ต่อยกันสู้ไม่ได้! แก๊งโจ๋ยกพวกนับสิบยิงถล่มเพื่อนลูกชายรองนายก อบต.

แก๊งโจ๋ขาใหญ่ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นับสิบควงมีดสปาต้า และปืนขี่ จยย.กราดยิงกลุ่มเพื่อนลูกชายรองนายก อบต. ขณะนั่งเล่นและดื่มสังสรรค์กันอยู่หน้าบ้าน วิ่งหนีตายชุลมุนกระสุนเจาะบ้านรองนายก และรถกระบะเป็นรูพรุน 20 นัด เจ็บ 1 เผยชนวนเหตุหัวโจกแก๊งโจ๋ตะโกนประกาศศักดา “ในปะคำใครก็ได้” ก่อนชกต่อยกันแต่สู้ไม่ไหว จึงกลับไปเอาปืนมายิงถล่ม ตร.เร่งล่าตัวดำเนินคดีเบื้องต้นรวบแล้ว 1

17 ส.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ส.ค.66) พ่อแม่ผู้ปกครองชาว ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้พาลูกหลานเข้าแจ้งความที่ สภ.ปะคำ ให้ติดตามตัวแก๊งวัยรุ่นต่างหมู่บ้านกว่า 10 คน ที่พากันขับขี่รถจักรยานยนต์ควงมีดสปาต้า และอาวุธปืนไปก่อเหตุยิงถล่มลูกหลาน ขณะนั่งเล่นและดื่มสังสรรค์กันที่บริเวณหน้าบ้านของรองนายก อบต.หูทำนบ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. คือกลางดึกของวันที่ 15 คาบเกี่ยววันที่ 16 ส.ค.66 จนทำให้บ้าน และรถยนต์ของรองนายกฯ โดนกระสุนปืนเจาะพรุนได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายธนดล พรมอ่อน หรือดล อายุ 26 ปี เพื่อนลูกชายรองนายกฯ โดนกระสุนเฉียดใต้ราวนมข้างขวา ซึ่งวันนี้ได้มีลูกชายรองนายก อบต. ที่บ้านและรถถูกกระสุนเจาะได้รับความเสียหาย รวมทั้งเพื่อนที่ถูกยิงและอยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านรองนายก อบต.หูทำนบที่เกิดเหตุ ก็พบนางนริตา ที่รัก อายุ 53 ปี ภรรยาของรองนายกฯ ก็ชี้ให้ดูจุดที่แก๊งวัยรุ่นก่อเหตุยิงใส่ จากการตรวจสอบพบว่าทั้งหลังคา เสา ตัวบ้าน และรถยนต์ที่จอดไว้ข้างบ้านมีรอยกระสุนปืนเจาะพรุนรวม 20 นัด ส่วนปลอกกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐานหลายปลอก เบื้องต้นทราบว่ามีทั้งปลอกกระสุนปืนขนาด .38 และ .22

จากการสอบถามนายธนดล พรมอ่อน (เสื้อขาวคอกลม) เพื่อนลูกชายรองนายก อบต. ที่ถูกกระสุนผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 6 คน ได้มานั่งเล่นที่หน้าบ้านของรองนายก อบต.หูทำนบ เพราะเป็นเพื่อนกับลูกชาย ซึ่งก็จะมานั่งเล่นกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้ลูกรองนายกฯ ไม่อยู่ขับรถออกไปบ้านภรรยา จากนั้นช่วงประมาณ 18.00 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกหมู่บ้านซึ่งอยู่ติดกันขับรถผ่าน แล้วหนึ่งในนั้นก็ตะโกนเหมือนประกาศศักดาว่า "อำเภอปะคำใครก็ได้" แต่กลุ่มพวกตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรก็นั่งเล่นกันต่อ

กระทั่งประมาณ 5 ทุ่ม ได้ขับรถไปเจอกันที่หน้าหมู่บ้านจึงได้ชกต่อยกันแต่อีกฝ่ายสู้ไม่ได้พากันขับรถหนีไป แล้วพวกตนก็กลับไปนั่งที่หน้าบ้านรองนายกฯ เหมือนเดิมเพราะรอเพื่อนที่เป็นลูกรองนายกฯ กลับมาจากบ้านภรรยา จนช่วงประมาณตี 1 กลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องชกต่อยกันเกือบ 20 คน ได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์มาหน้าบ้านโดยมีทั้งมีดสปาต้า และปืน หนึ่งในนั้นตะโกนถามว่า “ใช่มันมั๊ย” พอสิ้นเสียงก็ใช้ปืนกราดยิงทันที โดยที่พวกตนไม่ทันตั้งตัวต่างพากันวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง ก่อนจะพากันขับหนีไปท่ามกลางความมืด ตนมารู้สึกตัวทีหลังว่ากระสุนเฉียดเข้าใต้ราวนมเพื่อนจึงพาส่ง รพ. ส่วนบ้านและรถถูกกระสุนเจาะพรุน คาดว่าชนวนเหตุคงไม่พอใจที่ต่อยสู้พวกตนไม่ได้ทั้งที่ประกาศศักดาไว้

