ชาวบ้านตำบลกลอนโด เดือดร้อนหนัก ผู้ประกอบการท่าทราย นำเรือดูดทรายเข้ามาดูดทรายจากแม่น้ำด้านหลังบ้านจนเกิดดินทรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเต็มพื้นที่ ล่าสุด ลามถึงเสาหลังบ้าน เสี่ยงบ้านถล่ม ร้องไปหลายหน่วยงานนานกว่า 4 ปี แต่ยังไร้การแก้ไข ผู้ประกอบการยังนำเรือเข้ามาดูดทรายทุกวัน จนบ้านใกล้พังร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน
18 ก.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดที่เกิดเหตุหมู่ 9 ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านไร่มันสำปะหลังมีบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ติดกับท่าดูดทรายของเอกชนรายหนึ่ง มีสภาพที่ตลิ่งทรุดตัวเป็นแนวยาวกอไผ่ล้มถอนราก พื้นดินเป็นหลุมๆ อย่างเห็นได้ชัด
ป้าเล็ก อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี พาผู้สื่อข่าวไปดูร่องรอยความเสียหายของพื้นดินที่เกิดหลุมยุบหลายจุด รวมถึงพื้นที่ด้านหลังบ้านของป้าเล็กเอง ที่เกิดดินทรุด ดินถล่ม จนลามมาถึงเสาด้านหลังบ้าน เสี่ยงที่บ้านจะเกิดพังถล่มตลอดเวลา โดยป้าเล็กบอกว่า ผลกระทบต่างๆเหล่านี้ เกิดมาจากการที่มีผู้ประกอบการท่าทราย นำเรือดูดทรายเข้ามาดูดทรายในแม่น้ำลำภาชี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของป้าเพียงไม่กี่ร้อยเมตร โดยผู้ประกอบการรายนี้ นำเรือเข้ามาดูดทรายในแม่น้ำจุดด้านหลังบ้านของตนเป็นเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว แต่เดิมพื้นที่บริเวณบ้านของตนมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่
แต่หลังจากเริ่มมีผู้ประกอบการนำเรือเข้ามาดูดทราย พื้นที่ริมน้ำที่เคยติดกับที่ดินบ้านของตนก็เริ่มเกิดดินทรุด ดินถล่ม หาดทรายริมแม่น้ำลำภาชีที่เคยสวยงามและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านในพื้นที่ ก็ถูกดูดหายไปจนหมด ยิ่งผุ้ประกอบการนำเรือเข้ามาดูดทรายใกล้ฝั่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้พื้นที่บริเวรบ้านของตนและชาวบ้านรายอื่นๆที่อยู่ริมแม่น้ำได้รับความเสียหาย เกิดเป็นหลุมยุบหลายจุด โดยเฉพาะบ้านของตน ที่ตอนนี้ เริ่มเกิดหลุมยุบใกล้กับเสาด้านหลังบ้าน ไม่รู้ว่าจะส่งผลทำให้บ้านของตนพังถล่มลงมาวันไหน
นอกจากบ้านของตนแล้ว ยังมีชาวบ้านในพื้นที่อีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากการดูดทรายของผู้ประกอบการรายนี้ แต่ก็ไม่กล้าออกมาเรียกร้องอะไร เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของผู้ประกอบการ ส่วนตนเอง แม้จะเดินหน้าร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน ทั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอด่านมะขามเตี้ย สำนักงานเจ้าท่า และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงแจ้งตำรวจ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา กลับไม่เคยมีการแก้ไขปัญหาใดๆเลย
ตนเคยพูดคุยกับเจ้าของท่าทรายเพื่อขอร้องให้หาทางแก้ไข แต่เจ้าของท่าทรายกลับปฏิเสธว่า ที่เกิดดินยุบ หลุมยุบ เป็นภัยธรรมชาติ ไม่ได้เกิดมาจากการดุดทรายของตัวเอง ทุกวันนี้ ผู้ประกอบการยังคงนำเรือเข้ามาดูดทรายใกล้กับบ้านของตนมากขึ้นเรื่อยๆ จนสร้างความเสียหายให้กับที่ดินและบ้านของตน รวมถึงบ้านของชาวบ้านในพื้นที่อีกหลายหลัง ทำให้พวกตนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
หากเป็นไปได้ก็อยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ดูว่าที่เกิดหลุมยุบหลายจุดในพื้นที่ เกิดจากภัยธรรมชาติหรือเกิดจากการดูดทรายของผุ้ประกอบการรายนี้กันแน่ และขอให้หน่วยงาน ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตาดำๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน ให้ผู้ประกอบการหยุดการดูดทราย ก่อนที่บ้านของตนและชาวบ้านอีกหลายหลังจะพังถล่มจนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยในที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
PRINC ชูบริการเต็มรูปแบบ รพ.ธนกาญจน์ มุ่งยกระดับบริการทางการแพทย์ เพื่อชาวกาญจนบุรี และประชาชนภาคตะวันตก
โรงพยาบาลธนกาญจน์ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเดินหน้ายกระดับการให้บริการทางการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC Group โดยมุ่งมั่นพัฒนาทั้งสถานที่และบริการ
‘อิ๊งค์’ โพสต์ พรุ่งนี้ไปกาญจนบุรี ดูโครงการต้นแบบการขุดเจาะน้ำบาดาล
8 มิ.ย. 2568 - น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีการประชุมเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญของรัฐบาล เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวางค่ะ
โฆษกกองทัพไทยยันโดรนที่สังขละบุรีบินตามอำนาจหน้าที่ถูกต้อง!
โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ชี้แจงกรณีพบเห็นอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ลูกศิษย์อดีตพระยันตระ เตรียมพื้นที่จัดงานศพที่สำนักป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวเดินทางพบประธานสำนักวัดป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นลูกศิษย์ที่เคารพเคยไปขึ้นศาลที่สหรัฐอเมริกา ให้กับพระยันตระ
หาดใหญ่ระทึก! ถนนทรุดตัวเป็นโพรงลึก ขยายวงกว้างเรื่อยๆ ผลพวงจากน้ำท่วม
ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผลพวงหลังจากที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่และพื้นที่รอบนอกของตัวเมืองหาดใหญ่


