บุกสอบนายทุนบ่อกุ้ง ขุดรื้อโขดหิน ทิ้งน้ำเสียลงทะเล ชายหาดดังชุมพรพังยับ

สนธิกำลังตรวจสอบนายทุนบ่อเลี้ยงกุ้ง ใช้รถแบคโฮขุดชายหาดทำลายปะการัง โขดหินธรรมชาติ เสียหายยับ พบทำผิดกฎหมายเพียบ บ่อบำบัดไม่มีทิ้งน้ำเสียลงทะเล

12 มิ.ย.2566 - คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย นางสายสุดใจ ชุนเชาวฤทธ์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร นายจิรยุทธ์ รันตดิลก ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 3 (ปะทิว ชุมพร) นายประทิน ออมสิน รักษาการ ผอ.เจ้าท่าภูมิภาค สาขาชุมพร ร.อ.กอบศักดิ์ นาคหาญ หัวหน้า ชรต.403 กอ.รมน.ชุมพร ร.ต.ท.ประทิน สวณะทรงธรรม รอง สว.(ป)กก.5 บก.ปทส. ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่าบริเวณริมชายทะเลซึ่งมีนากุ้งในหมู่ที่ 8 ตำบลบางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีการใช้รถแบคโฮขุดท่อบริเวณริมชายทะเล ลักษณะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเปลี่ยนแปลงสภาพชายหาดและโขดหินที่มีน้ำทะเลท่วมถึง เป็นแนวร่องยาวดังรูปที่ปรากฎจากผู้ร้องเรียน และสื่อต่างๆ

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันลงตรวจสอบพื้นที่ตามร้องเรียนและที่เป็นข่าว พบว่าอยู่บริเวณชายหาดอ่าวบางสน เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อขออำเภอปะทิว และเป็นแหล่งอยู่อาศัยของกุ้งเคยที่ใช้ทำกะปิขึ้นชื่อของ จ.ชุมพร ซึ่งจะมีหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดงานกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นประจำทุก ๆปี

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบร่องรอยการใช้รถแบคโฮ ขุดบริเวณชายหาด แต่มีการถมกลบจนหมดแล้ว แต่ยังมีเศษหิน ปะรัง เสียหายให้เห็นอยู่บ้าง ต่อมา นายสุพงษ์ แพรสมบูรณ์ ที่อยู่ 180 ถนนศาลาแดง ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มาแสดงตัวต่อขณะเจ้าหน้าที่ โดยแจ้งว่าบ่อกุ้ง และโรงสูบน้ำบริเวณนี้เป็นของตนได้มีการขออนุญาตสูบน้ำทะเลโดยมีการวางท่อสูบน้ำทะเล ซี่งได้รับอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำจากกรมเจ้าท่าตามใบอนุญาต เล่มที่ 193 เลขที่ 024 ใบอนุญาตเลขที่ 1105/2561 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2561 ซึ่งตนได้ดำเนินการซ่อมแช่มเปลี่ยนท่อดูดน้ำทะเลเข้านากุ้ง เนื่องจากของเดิมชำรุด เป็นระยะทาง 120 เมตร ผลการตรวจสอบปรากฏว่าพบร่องรอยขุดรื้อโขดหินในทะเลโผล่พ้นน้ำ มีการเคลื่อนย้ายโขดหินจากในทะเล มากองรวมโผล่พันน้ำเป็นจุด ๆ ดังนี้

1. พบร่องรอย การขุดดินจากเครื่องดูดน้ำทะเล ถึงจุดปลายท่อที่มีน้ำทะเลท่วมถึง โดยแนวที่ขุดมี 4-5 จุด และบริเวณชายหาดมีสภาพขนย้ายทรายขึ้นมาไว้บริเวณชายฝั่งทำให้มองเห็นพื้นหินชั้นล่างขุดลึก ประมาณ 150 เชนติเมตร สภาพพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาพหาดทรายธรรมชาติ (เดิม) เป็นเนื้อที่ 800 ตารางเมตร

2.พบร่องระบายน้ำ ซึ่งระบายน้ำจากบ่อเลี้ยงกุ้งจำนวน 4 บ่อ จากทั้งหมด 6 บ่อ ลงสู่ทะเล โดยมีการระบายน้ำออกจากบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ออกสู่พื้นที่สาธารณะ 2 จุด จุดที่ 2 ออกสู่ลำรางสาธารณะบริเวณด้านขวามือของสถานประกอบการเมื่อหันหน้าออกสู่ทะเล โดยพบน้ำที่ระบายออกมีสีเขียวเข้มผิดปกติ ซึ่งลำรางดังกล่าวจะไหลออกสู่ทะเลในระยะ 50 เมตร และ จุดที่ 2 ด้านหน้าสถานประกอบการติดกับชายหาดโดยมีน้ำระบายจากท่อลงสู่ทะเลโดยตรง

จากหนังสือรับรองการแจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมประเภทเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล เลขที่ 6386035300020 สถานประกอบการมีพื้นที่รวม 34.1 ไร่ ซึ่งเข้าข่ายแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำ ตามมาตรา 69 พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งต้องมีการควบคุมการปล่อยน้ำเสียหรือของเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษดังกล่าวมีหน้าที่ต้องติดตั้งหรือจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียตามมาตรา 70 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ขณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบไม่พบว่าสถานประกอบการมีระบบบำบัดน้ำเสียที่จะบำบัดน้ำเสีย ให้มีผลคุณภาพน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานก่อนระบายออกสู่สาธารณะแต่อย่างใด

3. จากการตรวจสอบแผนที่สังเขปแสดงตำแหน่งที่ตั้งอาคารหรือการปลูกสร้างส่วงล้ำลำแม่น้ำ แนบท้ายกฎว่า มีความยาว 12 เมตร กว้าง 2 เมตร พื้นที่ล่วงล้ำลำแม่น้ำ 24 ตารางเมตร ซึ่งไม่ตรงกับความเป็น 120 เมตร คณะเจ้าหน้ามีความเห็นร่วมกันว่า เห็นควรให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ดำเนินการตาม พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

4. ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำ ข้อที่ (9) การช่อมแซมสิ่งปลูกสร้างน้ำดังกล่าว ต้องยื่นขออนุญาตกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร และจะต้องได้รับออนุญาตก่อนดำเนินการซ่อมแซม จากการสอบถามปรากฏว่า นายสุพงษ์ แพรสมบูรณ์ ไม่ได้ยื่นเรื่องก่อนดำเนินการซ่อมแซม ต่อสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ขณะเจ้าหน้าที่มีความเห็นร่วมกันว่า เห็นควรให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ดำเนินการตาม พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฉก.ทส. ทวงคืนป่าชายเลน 141 ไร่ พบขบวนการขุดร่องน้ำปล่อยลงทะเล “สจ.ตี๋” นำชาวบ้านท้วง อ้างที่ทำกิน–ท้ารัฐวัดแนวเขต

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ (ฉก.ทส.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดพระยา จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทช. เดินหน้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกป่าชายเลน 'หาดทรายรี' คืนพื้นที่ให้ธรรมชาติ

นายจักรี ตั้งอั้น ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 3 (ปะทิว ชุมพร) ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนจังหวัดชุมพรศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดชุมพร

'กลุ่มปกป้องบ้านพ่อ' เฮลั่น! คดีสิ้นสุด นายทุนออกโฉนดทับ 'แก้มลิงหนองใหญ่' จ.ชุมพร กว่า 700 ไร่

จบแล้วสู้เกือบ 9 ปี ทวงคืนแผ่นดินบ้านพ่อ ร.9 แก้มลิงหนองใหญ่ชุมพร มูลค่าพันล้านในมือนายทุน กลับคืนสำเร็จ

พลังหนู! ลูกหมีขนทีม 'พลังชุมพร' ซบภูมิใจไทย

'ลูกหมี' บ้านใหญ่ชุมพร ขนทีม 'พลังชุมพร' 50 ชีวิต สมัครสมาชิกพรรค ภท. ลั่นไม่มีประโยชน์ส่วนตัว แค่อยากให้ประเทศเดินหน้า ปัดตอบ รทสช.แตก ด้าน 'พิพัฒน์' แย้มมีบิ๊กเนมการเมืองจ่อซบเพิ่ม

'ทหารพม่า-กะเหรี่ยง' ปะทะเดือด! เสียงปืนใหญ่ดังลั่นชายแดน จ.ชุมพร

นายสวง ริ้มงาม นายก อบต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โพสต์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ได้เกิดเหตุการปะทะกัน ระหว่าง ทหารพม่า สู้รบกับ ทหารกระเหรี่ยง มีเสียงปืนใหญ่ดังมาถึงพื่นที่หมู่

จับปลาซิวปลาสร้อย แก๊งงาบสวนปาล์มหมดสัมปทาน จนท.รัฐเอี่ยวนายทุนฮุบรายได้เดือนนับล้าน

เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า-กอ.รมน.รองนายก อบจ.ชุมพร บุกจับชาวพม่าแรงงานนายทุน "แก๊งสวาปาล์ม" ร่วมเจ้าหน้าที่รัฐ จัดสรรแบ่งล็อคเก็บผลผลิตปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมดสัมปทานนับหมื่นต้น รายได้เดือนละนับล้านบาท