพระจอม พบปัสสาวะสีม่วงเพราะมีสารเสพติดในกระแสเลือด จึงนำควบคุมตัวพระจอม มายังที่ว่าการอำเภอลานสกา โดยมีผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คนขับรถแท็กซี่ตามคอยดูแลให้บริการพระจอมอย่างใกล้ชิด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งปัสสาวะให้แพทย์ รพ.ลานสกา ตรวจแยกสารยืนยันว่าเป็นสารแอมเฟตามีน พระจอม ยอมรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง ให้พระครูโสพิศศุภกิจ เจ้าอาวาสวัดไทรงาม เจ้าคณะตำบลเขาแก้ว อ.ลานสกา ทำการสึกจากความเป็นพระ
หลังจากนั้นจึงควบตัวนายเจียมศักดิ์ จ้ายอั้น หรืออดีตพระจอม กลับไปตรวจกุฏิในสำนักสงฆ์ ฯ ทำการตรวจค้นพบผู้หญิง 1 คนทราบชื่อนางเอียด อายุประมาณ 55 ปีอยู่ภายในกุฏิ ซึ่งตามรายงานระบุว่านายเจิมศักดิ์ จ้ายอั้น หรืออดีตพระจอม มีอาวุธปืนขนาด .38 รำดำ พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งอยู่ในครอบครอง แต่จากการตรวจในเบื้องตนไม่พบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ได้พบอาวุธปืนขนาด .357 สแตนเลส 1 กระบอก พรอมกระสุน 6 นัดซุกซ่อนอยู่ในซอกหินหลังกุฏิ
โดยนางเอียดให้การรับสารภาพว่าเป็นคนนำอาวุธปืนไปซ่อนไว้ โดยนายเจียมศักดิ์ จ้ายอั้น หรืออดีตพระจอม ยอมรับสมารภาพว่าเป็นอาวุธปืนที่รับจำนำมาจากชาวบ้านในราคา 25,000 บาท ส่วนปืนอีก 1 กระบอกขนาด .38 รมดำได้ขายไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงควบคุมตัวนายเจียมศักดิ์ จ้ายอั้น หรืออดีตพระจอม ไปสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในขณะที่ชาวบ้านทราบข่าวพากันดีใจที่เจ้าหน้าที่บุกจับกุมพระจอม สึกจากความเป็นพระ จึงพากันเดินทางมาที่วัด แต่พบว่าแม้พระจอม จะถูกจับสึกและดำเนินคดี แต่ภายในวัดยังมีคนสนิทของพระอดีตจอม เป็นผู้หญิง 3-4 คน ผู้ชายที่เป็นคนขับรถแท็กซี่อีก 1 คน ยังอยู่และเข้าออกภายในกุฏิอดีตพระจอมอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านเชื่อว่าอาจจะมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของวัด หรือยาเสพติเ อาวุธปืน ที่เจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นไม่พบออกจากสำนักสงฆ์ไปก็ได้ จึงเรียกร้องให้ทางคณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองส่งกำลังเข้ามาดูแลภายในสำนักสงฆ์ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งเกี่ยว ทำลายหลักฐานต่าง ๆ ได้ และยังพากันเดินทางกราบนิมนต์ จน “พ่อท่านจุน” หรือพระยินดี จันฺทปัญฺโญ ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์ถ้ำเหมา ที่ปัจจุบันจำพรรษาอยู่วัดไทรงาม กลับมาจำพรรษาพัฒนาสำนักสงฆ์เหมาอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘รมว.นฤมล’ เยี่ยม รร.เบญจมราชูทิศ ปฏิรูปการศึกษา จ.นครศรีฯ ลั่น 3 เดือน แก้หนี้ครูได้ เตรียมดึงแบงก์รัฐทุ่มแสนล้าน ทำสหกรณ์กลาง สกสค.
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ศธ. ลงพื้นที่ประชุมตรวจเยี่ยมสถานศึกษาและติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา ณ ห้องประชุมธัชมุนี โรงเรียนเบญจมราชูทิศ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เด็ก กธ.ฟุ้งพรรคเนื้อหอมหลังชนะเลือกตั้งเมืองคอน
'โฆษกกล้าธรรม' ฟุ้งผู้สมัคร สส.แห่ร่วมงาน เนื้อหอมหลังชนะเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ ย้ำเป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ
เกจิดังแดนอีสาน 'หลวงปู่ศิลา' เยือนโคราช รับอุปถัมภ์วัดแจ้งใน
“หลวงปู่ศิลา นิลจันทร์” พระเกจิผู้เป็นที่เคารพแห่งภาคอีสาน เมตตาเยือนวัดแจ้งในกลางเมืองโคราช ประชาชนแห่ต้อนรับล้นวัด รับอุปถัมภ์บูรณะสร้างบุญใหญ่เพื่อชาวเมืองย่าโม
‘ธรรมนัส’ เตรียมนำทัพใหญ่ลุยช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน
“ธรรมนัส”เตรียมนำทัพใหญ่ เปิดเวทีปราศรัยช่วย“ก้องเกียรติ“สู้เลือกตั้งซ่อม สส.เมืองคอน 25 เม.ย.นี้ วอน ขอโอกาสเข้าไปเป็นปากเสียงในสภาฯ
ชาวบ้านทวงเงินเยียวยา 9 พันบาท หลังน้ำท่วมภาคใต้ผ่านไปเกือบ 3 เดือน
ประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชจำนวนหลายร้อยคนรวมตัวกันบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเรียกร้องสอบถามความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมจำนวน 9,000 บา
ชาวบ้านรวมตัวปักหลักเรียกร้องที่ทำกินแปลงสวนยาง ‘ป่าคลองกรุงหยัน’
ชาวบ้านสุดทนลุกฮือรวมตัวปักหลักเรียกร้องที่ทำกินในแปลงสวนยาง กยท.หมดสัญญาสัมปทาน “ป่าคลองกรุงหยัน”-หลังกรมป่าไม้อนุมัติให้จังหวัดนครศรีธรรมราชจัดสรรที่ทำกินให้ชาวบ้านตามนโยบายรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2565 แต่กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ- แกนนำแฉเบื้องหลัง นายทุนและข้าราชการหวังฮุบที่ดินไว้เอง รวมทั้งผลประโยชน์ต้นยางเก่าสามารถขายได้หลายร้อยล้านบาท


