
28 ส.ค.2566-ความคืบหน้าเหตุ 2 คนร้ายเป็นชายสวมชุดดำและไอ้โม่งปิดบังใบหน้า บุกสาดน้ำกรดใส่นักเรียนหญิง ม.6 ขณะนั่งกินข้าวอาการโคม่า ป้าและน้าที่นั่งกินข้าวด้วยกันก็โดนด้วยแต่ไม่สาหัส เหตุเกิดที่ร้านขายอาหารตามสั่ง เลขที่ 107 ถนนสังขกาจประชานุสรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เร่งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดร้านขายของชำใกล้ร้านอาหารตามสั่งที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับผ่านช่วงเวลา 13.36 น. ใกล้เคียงเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เร่งกระจายกำลังออกติดตามไล่ล่ารถคันดังกล่าว พร้อมไล่กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 27 ส.ค.66 พ.ต.ต.จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเป็นชายสวมไอ้โม่งปิดใบหน้า 2 คน ก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่ชาวบ้านมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดที่ร้านขายอาหารตามสั่ง เลขที่ 107 ถนนสังขกาจประชานุสรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ก็พบ น.ส.นัฎฐิกานต์ ไขรัมย์ หรืออั้ม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ถูกน้ำกรดสาดใส่ใบหน้า บริเวณหน้าอก ไหลอาบลำตัวสภาพผิวหนังไหม้ เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยจากฤทธิ์ของน้ำกรด ร้องครวญครางด้วยความปวดแสบปวดร้อน หน่วยกู้ภัยฯ จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนางรอง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ส่วนนางตา บวรรัมย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นป้า และนายวิวัฒน์ ชะเกตุรัมย์ อายุ 40 ปี (สาวประเภทสอง) ซึ่งเป็นน้าของน้องอั้ม ก็โดนน้ำกรดกระเด็นใส่ตามใบหน้า ลำคอ แขน เป็นรอยไหม้แต่ไม่สาหัส จึงได้ทำการปฐมพยาบาลและส่ง รพ.เพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการเช่นแต่อาการไม่สาหัส
สอบถามนายวิวัฒน์ ชะเกตุรัมย์ น้าน้องอั้ม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนางตา ซึ่งเป็นแม่ พร้อมด้วยตนเอง และน้องอั้ม หลานสาว กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในร้านซึ่งเปิดขายอาหารตามสั่ง ก็มีรถเก๋ง สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าร้าน จากนั้นก็มีผู้ชาย 2 คนดูจากลักษณะท่าทางน่าจะอายุประมาณ 20 – 30 ปี สวมชุดดำ ใส่หมวกอีโม่งปิดบังใบหน้าเดินถือคุถังมาคนละใบ พุ่งตรงเข้าสาดน้ำกรดใส่น้องอั้ม หลานสาวทั้ง 2 ถัง แล้วก็วิ่งขึ้นรถเก๋งที่มีคนขับติดเครื่องรออยู่แล้วขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลานก็ร้องด้วยความเจ็บปวดตอนนั้นทั้งตกใจและสงสารหลานมาก เพราะถูกน้ำกรดสาดใส่ทั้งใบหน้า หน้าอก ลำตัว และเสื้อผ้าจนขาด ส่วนแม่ และตนเองก็โดนน้ำกรดกระเด็นใส่ตามหน้า คอ ลำตัว และแขน แต่ไม่สาหัสเท่าหลาน จึงได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือก็พากันเอาน้ำราดใส่ตัวหลานเพื่อล้างน้ำกรดออก แล้วรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยฯ ให้มารับตัวส่ง รพ.
นายวิวัฒน์ บอกว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเหมือนเจาะจงสาดน้ำกรดใส่หลานสาว ส่วนแม่ และตนเองแค่โดนลูกหลง แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเพราะอะไร ก็คาดการณ์ไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องชู้สาว และเงินกู้รายวัน หากเป็นเรื่องชู้สาว ก็ไม่รู้จะเกี่ยวกับแฟนเก่าของหลานหรือไม่ ซึ่งเขาเคยมีเลิกรามีเรื่องกันแต่ก็เคลียร์กันจบไปแล้ ส่วนเรื่องเงินกู้ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ตนไปกู้เงินรายวัน 3,000 กำหนดจ่ายวันละ 100 บาทจนกว่าจะครบ แต่ที่ผ่านมาจนก็จ่ายตลอดไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงไม่แน่ชัดเรื่องสาเหตุ
“ตอนนี้เป็นห่วงหลานสาวมากเพราะอากาหารสาหัส โดยเฉพาะดวงตา ซึ่งขณะที่นายวินัฒน์ น้าน้องอั้ม ให้การกับตำรวจ ก็ได้ยกมือไหว้เหรียญหลวงพ่อคูณที่แขวนติดตัว เพื่อขอให้ช่วยคุ้มครองหลานสาวให้ปลอดภัยด้วย หากหลานไม่เป็นอะไรมากจะถือศีลนุ่งขาวห่มขาวให้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
แม่ค้าผักทรุด! โจรบุกบ้าน กวาดเกลี้ยงทอง-เงินสูญ 6 แสน
พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายลักทรัพย์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ภายในบ้านพักเลขที่ 150/18
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม
ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น


