
ชาวบ้านบุรีรัมย์กลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด ต้านโรงงานน้ำตาลโรงไฟฟ้าชีวมวลหลังพบผลกระทบอื้อ แถมขาดการมีส่วนร่วม พัฒนาไม่สอดคล้องในพื้นที่วิถีชีวิตชุมชน สุดทนเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง จี้หน่วยงานรัฐ – ผู้นำในพื้นที่วางตัวเป็นกลาง
1 มิ.ย.2568 – กลุ่มประชาชนในนาม กลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด อำเภอชำนิ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 200 คน ร่วมกันจัดกิจกรรมที่หน้าว่าการอำเภอบุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ผู้นำและหน่วยงานราชการในพื้นที่วางตัวเป็นกลางต่อกรณีการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยทั้งกลุ่มโอโซนรักบ้านบ้านเกิดยังเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลหลังได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ผ่านมาแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
นายสมพงษ์ สงกูล กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด กล่าวว่า กลุ่มโอโซนรกบ้านเกิด อ.ชำนิ อ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 200 คน ได้เดินทางมาร่วมกันที่หน้าอำเภอชำนิ ก็เนื่องจากกรณีที่จะมีการดำเนินการสร้างโรงงานน้ำตาลกำลังการผลิต 20,000 ตันอ้อย/วัน และโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกกะวัตต์ บริเวณพื้นที่บ้านหนองปล่อง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ จนเกิดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2568 ซึ่งกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวบ้านในพื้น อ.ชำนิ และ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องสิทธิชุมชน ดูแล อนุรักษ์ และจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
นายสมพงษ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาทางกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด ได้ศึกษาบทเรียนผลกระทบจากการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคอีสานที่มีการจัดตั้งโรงงานแล้วนั้น สามารถสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่พบว่า 1.อาชีพหลักในพื้นที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะการทำนา การเลี้ยงวัว ควาย ของชุมชนเป็นต้น 2.หากมีการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลในพื้นที่หนองปล่องจริงจะส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพร่างกายของประชาชน และด้านสิ่งแวดล้อมด้วย อาทิเช่น ฝุ่น PM2.5 , ปัญหาการจราจรของรถบรรทุกอ้อยวิ่งผ่านหมู่บ้าน , การปนเปื้อนของมลพิษในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้อุปโภค บริโภค และการเกษตร ตลอดจนการแย่งชิงทรัพยากรน้ำเพื่อใช้ในโรงงาน เป็นต้น
นายสมพงษ์ ระบุว่า 3.ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลมาก่อน ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ในขณะพื้นที่ที่จะถูกจัดตั้งโรงงานดังกล่าวอยู่ติดห้วยลำปะเทียและห้วยลำนางรองของชุมชนที่ได้พึ่งพาอาศัยหาอยู่หากินและการจัดตั้งโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตรยังครอบคลุม 6 ตำบล เบื้องต้น ที่มีหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และพื้นที่ที่จะจัดตั้งโรงงานจึงเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีโรงงานน้ำตาลอยู่แล้ว 1 แห่ง การสร้างเพิ่มนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต่อพื้นที่แต่อย่างใด แต่ควรจะเปิดลานรับซื้ออ้อยเพิ่มขึ้น
“ และที่ผ่านมาเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 นั้น ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด และชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลอย่างครบทุกด้าน ตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ตัวแทนกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นถึงนายกรัฐมนตรี” นายสมพงษ์ ระบุ
นายสมพงษ์ ระบุต่อว่า โดยข้อเรียกร้องนั้น คือ 1.ให้ทบทวนยกเลิกโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ 2.ให้ยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลข่าวสารมาก่อน และไม่มีส่วนร่วม 3.ให้แต่ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อศึกษาและประเมินศักยภาพของพื้นที่ เพื่อจะได้กำหนดการพัฒนาที่สอดคล้องกับพื้นที่และวิถีชีวิตชุมชนโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยมีตัวแทนกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 4.ให้รัฐจัดซื้อที่ดินบริเวณที่บริษัทกว้านซื้อ เพื่อนำมาจัดทำแหล่งน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ทางกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด อ.ชำนิ อ.นางรอง ได้ยื่นหนังสือถึงกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อให้ลงพื้นที่มารับฟังข้อมูลกรณีการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ในขณะวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ทางกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดได้ยื่นหนังสือถึงท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ลงพื้นที่มารับฟังข้อมูลการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล

ด้านนายสิริศักดิ์ สะดวก ผู้ประสานงานกรรการประชาชนคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ภาคอีสาน กล่าวว่า หนังสือที่ยื่นในวันนี้เพื่อจะบอกกล่าวถึงหน่วยงานราชการและผู้นำในพื้นที่ว่าวางตัวเป็นกลาง เพราะทางเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน และวันนี้ทางเราจะเผาพริกเผาเกลือเพื่อสาปแช่งโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งดังนั้นในวันนี้ทางกลุ่มโอโซนรักษ์บ้านเกิด จึงมีข้อเรียกร้องถึงนายอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ดำเนินการทำหนังสือถึงการให้ผู้นำในตำบลและหมู่บ้านที่เกี่ยวข้องวางตัวให้เป็นกลาง ในกรณีเรื่องโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล จะมีการดำเนินการสร้างโรงงานน้ำตาลกำลังการผลิต 20,000 ตันอ้อย/วัน และโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกะวัตต์ บริเวณพื้นที่บ้านหนองปล่อง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ และเตรียมกำหนดวันวันไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ถึงเหตุผลในการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ในพื้นที่บ้านหนองปล่อง ต.หนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนแน่นวัด! นายกฯอนุทิน เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ 'จ่าเริง' นักรบเนิน 350
คนแน่นวัดนายกฯเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพจ่าเริง นักรบ 350 เพื่อนร่วมรบเผยเพลงที่จ่าเริง แต่งมาร้องให้ฟังครั้งแรกก่อนขึ้นเนิน 350 ระบุทุกครั้งออกรบจ่าเริงจะเอาธงชาติคลุมเหมือนซุปเปอร์แมน เสียงสุดท้ายก่อนออกรบ คือโทรศัพท์หาลูกบอกกลับไปจะพาไปกิน KFC
'บุรีรัมย์'จัดใหญ่ใส่เต็ม 3บิ๊กอีเว้นต์กีฬาระดับโลก 'มาราธอน-โมโตจีพี-รอบเทสต์'ฤดู2026
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยภาคเอกชน ผนึกกำลังจัดการประชุมเตรียมความพร้อมมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2569 ได้แก่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” ฉลองครบรอบ 10 ปี และรุกหนักแผนรับมือ “พรี-ซีซั่นเทสต์และสนามเปิดฤดูกาล” ต่อเนื่องปีที่ 2 “โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026” เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รองรับคลื่นนักวิ่ง-แฟนความเร็วนับแสนสู่ 3 บิ๊กอีเว้นต์ระดับโลก
ร่าง 'จ่าเริง' วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย ถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์
ครอบครัว ญาติพี่น้องรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย กลับสู่บ้านเกิด ในหลวง–พระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เตรียมพระราชทานเพลิงศพ 24 ธ.ค.นี้ ณ วัด ห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่เผย สุดเศร้าหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีก
ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน
แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

