11 พ.ค.2566 - ที่วัดหลุ่งประดู่ หมู่ 1 ตำบลหลุ่งประดู่ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกันเปิดกิจกรรม Kick off โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ระดับปฏิบัติการเชิงพื้นที่ การจัดงานมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบและแนวคิดของ 5 ส ซึ่งประกอบไปด้วย สะสาง สะดวก สะอาด สร้างมาตรฐาน และสร้างวินัยลงสู่บริบทของวัดและชุมชน ส่งเสริมให้วัดเป็นพื้นที่ต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพ พื้นที่การเรียนรู้ พื้นที่ทางจิตใจและปัญญา เป็นศูนย์กลางพัฒนา องค์ความรู้ในการพัฒนาวัดและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมไทย ตื่นตัวเรื่องการช่วยเหลือสังคม การมีจิตอาสา ความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อทำให้เกิดสังคมสุขภาวะและความยั่งยืน
โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดฯ ได้มีการมอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวให้กับกำนัน ผู้่ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนและต่อยอดกองทุนเมล็ดพันธุ์ผักประจำชุมชน จากนั้นประธานพร้อมด้วยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนร่วมกัน ทำความสะอาดบริเวณวัด ปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพรไทย เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมทั้งทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อเป็นต้นแบบประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจ สร้างความตระหนักและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการคัดแยกขยะเศษอาหารหรือขยะเปียกในครัวเรือน
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมายังได้ให้ความสนใจชมและถ่ายรูป ควายงาม ที่มีค่าตัวสูงถึง 10 ล้านบาท ชื่อบิ๊กมีน อายุ 4 ปี เพศผู้ สูง 175 ซม. น้ำหนัก 1,400 กิโลกรัม สายพันธุ์อุทัยร้อย
โดยนางกุสุมาวดี ย่องมณี อายุ 61 ปี ข้าราชการครูเกษียณ ชาว ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เจ้าบิ๊กมีน ควายงามตัวนี้ตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 10 เดือน ขณะนั้นซื้อมาในราคา 2.5 แสนบาท ซึ่งปัจจุบันมีนักธุรกิจ2ราย มาขอเสนอซื้อในราคา10ล้านบาท แต่ตนเองและครอบครัวได้ปฏิเสธที่จะขายเนื่องจากมีความผูกพัน กับเจ้าบิ๊กมีน เป็นอย่างมาก และเปรียบเสมือนเป็นบุคคลภายในครอบครัว หากขายควายตัวนี้ไป เงินที่ได้มาก็ใช้หมด แต่จะหาควายที่สวยงามแบบนี้คงหายากและคงไม่มีอีกแล้ว จึงตัดสินใจไม่ขาย ถึงแม้มีคนมาเสนอราคามากกว่านี้ก็ตาม ซึ่งลูกๆบอกว่าห้ามขายโดยเด็ดขาดและต้องการมาสืบทอดกิจการเลี้ยงควายตัวนี้ต่อไป เพราะเจ้าบิ๊กมีนสามารถหารายได้เข้าครอบครัวได้จากการขายน้ำเชื้อ หลอดละ 500 บาท และการผสมพันธุ์ครั้งละ 5,000 บาท ซึ่งจะมีเกษตรกรผู้เลี้ยงควายมาขอซื้อน้ำเชื้อและนำความตัวเมียมาผสมพันธุ์กับเจ้าบิ๊กมีนทุกวัน ส่วนการเลี้ยงดูก็แสนง่าย ให้อาหารเช้า-เย็น มื้อและ 1-2 กิโลกรัม เป็นหญ้าและหัวอาหารบ้าง ส่วนอาหารเสริมจะเป็นกล้วยมื้อละ3หวี ไข่ไก่วันละ 9 ฟอง เพื่อบำรุงร่างกายและน้ำเชื้อ นางกุสุมาวดี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พสกนิกรโคราชปลูกต้นไม้ 9 พันต้น เฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง ร.9'
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวามหาราช
ชาวโคราชสวมเสื้อเหลืองทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล 'ในหลวง ร.9'
ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
ชาวบ้านปลื้ม 'คุณจ๋า' ร่วมงานบุญทอดกฐินฟ้อนรำโชว์ผัดหมี่โคราช
”คุณจ๋า”สตรีหมายเลข 1 ”นายก.หนู ร่วมสืบสานประเพณีไทยประธานทอดผ้ากฐินสามัคคี ร่วมฟ้อนรำกับชาวบ้านอย่างอ่อนช้อยสวมงาม และผัดหมี่โคราช ณ วัดโคกพระเมืองย่าโม
โคราช..ต้นแบบอารยสถาปัตย์ จุดประกาย “77 จังหวัด” สร้างเมืองเพื่อทุกคน
นครราชสีมา-ประตูสู่อีสาน ได้ก้าวสู่วันสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อรัฐบาล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน
'ลานย่าโม'เท่านั้น กลุ่มนักกีฬาคนพิการทีมชาติ ยื่นหนังสือให้พ่อเมืองโคราช เรื่องสถานที่เปิดอช.พาราเกมส์
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568นักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้ฝึกสอน กีฬาคนพิการทีมชาติไทย ร่วมกับเครือข่ายสมาคมคนพิการจังหวัดนครราชสีมา จำนวนประมาณ 250 คน ได้รวมตัวกันที่ศาลากลาง จังหวัด นครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือถึงท่านชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะเจ้าภาพร่วมในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ทำพิธีเปิดจัดการแข่งขันมหกรรมอาเซี่ยนพารเกมส์ ครั้งที่ 13 จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2568 ที่จะถึงนี้
มท. จัดพื้นที่พิเศษฟรี งาน 'OTOP ศิลปาชีพ' เยียวยาผู้ประกอบการชายแดนไทย-เขมร
มท. สั่งด่วน จัด 'พื้นที่พิเศษ' ช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วม นำสินค้ามาจำหน่ายในงาน 'OTOP ศิลปาชีพ'

