ย่าทารกเพิ่งคลอดไหปลาร้าหักและติดเชื้อในกระแสเลือด จากการช่วยทำคลอดของ รพ. รุดแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมไหว้พระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้าโรงพักขอให้มีปาฏิหาริย์ หลังหมอแจ้งหลานอาการทรุดหนักไตวาย ปัสสาวะไม่ออก เสี่ยงเสียชีวิต
6 ธ.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเพ็ชร เกาะแก้ว อายุ 47 ปี ย่าของทารกเพศหญิง ที่เพิ่งคลอดได้ 10 กว่าวัน มีอาการตัวเหลือง หายใจผิดปกติต้องรักษาอยู่ในตู้อบที่ รพ.หลังจากคลอด จนเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.67 หมอแจ้งว่าไหปลาร้าหักและต่อมาในวันที่ 3 ธ.ค.67 ติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง ก่อนที่ทาง รพ.จะชี้แจงว่า อาจเกิดจากการใช้เครื่องมือช่วยทำคลอดของทาง รพ.เพราะปากมดลูกเปิดน้อย ได้เดินทางเข้าแจ้งความเป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์
หลังจากล่าสุด ทางหมอแจ้งว่า หลานมีอาการทรุดหนัก ไตวาย ปัสสาวะไม่ออก หากภายใน 1-2 วัน ยังปัสสาวะไม่ออกเสี่ยงจะเสียชีวิตได้ จึงต้องมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวจริง ก็จะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมตามกระบวนการ
ทั้งนี้ หลังจากแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางเพ็ชร ผู้เป็นย่า ยังได้ไปกราบไหว้พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้า สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ และขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดกับหลานให้อาการดีขึ้นและปลอดภัยด้วย
นางเพ็ชร ย่าของทารกเคราะห์ร้าย บอกว่า หลังจากไปเห็นสภาพของหลานที่รักษาในห้องทารกที่ป่วยวิกฤต และหมอแจ้งว่า ล่าสุด มีอาการไตวาย ปัสสาวะไม่ออก ซึ่งเสี่ยงจะเสียชีวิตได้ ทั้งตนและลูกชาย ซึ่งเป็นพ่อของน้อง ก็ทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะลูกชายซึ่งเป็นพ่อของเด็ก ถึงกับน้ำตาคลอเพราะสงสารลูกมาก ซึ่งหมอรับปากว่าจะดูแลเต็มที่ แต่พอวันนี้กลับแจ้งว่าหลานอาการทรุดหนัก ส่วนลูกสะใภ้ หรือแม่ของเด็ก ที่มีอาการติดเชื้อในช่องคลอดจากการเย็บแผล ก็ยังรักษาตัวที่ รพ.แต่อยู่คนละตึก ก็ยังไม่สามารถไปเยี่ยมลูกของตัวเองได้ แต่พอย่าไปเล่าอาการของลูกให้ฟังลูกสะใภ้น้ำตาคลอเช่นกันเพราะรับไม่ได้ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจให้ย่าเดินทางมาแจ้งลงบันทึกประจำวันที่โรงพักไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดอะไรขึ้นกับหลานจะได้ดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมตามกระบวนการ
คุณย่า ยังบอกอีกว่า ตอนที่ไปเยี่ยมหลานเห็นหลานน้ำตาไหลคิดว่าคงจะเจ็บปวดมาก ตนจึงบอกกับหมอและกระซิบบอกหลานว่า ย่าจะตั้งชื่อให้ว่า “ปาฏิหาริย์” นะ เพราะย่าอยากให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับหลานอยากให้เขารอดปลอดภัย ถ้าเขารอดก็จะตั้งชื่อนี้เลย อยากให้หลานได้มีโอกาสเห็นหน้าพ่อแม่ และ ย่า ตายาย ว่าหน้าตาเป็นยังไง เพราะตอนนี้มีแต่พ่อแม่ ย่า ตายาย ที่เห็นหน้าเขา ก็ภาวนาขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า
สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ
ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ
เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช ปุ๋ย และค่ารถตัดที่แพงขึ้น
บุรีรัมย์ระดม ชรบ.ชายแดน 2,000 นาย ฝึกเข้มรับมือเหตุฉุกเฉิน
บ้านกรวดเปิดแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ติวเข้ม ชรบ. 118 หมู่บ้าน ใช้อาวุธ–ป้องกันตัว เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยชาวบ้านแนวชายแดน หลังเหตุระเบิด-ปะทะชายแดนถี่ขึ้น
ชาวบุรีรัมย์ เตรียมร้อง 'อนุทิน' ให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบอื้อ
ชาวบุรีรัมย์เตรียมเข้ากรุงเทพยื่นหนังสือนายกฯอนุทินให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล เผยชาวบ้านไม่ยอมรับการจัดเวทีรับฟัง-หวั่นผลกระทบอื้อ
ชาวบ้านยังผวา เล่าอดีต 40 ปีก่อน เขมรแดงบุกปล้นสะดม-ฆ่าคนไทย วอนปิดด่าน 'ช่องสายตะกู' ถาวร
ชาวบ้าน ผู้สูงอายุชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน เคยถูกเขมรแดงเข้ามาปล้นสะดม จุดไฟเผาตลาดนิคมบ้านกรวด ทำให้มีทรัพย์สินเสียหาย คนตายหลายชีวิต ทั้งยังมีเขมรที่ลี้ภัยสงครามเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัยจนเกือบเสียดินแดน แต่ถูกทหารไทยผลักดันออกไปก่อน อยากให้ทางการปิด "ช่องสายตะกู" ถาวรกลัวเขมรแฝงตัวเข้ามาหาข่าวหรือทำร้ายคนไทยอีก
อธิบดีปกครอง รับเป็นการบ้านเรื่องค่าตอบแทน ชรบ. ชายแดน เสนอรัฐบาลพิจารณา
อธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่บุรีรัมย์ ติดตามสถานการณ์ตามแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เยี่ยมให้กำลัง ปชช. ที่ได้รับผลกระทบเหตุสู้รบและผู้ปฏิบัติงานชายแดน พร้อมหนุนงบสร้างหลุมหลบภัย


