จับอลัชชี มารศาสนา ซุกยาบ้าในกุฏิ ส่งขายเยาวชนในพื้นที่

4 ก.ย.2567 - พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ร้อย ตชด.237) ฐานปฏิบัติการ ต.ไชยบุรี อ.ท่อุเทน จ.นครพนม มอบหมายให้ ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าวฯ (หน.ชปข.ร้อย ตชด.237) นำตัวนายบุญทวี พึ่งเมือง อายุ 56 ปี หรืออดีตพระบุญทวี เจ้าสำนักสงฆ์รวมพรรัศมีธรรม ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 สายนครพนม-บ้านแพง บ้านพนอมทุ่ง หมู่ 4 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังร่วมกับฝ่ายปกครองท่าอุเทน กองร้อยทหารพรานที่ 2103 (ร้อย ทพ.2103) และตำรวจ สภ.ท่าอุเทน เข้าตรวจค้นภายในกุฏิพบยาบ้าจำนวน 166 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในชั้นเก็นของ และ ยาไวอากร้าที่ถูกใช้ไปหมดแล้ว 1 แผง เหตุเกิดเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี หน่วยงานความมั่นคงได้จับกุมเยาวชนใน ต.พนอม และพื้นที่ใกล้เคียง ในข้อหาเสพยาเสพติด ทั้งนี้เยาวชนให้การอันเป็นประโยชน์ ว่า ซื้อยาบ้ามาจากพระรูปหนึ่ง จำพรรษาอยู่สำนักสงฆ์รวมพรรัศมีธรรม เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจึงออกหาข่าว กระทั่งทราบเบื้องต้นว่าพระรูปดังกล่าวชื่อพระบุญทวี เป็นคนในพื้นที่ บวชตั้งแต่ปี 2558 จากนั้นก็ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดอื่น ก่อนจะกลับมาดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ประมาณ 3 ปี ซึ่งจากการสืบสวนสำนักสงฆ์จะปิดประตูด้านหน้า ไม่ให้ใครเข้านอกออกในได้สะดวก เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามสืบสวนทีละเปลาะ โดยแฝงตัวเป็นคนมาทำบุญ จึงรู้ว่าพระบุญทวีจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว และจะระมัดระวังตัวตลอดเวลา หลังฉันเช้าเสร็จจะปิดประตูทางเข้าทันที จึงไม่ค่อยมีใครรู้ความเคลื่อนไหวภายในสำนักสงฆ์เท่าไหร่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนงานรับจ้างกรีดยางคนหนึ่ง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ ต.พนอม เนื่องจากมีท่าทีพิรุธน่าสงสัย ค้นตัวพบยาบ้าจำนวน 4 เม็ด สารภาพว่าซื้อมาจากพระบุญทวีในราคา 3 เม็ด 100 บาท เพิ่งเสพในกุฏิพระไป 2 เม็ด แล้วก็ออกมาเจอเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ผู้ต้องหาได้บอกว่า ตอนเข้าไปในกุฏิพระบุญทวี เห็นเอายาบ้าออกมาจากชั้นเก็บของ หน่วยงานความมั่นคงจะบูรณาการวางแผน เพื่อเข้าไปจับกุมพระบุญทวี เชื่อว่ายาบ้ายังคงอยู่ในชั้นเก็บของตามคำให้การของคนกรีดยาง หลังประชุมกันเรียบร้อยจึงนำกำลังเข้าจู่โจม ตรวจค้นสำนักสงฆ์ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนเพื่อตรวจค้นกุฏิ โดยพระบุญทวียินยอมให้ดำเนินการแต่โดยดี และก็เป็นไปตามคาด พบซองถุงสีน้ำเงินซุกอยู่ในชั้นเก็บของ ภายในเป็นยาบ้าจำนวน 166 เม็ด นอกจากนี้ยังเจอยาไวอากร้าที่ใช้หมดแล้วอีก 1 แผง พระบุญทวีจึงจนมุมด้วยหลักฐาน ยอมรับว่าเป็นยาบ้าที่ซื้อมาจากนายทุนชาวลาว ในราคาเม็ดละ 10 บาท โดยจะสั่งซื้อครั้งละ 200 เม็ด มาแบ่งขาย 3 เม็ด 100 บาท ส่วนยาไวอากร้าพระบุญทวี ไม่ยอมปริปากว่านำมาใช้กับใคร เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสึกกับเจ้าคณะตำบลพนอม โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนสอบสวนนานถึง 2 ปี กว่าจะจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว

ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว

พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา

วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์

จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์

แม่เหยื่อคานก่อสร้างถล่ม เล่าทั้งน้ำตา อีกไม่กี่นาทีลูกชายก็จะเลิกงานแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และ นางกันนิกา ทุมทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายโจ้ผู้ตาย โดยพบว่าบริเวณหน้าบ้านได้มีกางเต็นท์

หนังเค็มอีสาน ดังไกลข้ามโลก เมืองนอกสั่งออเดอร์ โกยเดือนละแสน

หนังเค็มผลิตมาจากหนังควาย คือการถนอมอาหารตามแบบภูมิปัญญาชาวอีสาน มาหลายชั่วอายุคน เหมือนเป็นมรดกสืบทอดวัฒนธรรมการกิน ส่งจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบัน โดยชาวอีสานมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย รวมถึงอาหารก็จะกินอย่างง่ายๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ชาวอีสานจึงรู้จักแสวงหาอาหารในท้องถิ่น