
รับสมัครเลือกตั้งซ่อมท้องถิ่น หลัง นายกฯ-สท.-ส.อบจ.ขอนแก่น ลาออกไปลงสมัคร ส.ส.วันแรกคึกคัก ทายาทนักการเมืองชื่อดัง-นักธุรกิจพื้นที่ลงสมัครเนืองแน่น ขณะที่ กกต.คุมเข้มทุกมาตรการแนะผู้สมัครหาเสียงให้ถูกเพราะเลือกตั้ง ส.ส.และเลือกตั้งซ่อมระยะเวลาใกล้เคียงกัน
24 เม.ย.2566-ที่ห้องประชุมสภา อบจ.ขอนแก่น สถานที่สมัครรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น แทนตำแหน่งที่ว่างหลังมีการลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส.ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เป็นการรับสมัครวันแรก ท่ามกลางความสนใจจากนักการเมืองท้องถิ่นและทายาท นักธุรกิจลงสมัครรับการเลือกตั้งซ่อม ในเขต อ.หนองเรือ และ อ.ชุมแพ อย่างคึกคัก โดยมีนายพันธ์เทพ เสาวโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น ในฐานะ ประธาน กกต.อบจ.ขอนแก่น,นายพงเจตน์ พรกุณา ปลัด อบจ.ขอนแก่น ในฐานะ ผอ.กกต.อบจ.ขอนแก่น และ นายวัชระ สีสาร ผอ.สนง.กกต.จว.ขก. คอยกำกับและควบคุมการจัดการรับสมัคร ในขั้นตอนต่างๆให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายวัชระ สีสาร ผอ.สนง.กกต.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งซ่อมท้องถิ่นในครั้งนี้ มีเหตุมาจากการลาออกจากตำแหน่งและมาลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. พบว่าทั้งจังหวัดมีการจัดการเลือกตั้งประกอบด้วยการเลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.2 รายคือ อ.หนองเรือ เขต 1และ อ.ชุมแพ เขต 2 ,การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาเทศบาล นครขอนแก่น 1 เขต 1 คน และเลือกตั้งซ่อม นายกเทศมนตรี กระนวน 1 คน ซึ่งขณะนี้ กกต.ประจำท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ได้ประกาศให้มีการจัดการเลือกตั้งแล้ว กกต.ขอนแก่น ได้ประสานความร่วมมือและทำงานเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยในภาพรวม เนื่องจากระยะเวลาการเลือกตั้ง ส.ส.และการเลือกตั้งซ่อมท้องถิ่นไม่ห่างกันมากนัก
“วันนี้เปิดรับสมัคร ส.อบจ.วันแรกเพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยการรับสมัครจะมีวันที่ 24- 28 เม.ย. 2566 เปิดรับสมัครวันแรก มีผู้ยื่นสมัครใน เขต อ.ชุมแพ แล้ว 5 คน อ.หนองเรือ 1 คน โดยได้มีการจับสลากเรียงลำดับ สำหรับการรับสมัครวันแรกในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย”
ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม 3 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น และ เทศบาลเมืองกระนวน ในภาพรวมทั้ง 3 แห่งได้ติดตาม ปฏิบัติงานทั้ง 3 แห่ง ควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง ส.ส. ด้วย พร้อมให้นโยบายกับ กกต.ท้องถิ่นว่า เรื่องการจัดการเลือกตั้งนั้น ขอให้ยึดระเบียบ หลักกฎหมาย อย่างเคร่งครัด สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมนั้น กำหนดขึ้นในวันที่ 28 พ.ค. 2566 หลังการเลือกตั้งใหญ่ 2 สัปดาห์ ให้ประชาชนได้มีการเตรียมตัว และเป็นไปตามระเบียบของการเลือกตั้งในห้วงระยะเวลา ผู้สมัครจะได้มีเวลาในการหาเสียง
นายพงษ์เจตน์ พรกุณา ปลัด อบจ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังปิดรับสมัครในวันที่ 28 เม.ย. กกต.อบจ.ขอนแก่นจะตรวจสอบคุณสมบัติและประกาศรับรองการสมัครอย่างเป็นทางการภายใน 7 วัน ซึ่งหากผู้สมัครคนใดถูกตัดสิทธิ์สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 7 วัน ขณะที่ผู้ที่สมัคร ส.ส.หากอกหักจากสนามใหญ่ไม่สามารถกลับมาลงสมัครได้เพราะช่วงของการรับสมัครเลือกตั้งนั้นผ่านพ้นไปแล้ว แม้ช่วงเวลาเลือกตั้งจะใกล้เคียงกันก็ตาม ซึ่งการเลือกตั้งซ่อม อ.หนองเรือเขต 1 นั้นมีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 77 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 37,000 คน ขณะที่ อ.หนองเรือ เขต 2 มีทั้งสิ้น 69 หน่วยเลือกตั้งมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 33,000 คน ซึ่งมั่นใจว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากถึงร้อยละ 70
สำหรับรายชื่อผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.อบจ.วันแรก ในพื้นที่อ.ชุมแพ 5 คน คือ น.ส.ชลิดา ปู่เพ็ง , นายสรศักดิ์ สายทองดี,น.ส.รัชฎา หมื่นมา . นางอารมณ์ จันทร์สุโข และ น.ส.พิมพ์ใจ คำคูณ ขณะที่ ในพื้นที่ อ.หนองเรือ มีผู้มาสมัคร 1 คน คือ นายรัชเดช เตาะเจริญสุข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.บริจาคภัยพิบัติเต็มที่ ท้องถิ่นระวังช่วง180วัน!
กกต.ไฟเขียวบริจาคช่วยภัยพิบัติ สส.-สมาชิกพรรค ทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท
กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด
กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก
กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้
มรดก 2 พันล้านเดือด! ลูกชายตระกูล 'ทองแท่งไทย' แจ้งจับหมอ-อัยการ-ทนาย
ครอบครัวทองแท่งไทยเปิดศึกเดือด ระบุขั้นตอนทำพินัยกรรมของนักธุรกิจผู้ล่วงลับ อ้างมีหลายจุดน่าสงสัย ทั้งเอกสารแพทย์และสถานที่จัดทำ ก่อนลูกชายคนโตพาทนายเข้าแจ้งความเมืองขอนแก่น พร้อมยื่นศาลขอให้พินัยกรรมเป็นโมฆะและร่วมจัดการมรดก
กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444
บุรีรัมย์บุกธนบุรี/กาญจน์ไปขอนแก่น 'เมืองไทยคัพ'รอบ32ทีม เตะ27-28ธ.ค.นี้
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ. ห้องประชุมเมืองไทยประกันภัย อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ “Tower A” ชั้น 14 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดพิธีจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอล เมืองไทย คัพ ฤดูกาล 2025/26 รอบ 32 ทีม