ด้านนายไกรวิทย์ ที่รัก อายุ 30 ปี (เสื้อดำคอกลม) ลูกชายรองนายก อบต. บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่อยู่เพราะไปบ้านแฟน แต่เพื่อนก็จะมานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านตนเป็นปกติอยู่แล้ว กระทุ่งช่วง 5 ทุ่ม เพื่อนโทรไปบอกว่า มีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน ตนจึงขับรถจากบ้านแฟนเพื่อมาพูดคุยกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเพราะบางคนก็รู้จักกันไม่อยากให้มีเรื่องมีราวกันก็ดูท่าทีไม่น่าจะมีอะไร จึงกลับไปบ้านแฟนเหมือนเดิม กระทั่งช่วงตี 1 เพื่อนก็โทรไปบอกอีกว่า กลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องชกต่อยกันได้ขับรถมากระหน่ำยิงที่บ้าน มีคนบาดเจ็บ 1 คน บ้านและรถเสียหาย จึงรีบขับรถกลับมา

ระหว่างทางก็เจอกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุพอดี จึงได้ขับตามแล้วใช้มือถือถ่ายคลิปทะเบียนรถไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปแจ้งตำรวจ ทั้งนี้ลูกรองนายกฯ ยังได้นำคลิปขณะกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุที่มีคนถ่ายเอาไว้บางช่วง มาให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย ซึ่งในคลิปก็จะเห็นทั้งถือมีดสปาต้า และเสียงปืนดังหลายนัด ส่วนตัวมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะกระสุนอาจจะโดนเด็กหรือคนในบ้านที่ไม่รู้เรื่องได้ ก็อยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ 1 คน คือนายดิว อายุ 28 ปี ซึ่งนายดิว ก็ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการก่อเหตุ เขาบอกว่าไปขี่รถเล่นตนจึงขับตามไป โดยไม่รู้ว่าจะไปก่อเหตุอะไร และตอนที่มีเรื่องชกต่อยกันตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และไม่รู้ว่ากลุ่มที่ไปด้วยกันมีอาวุธปืน มารู้อีกทีก็ตอนที่เขาก่อเหตุแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วยเพราะตนยิงปืนไม่เป็น และไม่รู้ว่าคนยิงเป็นใคร

จากข้อมูลทราบว่าหนุ่มในวัยรุ่นที่ก่อเหตุยิงถล่มบ้านรองนายกฯ และรถยนต์เสียหาย และเพื่อนบาดเจ็บ ชื่อนายโซ่ อายุประมาณ 22 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะได้เร่งติดตามตัวมาสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า

สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ

ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ

เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช  ปุ๋ย  และค่ารถตัดที่แพงขึ้น 

บุรีรัมย์ระดม ชรบ.ชายแดน 2,000 นาย ฝึกเข้มรับมือเหตุฉุกเฉิน

บ้านกรวดเปิดแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ติวเข้ม ชรบ. 118 หมู่บ้าน ใช้อาวุธ–ป้องกันตัว เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยชาวบ้านแนวชายแดน หลังเหตุระเบิด-ปะทะชายแดนถี่ขึ้น

ชาวบุรีรัมย์ เตรียมร้อง 'อนุทิน' ให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบอื้อ

ชาวบุรีรัมย์เตรียมเข้ากรุงเทพยื่นหนังสือนายกฯอนุทินให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล เผยชาวบ้านไม่ยอมรับการจัดเวทีรับฟัง-หวั่นผลกระทบอื้อ

ชาวบ้านยังผวา เล่าอดีต 40 ปีก่อน เขมรแดงบุกปล้นสะดม-ฆ่าคนไทย วอนปิดด่าน 'ช่องสายตะกู' ถาวร

ชาวบ้าน ผู้สูงอายุชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน เคยถูกเขมรแดงเข้ามาปล้นสะดม จุดไฟเผาตลาดนิคมบ้านกรวด ทำให้มีทรัพย์สินเสียหาย คนตายหลายชีวิต ทั้งยังมีเขมรที่ลี้ภัยสงครามเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัยจนเกือบเสียดินแดน แต่ถูกทหารไทยผลักดันออกไปก่อน อยากให้ทางการปิด "ช่องสายตะกู" ถาวรกลัวเขมรแฝงตัวเข้ามาหาข่าวหรือทำร้ายคนไทยอีก

อธิบดีปกครอง รับเป็นการบ้านเรื่องค่าตอบแทน ชรบ. ชายแดน เสนอรัฐบาลพิจารณา

อธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่บุรีรัมย์ ติดตามสถานการณ์ตามแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เยี่ยมให้กำลัง ปชช. ที่ได้รับผลกระทบเหตุสู้รบและผู้ปฏิบัติงานชายแดน พร้อมหนุนงบสร้างหลุมหลบภัย