กปภ.เตรียมตรวจน้ำดิบ 'แม่น้ำโขง' หลังมีข่าวพบสารโลหะหนักในบางจุด

กปภ.เตรียมตรวจน้ำดิบแม่น้ำโขงหลังมีข่าวพบสารโลหะหนักในบางจุด-เร่งประสานนักวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างน้ำ ขณะที่ชาวบ้านริมน้ำกกยังเดือดร้อนหนัก-ไม่กล้ากินปลา-ดินโคลนทำต้นไม้ไม่งาม

5 พฤษภาคม 2568 - นายอภิศักดิ์ สวัสดิรักษ์ ผู้จัดการการประปาภูมิภาค(กปภ.)แม่สาย-เชียงแสน จ.เชียงราย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข้อกังวลเรื่องการตรวจพบสารโลหะหนักในบางจุดของแม่น้ำโขง ว่าทาง กปภ.มีแผนที่จะเก็บน้ำดิบในแม่น้ำโขงที่ กปภ.ใช้ผลิตน้ำประปาของเชียงแสนแเละเชียงของ ในเดือนนี้ โดยอยู่ระหว่างการประสานนักวิทยาศาสตร์ในพื้นที่มาเก็บตัวอย่างน้ำในจุดที่ กปภ.ทั้งสองแห่งสูบน้ำไปทำน้ำประปา

นายอภิศักด์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กปภ.ตรวจคุณภาพน้ำทั่วไปจะตรวจทุกเดือน โดยจะมีแลปที่เชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง ส่วนการตรวจสารปนเปื้อนโลหะหนักจะตรวจปีละครั้ง แต่หลังมีสถานการณ์ที่พบสารหนูในแม่น้ำสาขาแม่น้ำโขง โดยเฉพาะน้ำสาย น้ำรวก และน้ำกก จะมีการตรวจถี่ขึ้น ช่วงหน้าแล้งจะตรวจทุกเดือนส่วนในฤดูน้ำหลากก็ดูตามสถานการณ์เพราะเมื่อปริมาณน้ำมาก สารโลหะหนักก็เจือจาง แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

“การผลิตประปามีกระบวนการทางเคมีที่สามารถแยกโลหะหนักออกไปได้ รวมถึงระบบการกรอง และมีการตรวจน้ำหลังกระบวนการผลิตทุกเดือน ความขุ่นของแม่น้ำสายในปีนี้ตอนฤดูน้ำหลากสูงประมาณ 7,000 NTU ซึ่งเป็นช่วงฝนตกมีดินโคลน แต่ช่วงนี้อยู่ในระดับประมาณ 1,000NTU ส่วนในปี 2567 น้ำในแม่น้ำสายความขุ่นอยู่ที่ระดับ 3,000-4,000 NTU”ผจก.กปภ.แม่สาย-เชียงแสนกล่าว

ด้านมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และทีมนักวิชาการ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชมงคล ล้านนาเชียงราย ภายใต้เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก ได้ลงพื้นที่ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะพูดคุยกับชาวบ้านและติดตามการติดตั้งเสาวัดระดับน้ำซึ่งจะแจ้งเตือนเหตุในยามฉุกเฉิน และยังได้หารือถึงสถานการณ์ในพื้นที่

ทั้งนี้ในการลงพื้นที่บ้านผาใต้ ได้สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านชาติพันธุ์ลาหู่ และนัดหมายกับอาสาสมัครในพื้นที่ในการติดตั้งเสาวัดระดับน้ำ ริมน้ำกก พร้อมชวนร่วมอบรมเครือข่ายเฝ้าระวัง นอกจากนี้คณะยังได้ลงพื้นที่บ้านใหม่หมอกจ๋ามซึ่งเป็นชุมชนชาติพันธุ์ไทใหญ่ โดยมี นายสุรชัย ปันจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านใหม่หมอกจ๋าม พาร่วมกิจกรรม

นายสุรชัยกล่าวว่า เมื่อก่อนหลังน้ำท่วมพืชผลทางการเกษตรจะเติบโตงอกงามขึ้นเพราะกระแสน้ำได้พัดพาเอาดินทรายและดินร่วนมาผสมกันในพื้นที่ริมฝั่งน้ำ แต่หลังจากน้ำท่วมเมื่อกันยายน 2567 พบว่าดินกลายเป็นดินโคลนแห้งและเหนียวแน่นมาก ปลูกพืชผลไม่ค่อยขึ้น

