
“ผบ.ทบ.” สั่งกำลังทหารช่างเคลื่อนย้ายจาก จ.ปัตตานี เข้าช่วยใน จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพร สมทบหน่วยทหารในพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชนหลังเกิดอุทกภัย
15 ธ.ค.67 พ.อ. ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก ได้มอบหมายให้กรมการทหารช่างส่งกำลังพล เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ เสริมภารกิจศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ในการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ล่าสุดในวันนี้ วันนี่(15 ธ.ค.) ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้กรมการทหารช่างจัดชุดทหารช่างจำนวน 2 ชุด พร้อมยุทโธปกรณ์ เคลื่อนย้ายเร่งด่วนจาก จ.ปัตตานี เข้าพื้นที่ประสบภัยใน จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งสถานการณ์โดยรวมอยู่ในระดับวิกฤติ
โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หลังสวน, อ.ปะทิว, อ.เมือง จ.ชุมพร และ อ.พระแสง,อ.บ้านนาสาร, อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร มีน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ในบางพื้นที่ เส้นทางคมนาคมหลายสายถูกตัดขาด บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์ถูกน้ำท่วมเสียหาย
โดยชุดทหารช่างได้เข้าสมทบหน่วยทหารในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชน พร้อมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือในการเข้าช่วยเหลือ ประกอบด้วย รถบรรทุก 5 ตันประกอบเครนยก, เรือกู้ภัย, รถสายพานสะเทินน้ำสะเทินบก, รถบรรทุกแบบ FTS, รถพยาบาล พร้อมด้วยชุดทหารช่างผลิตน้ำประปาสนามและผลิตน้ำดื่มปลอดภัย RO (ระบบ Reverse Osmosis) เพื่อแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนใช้ในการบริโภคอย่างเพียงพอและปลอดภัย
ทั้งนี้ กองทัพบกขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติของทุกส่วนราชการในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อมุ่งบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างความปลอดภัยในสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น พร้อมเคียงข้างช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'กองทัพบก' ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
ทบ.ระดมเฮลิคอปเตอร์ อากาศยาน หน่วยแพทย์ และหน่วยรบพิเศษ เต็มสรรพกำลัง สนับสนุนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยภาค 4 ส่วนหน้า เร่งช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยภาคใต้ให้ผ่านพ้นวิกฤต
นับหนึ่ง"ปฏิบัติการทางทหาร" พลิกยุทธวิธีจาก “ป้องกัน-ได้สัดส่วน”
หลังจากเกิดเหตุทหารเหยียบระเบิดช่วงเช้าของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง เป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 4 นาย หนึ่งในนั้นคือ จ.ส.อ.เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ ข้อเท้าขวาขาด
ปมขัดแย้งยังอยู่“เตรียมพร้อม-ไม่ประมาท” ปฏิกิริยา"กองทัพ"หลังคำแถลงร่วม
เอกสาร 2 ฝ่ายที่นายกฯ ของไทย อนุทิน ชาญวีรกูล และนายกฯ กัมพูชา พล.อ.ฮุน มาเนต ลงนาม โดยมี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ นายอันวาร์ อิบราฮิม
ส่อง“2วงทวิภาคี-รั้วชายแดน” “มวยลีลา”ชกตรงเป้าหรือไม่?
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดสระแก้ว ยังไม่มีสัญญาณขอคืนพื้นที่แบบฉับพลันทันใด แต่ฝ่ายไทยแสดงออกถึง “ความพร้อมเมื่อสั่ง” ของหน่วยในพื้นที่ ด้วยการฝึกซ้อมของหน่วยปฏิบัติ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สารวัตรทหาร การลงพื้นที่ของผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆ รวมถึงการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหาร การรื้อทำลายสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ซึ่งเรายึดครองมาได้ในช่วงสมรภูมิ 5 วัน
โหมไฟใต้ “ต้นปีงบฯ” สูตร“ปรับฉก.-ขันนอตงานข่าว”
“จึงไม่แปลกถ้าจะมีการวิเคราะห์ว่าเป้าหมายของผู้ก่อเหตุต้องการลองของผู้ที่ลงมาแก้ไขในพื้นที่ชุดใหม่ ซึ่งเป็นสูตรเดิมที่กองทัพบกเคยใช้มาก่อนช่วงปี 2560 และค่อยปรับกำลังมาใช้กำลังพลในพื้นที่”
ทัพภาค 1 ส่ง 'ฉก.นราธิวาส' 800 นาย ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนใต้
ส่งทหาร 'กองทัพภาค 1' จำนวน 1 กองพัน จัดจาก พล.ร.9-พล.ร.11-มทบ.11 ลงจังหวัดชายแดนภาคใต้ คุม 'ฉก.นราธิวาส' ทบ. ส่ง 'รองด้วง-ยอดอาวุธ' อดีต ผบ.ร31 รอ. น้องรัก 'บิ๊กปู' นำทัพ


