ป.ป.ช.ภูเก็ตสั่งโรงแรมรุกหาดบางเทารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง!

'ป.ป.ช.ภูเก็ต' ลงพื้นที่ติดตามเชิงรุกกรณีก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ หาดบางเทา ภูเก็ต พบโรงแรมหลายแห่งรุกล้ำที่สาธารณะ สั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด หากฝ่าฝืนดำเนินคดี

12 มี.ค.2568 - สำนักงานป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ติดตามเชิงรุกกรณีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สาธารณะ หาดบางเทา หมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการป้องปรามและลดคดีทุจริตในพื้นที่ ร่วมกับสมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดภูเก็ต โดย บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8, กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต, อำเภอถลาง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล เมื่อ 11 มีนาคม 2568

โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้เคยลงพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ตามที่ได้รับข้อมูลจากเครือข่ายภาคประชาชน ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดภูเก็ต กรณีการสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สาธารณะ ณ หาดบางเทา หมู่ที่ 3 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

จากการลงพื้นที่ พบว่า อาคารที่กำลังดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ได้ขึ้นโครงไว้เมื่อวันที่วันที่ 22 มกราคม 2568 ในการลงพื้นที่ครั้งแรก ปัจจุบันได้ทำการรื้อออกแล้วเหลือแต่โครงฐานข้างล่างเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังพบจุดบริเวณที่คาดว่าเป็นพื้นที่สาธารณะมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น เช่น ร้านอาหาร ที่มีการก่อสร้างคาดว่า รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ชายหาด โรงแรมหลายแห่ง มีการนำก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนมากมาตั้งไว้ โดยอ้างว่า เพื่อลดแรงกระแทกของคลื่น การสร้างพื้นที่พักผ่อนของโรงแรม รุกล้ำพื้นที่เข้ามา รวมทั้งกำแพงหินที่ดินกั้นทางเดินบริเวณชายหาดทำให้ผู้คนไม่สามารถเดินบริเวณหาดสาธารณะได้

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ให้ข้อเสนอแนะในเบื้องต้นแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการตั้งป้ายไวนิล ในเรื่องของการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบว่า ที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะและรุกล้ำลำน้ำ ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและสิ่งของต่าง ๆ ที่ได้มีการตั้งหรือวางไว้ออกทั้งหมด ทั้งผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ ร้านอาหาร หรือผู้ประกอบการประเภทอื่นที่อยู่ในพื้นที่บริเวณหาดบางเทาทั้งหมด

โดย กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต ได้ให้ข้อเสนอแนะเช่นเดียวกันโดยมุ่งเน้นให้มีการติดประกาศหรือติดป้ายเพื่อแจ้งให้กับผู้ประกอบการที่กำลังจะดำเนินการหรือดำเนินการแล้วได้รับทราบทั่วกัน

องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลและอำเภอถลางแจ้งว่าจะดำเนินการจัดทำป้ายประกาศเพื่อให้เจ้าของที่ดินในแต่ละพื้นที่ทราบว่าให้ดำเนินการเอาสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งของต่าง ๆ ในพื้นที่สาธารณะออกทั้งหมด รวมทั้งจะแจ้งให้ผู้ประกอบการทั้งหมดบริเวณหาดบางเทาที่ได้ก่อสร้างแล้วดำเนินการรื้อถอนออกให้หมด
หากทำหนังสือแจ้งผู้ประกอบการหรือผู้ที่สร้างสิ่งก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาแล้วยังไม่ดำเนินการ ก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลและอำเภอถลางจะดำเนินการทำหนังสือถึงผู้ประกอบการเจ้าของที่ดินเพื่อให้มาร่วมตรวจสอบแนวเขตและชี้แนวเขตพื้นที่ของตนเองร่วมกันโดยดูเอกสารสิทธิมาแสดงแนวเขต

โดยจะดูจากพื้นที่ที่ได้มีการชำระภาษีในแต่ละปีร่วมด้วย รวมทั้งจะยื่นรังวัดกับสำนักงานที่ดิน กรณีพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ หรือพื้นที่ที่ไม่ได้มีการแจ้งแนวเขตไม่มีเอกสารสิทธิและมีการบุกรุกรุกล้ำ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลและอำเภอถลางจะดำเนินการรื้อถอนเอง และหากเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิและมีการรุกล้ำ หากแจ้งให้รื้อถอนแล้วยังไม่ดำเนินการ ก็จะดำเนินการรื้อถอนให้และดำเนินคดีต่อไป

ในส่วนของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ว่าพื้นที่ใดบางที่ถือว่าเป็นการรุกล้ำลำน้ำซึ่งถือเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตและจะดำเนินการลงบันทึกประจำวันร่วมกันกับองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลและอำเภอถลาง

เบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่ร่วมลงพื้นที่ได้เข้าพูดคุยกับผู้ประกอบการบริเวณหาดบางเทาเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในกรณีที่มีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มีความเข้าใจและแจ้งว่าจะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบพื้นที่และหากพื้นที่ใดมีความทับซ้อนและมีการบุกรุกจริงก็พร้อมที่จะดำเนินการรื้อถอนให้ถูกต้อง

ในส่วนที่ได้มีการก่อสร้างเสร็จไปแล้วนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลและอำเภอถลาง จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ว่าเป็นเอกสารสิทธิ์แบบใดมีการออกอย่างถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยจะทำหนังสือถึงผู้ประกอบการเจ้าของที่ดิน

และในส่วนที่มีการก่อสร้างเสร็จแล้วที่เป็นในส่วนของสถานประกอบการร้านอาหารหรือสถานที่ที่มีเจ้าของ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลแจ้งว่าจะดำเนินการแจ้งกับเจ้าของผู้ที่มีการก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในบริเวณที่ไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์เป็นเจ้าของแต่มีการก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สาธารณะให้ดำเนินการรื้อถอน

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้แนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดำเนินการตามที่ได้มีการพูดคุยทั้งในเรื่องการติดป้ายประกาศว่า ห้ามมีการก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำหรือในเรื่องการเชิญผู้ประกอบการเจ้าของที่ดินเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจ รวมทั้งการรังวัดที่ดินให้มีความชัดเจนถูกต้องว่าส่วนใดบ้างเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์และส่วนใดบ้างเป็นพื้นที่สาธารณะ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป มุ่งเน้นในเรื่องของความปลอดภัยในการดำเนินการของทุกฝ่าย

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมร่วมกับกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ และจะดำเนินการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ในการบูรณาการร่วมกันเพื่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบและดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการติดตามผลการดำเนินการต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เริ่มแล้วไทยแลนด์เบียนนาเล่ภูเก็ต 2025 'ซาบีดา' ชูหมุดหมายศิลปะระดับโลก

เริ่มแล้วไทยแลนด์เบียนนาเล่ภูเก็ต 2025 ‘ซาบีดา’ ชูหมุดหมายศิลปะระดับโลก กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว 3 หมื่นล้าน

มอบตัวแล้ว หลานนักการเมืองดังภาคใต้ แทงหนุ่มกลางร้านเหล้าเมืองภูเก็ต

กรณีหลานนักการเมืองชื่อดังในภาคใต้ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดพกสั้นแทง นายกรรณตวีย์ ปรีชา อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช  บาดเจ็บสาหัส ขณะนั่งดื่มกับอดีตแฟนสาวของหลานนักการเมืองชื่อดังในภาคใต้  เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค.68 เวลา 23.15 น.

ภูเก็ตประกาศ 'วัดเกาะสิเหร่' เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ หลังเกิดดินถล่ม

จากเหตุดินสไลด์ บริเวณศาลาประดิษฐาน พระธาตุอินแขวน วัดเกาะสิเหร่ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อ31ส.ค.68ได้รับความเสียหาย

ภูเก็ต ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งจังหวัด เสริมกำลังลาดตระเวน เข้มงวดจุดผ่านแดนทุกช่องทาง

จังหวัดภูเก็ต แถลงการณ์เรื่องการยืนยันความปลอดภัยของพื้นที่และการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในจังหวัดภูเก็ต โดย ระบุว่า