“ช่วงน้ำท่วมใหญ่ พวกเราได้วัดเป็นที่พึ่งในการพักพิง การช่วยเหลือเยียวยาที่ต้องมีเอกสารหลักฐานหลายอย่าง ซึ่งบางคนไม่มีรูปถ่ายเพื่อเป็นหลักฐานในการเบิกงบประมาณเยียวยา เราต่างคิดหาวิธี เพื่อให้ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ เมื่อ 20 ปีก่อน กระแสน้ำกกไหลเปลี่ยนทิศทางจากเดิม ซึ่งในตอนนั้นอาจมีข้อดีคือมีที่งอกให้ชาวบ้านได้ทำการเกษตรริมฝั่งน้ำ แต่ไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปทิศทางน้ำจะหวนกลับคืนเพื่อเอาพื้นที่คืนอีกเมื่อไหร่”นายสุรชัย กล่าว

ทั้งนี้ทางคณะยังได้มีโอกาสเข้าไปกราบและนมัสการพระครูปลัดปิยะ ถาวโร เจ้าอาวาสวัดใหม่หมอกจ๋าม เพื่อพูดคุยถึงสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเจ้าอาวาสได้เล่าย้อนถึงเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อ ปี 2567 ซึ่งพระและเณรต่างช่วยเหลือชุมชน ทั้งให้ที่พักพิงชาวบ้านที่บ้านเรือนประสบน้ำท่วมหนักไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และสร้างโรงทานแจกจ่ายอาหารให้คนในชุมชน แต่ละวันกว่า 2 พัน

นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่บ้านแก่งทรายมูล พูดคุยกับชาวบ้านและกลุ่มอาสาสมัครในพื้นที่ที่ร่วมกันเฝ้าระวัง สถานการณืริมฝั่งน้ำ โดยนางฟองชาวบ้านในพื้นที่ได้กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีกรมประมงเข้ามา และให้ชาวบ้านหาปลาเพื่อนำไปตรวจหาสารปนเปื้อนในปลา เนื่องจากกระแสความผิดปกติของตัวปลา ทำให้ชาวบ้านรู้สึกหวาดผวา และไม่กล้าลงไปหาปลากันอีกเลย แม้จะหาปลาได้ก็ไม่ค่อยมีคนกล้าซื้อปลา ได้แต่หวังว่าผลการตรวจปลาจะไม่มีสารปนเปื้อนและสามารถกลับมาทานได้อีกครั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดผลตรวจ 'สารหนู' ในแม่น้ำสาย-รวก-โขง เกินมาตรฐานทุกจุดตรวจวัด

ผลตรวจเดือน พย.พบสารหนูเกินมาตรฐานในแม่น้ำสาย-รวก-โขงทุกจุดตรวจวัด ขณะที่แม่น้ำกกหนักอยู่ที่ ต.ท่าตอนส่วนจุดอื่นเบาบางลง นักวิชาการชี้รัฐยังเฉื่อยไร้แผนตรวจในคน-พืช-สัตว์ แนะเร่งสังเคราะห์ข้อมูลใช้ขับเคลื่อนเวทีระหว่างประเทศ

อีสท์วอเตอร์ สนับสนุนภารกิจ กปภ. ส่งรถน้ำดื่มสะอาดช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

อีสท์ วอเตอร์ หนุนภารกิจ "กปภ." ระดมความช่วยเหลือสู่ภาคใต้ ส่งรถผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ รุดกู้วิกฤตน้ำท่วมสงขลา ย้ำพันธกิจ "น้ำคือชีวิต" เคียงข้างคนไทยทุกสถานการณ์ ส่งมอบน้ำดื่มสะอาดและปลอดภัยสู่มือประชาชน

กรมทรัพยากรน้ำสรุปผลรับฟังความคิดเห็นประชาชน ปัญหาแม่น้ำกก “สุชาติ” ย้ำรัฐบาลยึดเสียงประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยุติแนวคิดสร้างฝายดักตะกอนเด็ดขาด

นายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่อำเภอท่าตอน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก โดยมี นางสลีลญา คำภาแก้ว

กปภ. ผนึก สวทช. นำเทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับคุณภาพบริการประชาชน

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยนายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการ กปภ. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ลงนาม MOU โครงการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการระบบรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการอื่น ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน ณ กปภ. สำนักงานใหญ่ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568

“รองนายกฯ สุชาติ” ลุยเชียงใหม่–เชียงราย เปิดรับฟังข้อเสนอภาคประชาชน เร่งแก้ปัญหาสารปนเปื้อน “แม่น้ำกก” ให้เกิดผลเชิงรูปธรรมโดยเร็ว

วันนี้ (9 ตุลาคม 2568) เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงฯ ดร.สุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่