บุกรุกที่ร่องน้ำสาธารณะบนเกาะหลีเป๊ะ เบียดขับชาวอูรักลาโว้ย100 ครอบครัว-อุทยานตั้งท่าตรวจเข้ม ชาวเลเกาะหลีเป๊ะถูกไล่หนักเอกชนล้อมรั้วเตรียมถมร่องน้ำธรรมชาติ อุทยานฯตะรุเตาเงียบกริบ ด้านตำรวจไม่กล้าเข้าตรวจสอบเกรงถูกคดีบุรุก
21 ธ.ค.2564 - ชาวเลอูรักลาโว้ยรายหนึ่งบนเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างชาวบ้านกับเอกชนผู้อ้างสิทธิ์บนที่ดินชุมชนชาวเลอีกครั้ง โดยมีการส่งคนงานเข้าไปปักเสาล้อมรั้วบริเวณร่องน้ำสาธารณะ เพื่อปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านซึ่งเป็นชาวเลกลุ่มอูรักลาโว้ยเข้าไปใช้ประโยชน์หรือสัญจรผ่าน ทำให้บ้านของชาวเลที่ปลูกติดร่องน้ำอาจถูกไล่รื้อไปด้วย ซึ่งชาวบ้านกังวลว่าจะมีการนำที่ดินให้เอกชนรายอื่นเช่าต่อเพื่อเปิดร้านค้า ร้านอาหาร และโรงไฟฟ้าของเอกชน ทั้งที่ชุมชนชาวเลตกเป็นจำเลยคดีฟ้องขับไล่จากเอกชนที่ถือเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก และยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น
“เอกชนรายเดียวถือ นส.3 ก 81 ไร่ แต่ครอบครองจริง 146 ไร่ บางส่วนปล่อยให้นายทุนเช่าทำรีสอร์ต ร้านอาหาร และฟ้องชาวบ้าน 15 หลังคาเรือนว่าเป็นผู้บุกรุก ทั้งที่จริงชาวเลเป็นคนพื้นเมือง ชุมชนตั้งอยู่บนเกาะหลีเป๊ะหลายชั่วอายุคน ตอนนี้ต้องถูกไล่ออกจากหน้าชายหาดมาอยู่รวมกันอย่างแออัดกว่า 100 ครัวเรือน ถ้าถูกไล่รื้ออีกก็คงไม่มีที่ให้ชาวบ้านอยู่บนเกาะหลีเปีะได้อีก เพราะอีกด้านก็ติดเขตอุทยานแห่งชาติ” ชาวบ้านรายนี้ กล่าว
ชาวบ้าน กล่าวอีกว่า ร่องน้ำสาธารณะจุดนี้เคยเป็นคลองธรรมชาติที่มีทางออกสู่ทะเล แต่เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ถูกเอกชนรายเดียวกันทำการถมดินทับปากคลอง ทำให้น้ำไม่มีทางออกสู่ทะเล จนส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเน่าและน้ำท่วมชุมชนบ่อยครั้ง เนื่องจากร่องน้ำสาธารณะเป็นจุดรับน้ำของเกาะหลีเป๊ะ ถ้าปล่อยให้มีการถมร่องน้ำ น้ำต้องท่วมขังในชุมชนแทน
ชาวบ้านกล่าวอีกว่า ชาวบ้านแจ้งให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าไปในจุดที่มีการล้อมรั้ว เนื่องจากกลัวว่าจะถูกเอกชนฟ้องบุกรุกที่ดิน ขณะที่ทางอุทยานแห่งชาติฯ มีคดีฟ้องร้องเอกชนในคดีทวงคืนผืนป่านั้น ยังไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบพื้นที่ จึงมีเพียงผู้ใหญ่บ้านและปลัดอำเภอเข้ามาเจรจาหาทางออกร่วมกัน ทำให้คนงานหยุดปักรั้วชั่วคราวในขณะนี้
ด้านนายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาซึ่งดูแลเกาะหลีเป๊ะ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องที่มีเอกชนบุกรุกที่ดินสาธารณะที่เป็นแหล่งน้ำ แต่เมื่อทราบเรื่องก็จะรีบดำเนินการตรวจสอบ หากมีการกระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าที่ได้มีการตรวจสอบและฟ้องดำเนินคดีเอกชนที่นำเอกสารสิทธิปลอมมาใช้และบุกรุกที่ดิน หัวหน้าอุทยานฯกล่าวว่า ได้มีการฟ้องร้องไป 44 ราย โดยส่วนใหญ่ศาลได้พิพากษาให้อุทยานฯชนะคดี แต่เอกชนได้ร้องเรียนไปยังศาลปกครองสูงสุดว่าเรามีคำสั่งโดยมิชอบ ซึ่งขณะนี้กำลังรอคำพิพากษาอยู่ ทั้งๆนี้เมื่อ 2-3 ปีก่อนกรมอุทยานฯได้เคยมีหนังสือถึงกรมที่ดินให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่มิชอบในบางแปลง แต่จนถึงวันนี้กรมที่ดินก็ยังไม่ได้ดำเนินการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วุ่น! หลังน้ำลด ติดล็อกเอกสารหาย อุปสรรคลงทะเบียนเยียวยา
ชาวหาดใหญ่–สตูลเดือดร้อนหนักหลังน้ำลด เร่งลงทะเบียนเยียวยาท่ามกลางอุปสรรคด้านเอกสาร
สตูลวิกฤต! น้ำป่าทะลัก-ดินถล่ม ท่วมทั้ง 7 อำเภอ ดับ 1 ราย
ฝนยังถล่มมาอย่างต่อเนื่องจนน้ำท่วมทุกพื้นที่ น้ำยังคงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองอำเภอละงู รวมถึงขยายวงสู่ในตัวอำเภอเมืองสตูลหลายจุดระดับน้ำท่วมสูง
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ นร. ตชด. เสียชีวิตเหตุโคลนถล่ม
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพวงมาลาแก่นักเรียนโรงเรียน ตชด. เสียชีวิตจากเหตุดินโคลนถล่มทับบ้าน ในพื้นที่ จ.สตูล "ผบ.ตร."สั่ง ตชด.สร้างบ้านหลังใหม่ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
“รองนายกฯ สุชาติ ” ชูโครงการอาหารเพื่อสัตว์ป่า ระหว่างกรมอุทยานฯ กับ ซีพี แอ็กซ์ตร้าฯ เป็นหมุดหมายสำคัญสู่ Zero Food Waste เดินหน้าลดปริมาณขยะอาหารต่อเนื่อง
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางอาหารเพื่อสัตว์ป่าระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) และพิธีรับมอบอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) โดยมีนายวีระ ขุนไชยรักษ์
เศร้า! โลมาตายเกยตื้นชายหาดทรายยาว
โลมาตายเกยตื้นอีก! ฝั่งทะเลอันดามันสตูล พบเศษอวนรัดพันตัว


