จากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำฝนไหลบ่า เอ่อเข้ามท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และไหลบ่าเอ่อท่วมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม เส้นทางหลักสู่ภาคอีสานตอนล่าง โดยระดับน้ำสูงตั้งแต่ 30-90 ซม. ในฝั่งขาเข้ ากรุงเทพฯ ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ยาวกว่า 2 กม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรในช่องทางดังกล่าว และเปิดช่องทางพิเศษให้วิ่ง 1 ช่องทาง
5 ต.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในห้วงที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหลายแห่งเริ่มมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้มีมวลน้ำจากที่ต่างๆได้ไหลบ่าเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ไร่นา และไร่อ้อยของเกษตรกรในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.บุกระสัง กับ ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ รวมกว่า 2,000 ไร่
อีกทั้งมวลน้ำดังกล่าวยังได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ซึ่งเป็นเส้นหลักของภาคอีสานตอนล่าง ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 96-92 ตั้งแต่บริเวณ ภูธารา กรีนปาร์ค ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ไปจนเกือบถึงบ้านหนองมัน ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ รวระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร โดยระดับน้ำได้ท่วมสูงตั้งแต่ 30-90 ซม. จึงทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้
เจ้าหน้าที่หมวดการทางหนองกี่ ตำรวจ สภ.หนองกี่ ฝ่ายปกครอง อ.หนองกี่ อบต.ทุ่งกระตาดพัฒนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องปิดการจราจรในช่องทางดังกล่าว เนื่องจากระดับน้ำที่ยังคงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้เปิดช่องทางพิเศษให้วิ่ง 1 ช่องทาง คือฝั่งขาเข้าตัว อ.หนองกี่ ซึ่งพบว่าในบางจุดน้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมถนนในฝั่งนี้เช่นเดียวกัน โดยระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 ซม. โดยทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่สัญจรผ่านต้องใช้ความระมัดระวัง และสามารถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ
ในขณะที่ นายชัยณรงค์ เกิงรัมย์ ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอหนองกี่ พร้อมด้วย นายเชิดศักดิ์ ทัศศรี ปลัดอำเภอฯ ร.ท.อิสระ ไกรกลาง สัสดีอำเภอฯ น.ส.อัมพร ทิพย์ลม นายก อบต.ทุ่งกระตาดพัฒนา ผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อหาแนวทางการแก้ไข และรายงานจังหวัดให้ทราบต่อไป พร้อมกับนำรถเครื่องจักรกลหนักของหมวดการทางหนองกี่ ขุดลอกเอาเศษวัชพืชและขยะมูลฝอยที่ขังอุดแน่นบริเวณปากท่อระบายออก เพื่อให้น้ำได้ไหลระบายดียิ่งขึ้น
นายชัยณรงค์ เกิงรัมย์ ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอหนองกี่ กล่าวว่า น้ำท่วมที่เกิดขึ้นจากน้ำที่หลากเข้ามาจากทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่คือในฝั่งโซนทางทิศใต้ มที่อาจจะมีการระบายน้ำลงมา ประกอบกับพื้นที่ในจุดดังกล่าวเป็นที่ราบลุ่ม จึงทำให้เกิดน้ำไหลบ่าเอ่อเข้าท่วม โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่รถที่สัญจรไปมา พร้อมกับปิดช่องทางการจราจรที่ถูกน้ำท่วมขังสูง 1 ช่องทางจราจร และเปิดช่องทางพิเศษให้รถสัญจรสวนทางกันใน 1 ช่องทางด้วย พร้อมกับสำรวจพื้นที่และเร่งหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้ระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่ปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งพบว่าขณะนี้ระดับที่ไหลบ่าและเอ่อเข้าท่วมทั้งพื้นที่การเกษตรใน 2 ตำบล คือ ต.บุกระสัง กับ ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เริ่มมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุทิน-เนวิน’ ร่วมพิธีปิดทองฉัตร 9 ชั้น เสาต้นที่ 37 ก่อนกินส้ม
นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อม พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงปร
นายกฯ นำคณะบวงสรวงรัชกาลที่ 1 เปิดงานปิดทองเบิกฟ้า จ.บุรีรัมย์ เสริมสิริมงคล
นายกฯ นำคณะบวงสรวงรัชกาลที่ 1 เปิดงานปิดทองเบิกฟ้า จ.บุรีรัมย์ เสริมสิริมงคล ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้าน ‘เนวิน’ นั่งใต้ต้นฉัตรเงินต้นที่ 37
ชาวบ้านกรวดเริ่มเปิดร้าน หาเงินเลี้ยงชีพ แม้ไม่มั่นใจเขมรหยุดยิงจริง
ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าตามแนวชายแดน ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มกลับไปทำมาหากิน และเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวและชำระหนี้สินกันแล้ว
สมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกคึกคัก ภท.-ปชน.ลงครบ
เปิดรับสมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกบรรยากาศคึกคัก หลายพรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต “ไชยชนก” นำทีมภูมิใจไทย ขณะที่ “ศิริกัญญา” นำทัพพรรคประชาชน ขอปักธงส้มในพื้นที่
'ปชน.' กระจายแกนนำสมัคร สส. 'เท้ง' หัวเรือ กทม. 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงิน
'ปชน.' กระจายแกนนำให้กำลังใจผู้สมัครแบบเขตทุกภูมิภาค 'เท้ง' นำทีม กทม. 7 โมงเช้าถึงกีฬาเวสน์ 2 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงินบุรีรัมย์ 'อ.ต้น' ลงใต้ 'ต๋อม' ปักหลักหัวเมืองเหนือ
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

