'เชียงใหม่' บังคับใช้แล้ว 'ห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด' มีผลบังคับตั้งแต่ 15 ก.พ.-30 เม.ย. พร้อมรางวัลแจ้งคนเผา 10,000 บาท ส่วน PM2.5 และ PM10เกินมาตรฐานหนัก
15 ก.พ.2566 - จังหวัดเชียงใหม่ได้เริ่มบังคับใช้เรื่อง การกําหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประจําปี พ.ศ. 2566 หลังจากที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามในประกาศ 31 มกราคม 2566 เพื่อควบคุมการเผาลดวิกฤตมลพิษทางอากาศที่รุนแรงและมีภาวะเสี่ยงสูงต่อการสร้างผกระทบ เพื่อเป็นการใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมไม่ให้มีการจัดการเชื้อเพลิงมากเกินความจําเป็น ในห้วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน พ.ศ.2566 ซึ่งอาจทําให้ค่าคุณภาพอากาศมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุประการหนึ่งเกิดจาก การเผาป่าเพื่อเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ และกําจัดวัชพืชในที่ดินทํากินของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่าเพื่อเตรียม พื้นที่เพาะปลูกโดยไม่มีการควบคุม จังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การเผาในที่โล่งทุกชนิดเป็นการ ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพยากรป่าไม้ และทําให้ค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อ สุขภาพของประชาชน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 15 มาตรา 22 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 จึงกําหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน / ตําบล / อําเภอ ในท้องที่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเขตห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด โดยกําหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 เดือน กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เดือน เมษายน พ.ศ. 2566 เป็นระยะเวลา 75 วัน ยกเว้นพื้นที่ที่ขอบริหารจัดการเชื้อเพลิง ในระบบไฟดี (Fire D)แต่หากสถานการณ์รุนแรงก็ต้องงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงทันที
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมให้กับทุกพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดปรับเปลี่ยนแผนบริหารจัดการตามความเหมาะสมของสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่รวมทั้งการให้รางวัลนำแจ้งเบาะแสดำเนินคดีกับผู้ลักลอบเผารายละ 10,000 บาทเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมกันในการเฝ้าระวังโดยอำนวยการแต่ละอำเภอรายงานสถานการณ์ติดตามในพื้นที่อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบปัญหาในเวลานี้ทั้งอำเภอฮอด แม่วาง อมก๋อย แม่แจ่มและพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่มักจะเกิดปัญหาทุกปีด้วย
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษแจ้งสถานการณ์คุณภาพอากาศภาคเหนือวันนี้อยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 47 - 289 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 68 - 335 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินค่ามาตรฐาน เกือบทุกจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนเกินมาตรฐานทุกจังหวัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ว่าฯโพสต์เหลือเวลาทำงานไม่นานลั่นอยากยกระดับคุณภาพชีวิตชาวเชียงใหม่
ผู้ว่าฯเชียงใหม่โพสต์ทำงานทุกวันชาวบ้านส่งกำลังใจต่อเนื่อง เจ้าตัวอดเสียดายมาทำงานได้ไม่นานแต่พร้อมทำงานทุกบทบาท โพสต์ย้ำจะใช้ทุกวันลงพื้นที่รับข้อมูลส่งต่อให้ปัญหาชาวบ้านได้รับการดูแล
มาเป็นทีม! ปชน.จี้กรมการปกครองล่าส่วยสัญชาติ
'วิโรจน์-สมดุลย์' ร้อง 'กรมการปกครอง' เร่งเอาผิดผู้เกี่ยวข้องถึงที่สุด พร้อมแฉขบวนการ 'ส่วยสัญชาติ' เรียกเงินหลักหมื่นแลกขอสัญชาติ-ทำบัตร ปชช. เชื่อมีปัญหาคล้ายกันอีกหลายพื้นที่
อยู่เป็น! พ่อเมืองเชียงใหม่ฉับไวสั่งเร่งขับเคลื่อน 4 ภารกิจเร่งด่วนของนายกฯ อนุทิน
ผู้ว่าฯเชียงใหม่ 'ทศพล เผื่อนอุดม' มอบนโยบายทุกส่วนราชการ ตั้งใจจะพัฒนาเชียงใหม่ มุ่งขับเคลื่อน 4 ภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล'อนุทิน' ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง ภัยธรรมชาติ และสังคม
เผยอาการป่วย 'พุฒิพงศ์ ศิริมาตย์' อดีตผู้ว่าฯเชียงราย ผ่าตัดเปลี่ยนไต เม.ย.67
นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ความจริงเกี่ยวกับการป่วยของ ท่านพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (เกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 2567
มท.1 แจงทำข้อเสนอแนะผู้ว่าฯ เชียงรายจบแล้ว
'อนุทิน' แจงข้อเสนอแนะถึงผู้ว่าฯเชียงรายยอมรับไม่อยู่พื้นที่แก้น้ำท่วมเดือน ส.ค. ทำด้วยเหตุผล ขอสังคมอย่าบูลลี่ เพราะมุ่งทำงาน ย้ำภารกิจส่วนตัว ไม่ต้องมาต้อนรับ
อนุทิน-มท.1 ฮึ่มแล้ว! สั่งด่วน ‘ผู้ว่าฯเชียงราย’ เคลียร์ปมไม่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง


