
ศึกการเลือกตั้งเมืองชาละวันพิจิตรเขต 2 ซึ่งประกอบไปด้วย อ.ตะพานหิน อ.ทับคล้อ อ.ดงเจริญ อ.วังทรายพูน อ.สากเหล็ก คงต้องจับตามองทีมบ้านสีเขียวที่มี “นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” เป็นโค้ชใหญ่คุมทีมพรรคภูมิใจไทย และ “นายไพฑูรย์ แก้วทอง – นายนราพัฒน์ แก้วทอง” ที่จัดทัพคุมทีมพรรคประชาธิปัตย์ และ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ที่ย้ายข้างข้ามฝั่งจากพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย งานนี้ใครคือตัวจริงหรือตัวประกอบคู่เทียบกันแน่
เจาะสนามไปที่แชมป์เก่า คือ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ปัจจุบันเป็น ส.ส.พิจิตร เขต 2 ซึ่งการได้เป็น ส.ส.ในครั้งนั้นเนื่องจากผู้สมัครของพรรคไทยรักษาชาติ เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จึงได้เป็น ส.ส. แบบส้มหล่นเหนือความคาดหมาย
แต่การเลือกตั้งในศึกการเลือกตั้งปี 66 ในครั้งนี้คงไม่ใช่จะมากินหมูกันแบบง่ายๆเหมือนครั้งก่อนเสียแล้ว เมื่อ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยพิจิตรเขต 2 เจ้าของพื้นที่มาขอทวงเก้าอี้ ส.ส.พิจิตร เขต 2 คืน ด้วยคุณสมบัติ ส.ส.เกรด A นั่นคือ มีกระสุนเป็นของตนเองและมีกระแสจากการลงพืนที่ต่อเนื่องถึงแม้พรรคถูกยุบ
แต่สำนักงานและตัวแทนไม่เคยปิดประตูบ้านยังคงรับแขกและออกงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีลูกพี่-ลูกน้อง คือ พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ ซึ่งเป็นลูกชายของอา เป็น นายก อบจ.พิจิตร ที่มี สจ.อยู่ในสังกัดและอยู่ในพื้นที่พิจิตรเขต 2 โดยเฉพาะที่สำคัญยิ่ง คือ พื้นที่ อ.สากเหล็ก ก็มี สจ.พิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร ที่คว่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่นมากว่า 30 ปี อีกทั้งยังมีลูกชายที่เป็นกำนันตำบลสากเหล็ก ซึ่งถือเป็นคลังคะแนนของ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ที่เชื่อมั่นว่าพื้นที่ อ.สากเหล็ก นี้ จะได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำอย่างน้อยๆ ก็ 5,000-7,000 คะแนนชัวร์ๆ
แถมยังสร้างกำแพงเครือข่ายอย่างเหนียวแน่นยากที่ใครจะเข้ามาเจาะในพื้นที่ได้ นี่จึงเป็นเหตุให้ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ มีกระแสและเครือข่ายแกนนำที่เหนียวแน่น ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ในช่วงต้นๆ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยพิจิตรเขต 2 มีราคาเป็นต่อ ส.ส.ภูดิท ถึง 3-2
แต่ล่าสุดมีภาพของ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ไปสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย และประกาศว่า จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ซึ่งแต่เดิม พรรคเพื่อไทยพิจิตรเขต 2 ขึ้นป้ายว่า นางณริยา บุญเสรฐ (ภรรยาของ นายนาวิน บุญเสรฐ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย) จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 แต่แล้วทำไมพรรคเพื่อไทยจึงเททิ้งคนเก่าที่เคยร่วมสู้กันมา จึงทำให้ FC คนเสื้อแดงที่เป็นแฟนคลับของ นายนาวิน บุญเสรฐ และ นางณริยา บุญเสรฐ มีความเคลือบแคลงใจว่าคนที่ใช่ในแบบที่พรรคเลือกDNAมาจากฝ่ายเผด็จการแล้วจะมาเป็นฝ่ายประชาธิปไตยได้จริงหรือ
จึงทำให้ตอนนี้คอการเมืองพิจิตรเขต 2 จับตารอดูว่า นางณริยา บุญเสรฐ จะลงสมัครในพรรคใด จะเล่นหรือจะเลิก หรือจะเทคะแนนไปให้กับใครเพื่อแก้แค้นที่ถูกเทหรือไม่อย่างไร?
