
11 ต.ค. 2567 – ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านแบบครึ่งปูนครึ่งไม้สองชั้นบ้านเลขที่116 หมู่ 9 บ้านไผ่ ตำบลไผ่ อำเภอรัตนบุรี ซึ่งเจ้าของเป็นคุณยายวัย 83 ปี ชื่อว่านางสาวชุติมา ไชยทอง อาศัยอยู่เพียงลำพัง มีอาชีพเก็บของเก่าขาย รถดับเพลิงจำนวน 4 คันจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไผ่ อบต.ธาตุ อบต.ดอนแรด และเทศบาลรัตนบุรี รุดเข้าช่วยเหลือระดมฉีดน้ำสกัดนานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลังทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด
นางประภาพร ยงรัมย์ อายุ 57 ปี ผู้อยู่ใกล้บ้านหลังไฟไหม้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั่งอยู่ที่รั้วบ้านตนเองติดกับหลังบ้านที่เกิดเหตุ มองเห็นควันสีดำพวยพุ่งขึ้นทางด้านทิศตระวันออกของบ้านที่เกิดเหตุ จึงนึกว่าคุณยายชุติมาเผายางรถยนต์ เพราะว่ากลุ่มควันดังกล่าวลอยขึ้นท้องฟ้าสีดำขนาดใหญ่ ตนนั่งดูนาน 5 นาที จึงรีบบอกสามี แล้วรีบวิ่งไปดูให้ชัดๆ ว่าเป็นกลุ่มควันอะไรกันแน่ ก่อนสามีจะรีบมาบอว่าเป็นเหตุไฟไม้บ้านของคุณยายชุติมา ก่อนตนและสามีจะวิ่งมาช่วยกันดับไฟและเก็บของออกห่างๆ และตระโกนบอกชาวบ้านมาช่วยประสานตำรวจให้ทราบ
ด้านนางบัวไข ไชยทอง อายุ70 ปี มีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้ เล่าว่า บ้านของตนเองปลูกติดกับบ้านที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้นไปทำความสะอาดบ้านอีกหลังซึ่งอยู่บ้านใต้ และลูกชายวิ่งมาบอกว่าแม่ๆๆ ไฟไหม้บ้านป้าทองมา ได้ฟังลูกชายบอกตนแทบล้มทั้งยืน

ขณะที่นางสาวชุติมา ไชยทอง (ยายทองมา) อายุ 83 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง หลังกลับจากจูงรถจักรยานปั่นสองล้อตระเวนออกหาเก็บเศษขยะจำพวกขวดพาสติก ขวดเบียร์ กระป๋องเบียร์ และขยะอื่นๆที่ขายได้ เดินทางมาถึงบ้าน ยายทองมาถึงกับมีสีหน้าเศร้าหมอง หมดอาลัยตายยาก ญาติๆ ต่างพยุงมานั่งบนเก้าอี้แล้วหายาหม่องมาให้ยายทองมาได้สูดดม จากนั้นยายทองมาเล่าว่า ตนเองเป็นสาวเฒ่าไม่สามีไม่มีลูก บ้านหลังที่ถูกไฟไหม้เป็นเงินสมัยเคยไปรับจ้างทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วสร้างบ้านเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้แบบสองชั้นราคา 2 แสนบาท ภายในบ้านชั้นสองของบ้านมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จำนวน 4 ตู้ และมีผ้าไหม ปลอกหมอน สะสมไว้ด้วย ส่วนชั้นล่างมีเตียงนอน ตู้เย็น พัดลม ตู้กับข้าวถ้วยจานต่างๆ และยังมีถุงบรรจุขวดพาสติดที่ตระเวนเก็บมาถุงใหญ่ 3 – 4 ถุง รอนำไปขาย
ยายทองมา เล่าด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุขึ้นไปไหว้พระในหิ้งพระชั้นบนบ้านโดยไม่ได้จุดธูปเทียนใดๆ เลย ทานข้าวเสร็จแล้วก็จูงรถจักรยานปั่นสองล้อออกไปตามท้องถนน เพื่อหาเก็บขวดเหล้า ขวดเบียร์ กระป๋องเบียร์เหมือนทุกๆ วัน ทั้งนี้มีเงินสะสมในบัญชีธนาคารออมสินจากการเก็บขยะขายและเงินผู้สูงอายุในบัญชีฝากไว้จำนวนเงินเพียง 3,417 บาท และมีเงินติดกระเป๋าเสื้ออีกร้อยกว่าบาท ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เคยมี เพราะตกสำรวจ รัฐบาลแจกเงินหมื่น จึงไม่ได้ เพราะไม่มีโทรศัพท์ ทุกวันขายขยะได้จะเก็บออมและซื้อข้าวสารมาหุงและซื้อกับข้าวหลังจากนี้ไปจะอยู่ยังไงใครจะช่วย

ทั้งนี้ ท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือยายทองมาผู้ประสบภัยอัคคีภัยในครั้งนี้สามารถช่วยเหลือผ่านบัญชี ออมสิน สาขารัตนบุรี บัญชีเงินฝากเรียก 020310080054 ตามศรัทธาได้โดยตรง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตฯส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะปราจีนบุรี
อุตฯ สั่งชุดเต็มเหนี่ยวส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเฝ้าระวังผลกระทบเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะปราจีนบุรี – ยืนยันคุณภาพอากาศยังไม่เกินมาตรฐาน
เจ้าของอาลัย ช้างพลายคู่หมู่บ้านล้มปริศนา หลังสัตว์เลี้ยงทยอยตายในพื้นที่
เจ้าของอาลัย ช้างพลายคู่หมู่บ้านล้มปริศนา หลังสัตว์เลี้ยงทยอยตายในพื้นที่ – ปศุสัตว์จังหวัด เร่งเก็บเลือดตรวจหาสาเหตุในพื้นที่เกิดเหตุ
โรงเรียนชายแดนซ้อมอพยพหลบภัยหากเกิดเหตุปะทะ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่ายังคงตึงเครียด โดยเฉพาะเรื่องทหารกัมพูชาที่แหล่งข่าวระบุว่า มีการเสริมกำลังขึ้นมาประชิดชายแดนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนชายแดนที่ทราบข่าว
ชาวบ้านยังผวา! โดรนปริศนาบินเหนือชุมชนกลางดึก หวั่นป่วนชายแดนซ้ำ
สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาในพื้นที่ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่รายงานพบโดรนต้องสงสัยบินต่ำเหนือชุมชนหลายแห่งตามแนวชายแดน โดยมีการบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน
ชายแดนเดือด! คนสุรินทร์ผวาบึ้ม แห่ขายยางหาเงินอพยพ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปตามติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้พบกับชาวบ้านไทยสันติสุข หมู่ที่ 16 ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพูดคุยสอบถามถึงสถานการณ์ชายแดน
บ่ายนี้ 'ไทย-กัมพูชา' ลงนามถอนอาวุธ 3 เฟส
บ่ายนี้ 'ไทย-กัมพูชา' ลงนามถอนอาวุธ 3 เฟส 'กองทัพไทย' ย้ำเดินหน้าสันติภาพชายแดน ยึดหลักอธิปไตย-ผลประโยขน์ชาติ พร้อมรอดูความจริงใจเขมร


