ปภ.พังงา ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน 'ดินถล่ม-ตลิ่งทรุด' หลังฝนตกหนัก

21 ก.ย.2567 - นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอเมืองพังงา นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดพังงา นายทรงชัย นาคฤทธิ์ กำนันตำบลถ้ำน้ำผุด และ นายทรงยศ นาคฤทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำน้ำผุด ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยดินสไลด์ บริเวณหมู่บ้านจัดสรร ริมคลองถนนใหม่ ซอยรุ่งเรือง 1-2 หมู่ที่ 3 ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา

ผลจากการตรวจสอบทีดินสไลด์ลงไปในลำคลองเป็นแนวยาวประมาณ100เมตร มีบ้านจำนวน 6 หลังคาเรือนที่เสี่ยงภัย และมีบ้านจำนวน 6 หลังคาเรือนเสี่ยงสูง รวมจำนวน 12 หลังคาเรือน ซึ่งทางหน่วยงานราชการได้หาแนวทางในการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ได้กำชับให้ในพื้นที่ดูแลความปลอดภัยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากดินสไลด์ตลิ่งพังเบื้องต้นจากการลงดูพื้นที่โดยได้ให้ทางท้องถิ่นนำหินมาถมเบื้องต้นก่อนซึ่งขณะนี้ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงาได้ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินในการดำเนินการซึ่งได้ให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้นได้ขนย้ายเข้าของจากหลังบ้านมาไว้หน้าบ้านเพื่อความปลอดภัยและเป็นการลดน้ำหนักของตัวบ้าน

นายสงบ สะโตน หัวหน้า ปภ.จังหวัดพังงา กล่าวว่าจากการตรวจสอบสภาพพื้นที่ขณะนี้บ้านเรือนยังไม่ได้รับความเสียหายแต่ตัวดินที่สไลด์ตลิ่งที่พังเข้ามาถึงแนวรั้วของบ้านเดิมประชาชน เพราะฉะนั้นทางจังหวัดได้ออกประกาศเตือนเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำงบประมาณเข้ามาช่วยในการป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ดินสไลด์พังลงไปมากกว่านี้และเพื่อไม่ให้ตัวบ้านทรุดตามลงไปซึ่งเป็นการป้องกันพร้อมทั้งได้แจ้งให้ประชาชนเตรียมพร้อมสังเกตการณ์หากเกิดเหตุการณ์ดินสไลด์สามารถเคลื่อนย้ายออกได้ทันท่วงที

นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอเมืองพังงา กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากท้องถิ่นได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบพื้นที่หมู่ที่ 3 ถ้ำน้ำผุด ว่ามีเหตุดินสไลด์ตลิ่งพังใกล้กับบ้านเรือนประชาชนโดยต่อจากนี้ทางอำเภอและจังหวัดจะลงมาดูแลเยียวยาพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ได้ความเดือดร้อน และขณะนี้พบว่าบริเวณหลังบ้านที่มีดินสไลด์ระดับน้ำในคลองยังสูงอยู่และไหลเชี่ยวยังไม่สามารถดำเนินการได้ ต่อจากนี้ทางท้องถิ่นจะดำเนินการเสนอแผนในการทำเขื่อนป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ต่อเนื่องเพราะจุดที่เกิดเหตุเป็นดินทรายที่สไลด์ลงมาแล้วระยะห่างประมาณ 3-4 เมตรดูแล้วอันตรายจึงต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและสังเกตดินที่สไลด์หากเกิดความผิดปกติต้องย้ายออกจากบ้านโดยเร็ว

ทางด้านชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่ฝนตกหนักต่อเนื่องกันเป็นหลายวันน้ำที่แยกออกมาจากคลองงาเป็นคลองสาขาย่อยซึ่งอยู่ติดกับหลังบ้านของประชาชนทำให้ฝนที่ตกสะสมเป็นเวลาหลายวันตลิ่งริมคลองหลังบ้านถูกน้ำกัดเซาะจนถึงแนวรั้วบ้านและสไลด์ลงไปในคลองและรั้วบางจุดเริ่มมีรอยแตกร้าวซึ่งตอนนี้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวมีความกังวลเป็นอย่างมากเพราะจะทำให้ตัวบ้านทรุดลงไปในริมคลอง