แต่ก็ต้องมองให้ลึกว่าก่อนหน้านั้น นางณริยา เคยดำรงตำแหน่ง เลขานุการ นายก อบจ.พิจิตร ซึ่งในช่วงนั้นก็มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัว “ภัทรประสิทธิ์” จึงอาจเป็นไปได้ว่าถ้าไม่เล่น ถ้าไม่ลงสมัครเอง ก็อาจจะเทคะแนนให้ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ พรรคภูมิใจไทย ก็อาจเป็นได้ ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไป
ส่วนผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติพิจิตร เขต 2 ที่มีข่าวออกมาว่าจะเป็น น.ส.ปุณณรีย์ ศรีบุศกร “มาดามนิด” ซึ่งเป็นภริยาของ “ส.ส.ไก่” ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ พิจิตร เขต 3 นั้นคงมิได้น่ากลัวอะไร นั่นคือลงให้ครบแล้วเก็บกระสุนรวมถึงเรี่ยวแรงไปช่วยสามีที่ลงในเขต 3 เสียมากกว่าจะสู้เอาแพ้เอาชนะในเขตนี้
พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิดของ นายไพฑูรย์ แก้วทอง วัย 84 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราษฎรอาวุโสของชาวพิจิตร อดีต ส.ส.พิจิตร , อดีต รมต.แรงงาน ที่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 สค. 65 ซึ่งเป็นวันจัดงานวันเกิดของ นายไพฑูรย์ แก้วทอง นั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศบนเวทีว่า พิจิตรเขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ขอส่ง นายวรวุฒิ แก้วทอง ซึ่งเป็นอดีต สจ.พิจิตร และเป็นน้องชายแท้ๆ ของ นายไพฑูรย์ ลงสนามชิงชัย
แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนม้ากลางศึกของเปลี่ยนตัวเอาน้องชายออก เอาหลานชายคือ พ.ต.อ. สามารถ แก้วทอง ซึ่งปัจจุบันยังรับราชการตำรวจอยู่ที่ สน.คลองตัน ให้เป็นว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พิจิตร เขต 2 แต่เนื่องด้วยยังไม่ลาออกจากราชการตำรวจ (ซึ่งอาจจะยังไม่แน่ใจว่าคุณลุงไพฑูรย์จะทุ่มทุนสร้างให้เป็น ส.ส.หรือไม่ จึงไม่ยอมลาออกจากราชการตำรวจ หรืออาจจะมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครที่มีการคาดหมายว่า นายไพฑูรย์ ได้แอบซ่อนวางตัว นายวัชรินทร์ แทนจำรัส ซึ่งเป็นเด็กในบ้านแก้วทอง และเป็นตัวแทนออกงานแทน นายไพฑูรย์-นายนราพัฒน์ ที่ชาวบ้านคุ้นหน้าคุนตัวมากกว่าตัวผู้สมัครเสียอีกเป็นตัวสำรองที่พร้อมจะเข้าเปลี่ยนตัวได้ทุกเขต
จึงทำให้ว่าที่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ พิจิตร เขต 2 ไม่ค่อยมีเวลาลงพื้นที่หาเสียง จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่รู้จักแต่ใบหน้าของ คุณลุง ไพฑูรย์ แก้วทอง และตัวแทน คือ นายวัชรินทร์ แทนจำรัส เสียมากกว่าที่จะได้เห็นหน้าผู้สมัครซะอีก
ดังนั้นถ้าจะเอาผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เขต 2 ไปเปรียบเทียบกับ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ แห่งพรรคภูมิใจไทย และ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ก็ต้องบอกว่าราคาที่คอการเมืองให้ในวันนี้ คือ นายวินัย เป็นต่อ นายภูดิท 5-4 ด้วยเหตุและปัจจัยของการแบ่งเกรดและ DNA ของมวลชนคนเสื้อแดงนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.พิจิตร
รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว! กลุ่ม ส.ส. ดิ้นยื่นศาลรธน.วินิจฉัย ‘อนุทิน-ณัฐพงษ์’ พ้นสภาพ ส.ส.
เปิดหนังสือ สส. รวมชื่อส่งประธานสภาฯ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 'อนุทิน-ณัฐพงษ์' พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA 'ยุบสภา 4 เดือน-ทำประชามติแก้ รธน.' แลกโหวตนั่งนายกฯ เหตุเข้าข่ายครอบงำชี้นำพรรคการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
นิด้าโพลสะท้อนคนไทยหมดหวังการทำงานของพรรคการเมืองและส.ส.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “มีความหวังหรือหมดหวังกับพรรคการเมือง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2568
อนุทิน ควง 2 สส.อุดรฯไทยสร้างไทยลงพื้นที่ จ่อย้ายร่วมงาน ภท.สมัยหน้า
“อนุทิน“ ควง 2 สส.อุดรฯ “ดู๋ดี๋ ”- “หรั่ง ” ลงพื้นที่อุดรธานี จ่อร่วมงานภูมิใจไทย เลือกตั้งสมัยหน้า ขณะที่ ชาวบ้านชื่มชมหลังถอนตัวจากรัฐบาลยืนหยัดปกป้องอธิปไตยชาติ
'โฆษก ทสท.' ย้ำชัดขอเป็นฝ่ายค้าน ยันข่าวลือ 'ร่วมรัฐบาล' ถูกปล่อยจากคนอยากเป็น รมต.
'โฆษก ทสท.' โต้แรง ข่าวลือ 'ร่วมรัฐบาล' ถูกปล่อยจากคนอยากเป็น รมต.-ลั่น หากอยากได้เก้าอี้ให้ลาออกจากพรรค เหตุไม่เป็นไปตามมติที่ยืนยันชัดเจน ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ไม่ขอใช้เทคนิคเจรจา เทคนิคหาเสียง ให้ได้มาซึ่งอำนาจ ที่ ปชช.ไม่ยอมรับ
‘หมอเชิด’ ย้ำอภิปรายนายกฯวันเดียวควรจบแล้ว อัดฝ่ายค้านจ้องอภิปรายคนนอก
"หมอเชิด" ระบุ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แค่ 24 ชม.ก็พอแล้วเพราะ นายกฯทำงานได้เพียง 6 เดือน และจะจ้องอภิปรายคนนอก ในชั้น 14 มากกว่าเรื่องของประเทศ แบบนี้ถูกหรือ
นิด้าโพล เผยผลสำรวจ คนใต้ 41% บอกไม่เลือก ปชป. แล้ว
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567

