จับแก๊งขนไม้พะยูง มูลค่ากว่า 5 ล้าน จากชายแดนใต้ ส่งริมโขงชายแดนภาคเหนือ

จับแก๊งขนไม้พะยูงมูลค่ากว่า 5 ล้าน จากชายแดนใต้ ส่งริมแม่น้ำโขงชายแดนภาคเหนือ

26 มิถุนายน 2568 - ที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 (ชุมพร) พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สว.กก.5 บก.ป. และ พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญ ชุดปฎิบัติการข่าว กอ.รมน.ชุมพร ได้แถลงผลงานการจับกุมร่วมกัน แก๊งลักลอบค้าไม้พะยูง ยึดของกลางเป็นแกนในอย่างดี กว่า 70 ท่อน มูลค่าหลายล้าน ลักลอบขนจากชายแดนใต้ไปส่งยังริมแม่น้ำโขง ชายแดนภาคเหนือ เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน

โดยสืบเนื่องจาก พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 (ชุมพร) สั่งการให้ ชุดสายตรวจตำรวจทางหลาง นำโดย ร.ต.อ.ชรัณ ปาณะศรี รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.) ร.ต.ต.ใจเทพ สาลี รอง สว.(ป.) นำกำลังออกปฎิบัติหน้าที่บนถนนเพชรเกษมพื้นที่รับผิดชอบ

กระทั่งเมื่อเวลา 05.30 น.วันเดียวกัน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพร้อม รถวิทยุฯ 2406 ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบบนถนนเพชรเกษม กม.470 - 471 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้พบรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม. ได้ขับรถแซงรถวิทยุฯ 2406 ของเจ้าหน้าที่มาในช่องทางเดินรถทางขวาด้วยความเร็ว และมีเหตุสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์สายตรวจไล่ติดตามและทำการเปิดสัญญาณไฟวับวาบเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด และจอดชิดบริเวณขอบทางด้านซ้าย เจ้าหน้าที่พบ นายสมัย เครือสีดา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ตำบลหนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบใบขับขี่ และสอบถามนายสมัย ว่าได้บรรทุกสิ่งใดมา เบื้องต้นนายสมัย แจ้งว่าบรรทุกทุเรียนมาจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร แต่เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นนายสมัย แสดงอาการพิรุธ ลุกลี้ลุกลน จึงขอทำการตรวจสอบภายในรถ พบว่ามีไม้ท่อนซึ่งเป็นไม้แกนในเนื้อแข็ง จำนวน 73 ท่อน ความยาวท่อนละ 2 เมตร บรรทุกอยู่ภายในตู้ทึบของรถคันดังกล่าว เมื่อสอบถามนายสมัยคนขับ เบื้องต้นให้การว่า ไม้ท่อนที่บรรทุกมานั้นเป็นไม้พะยูง ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาทำการตรวจสอบโดยละเอียด ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงท่าแซะ สอบถามนายสมัย ให้การว่า แกนในท่อนไม้พยูงดังกล่าวมีชายชาวมาเลเซีย จำนวน 4 คนบรรทุกมากับรถยนต์กระบะ ติดแผ่นป้ายทะเบียนประเทศมาเลเซีย ตนจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ นำไม้แกนในพะยูงมาทั้งหมดมาส่งถ่ายให้ตน ซึ่งนัดรับกัน บริเวณริมป่าทึบข้างทางซึ่งไม่ทราบจุดที่แน่นอน ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และนำไปส่งปลายทาง บริเวณ ริมแม่น้ำโขง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

นายสมัยกล่าวว่า โดยตนได้รับการว่าจ้างจาก จากนายชัยยพล (ขอสงวนนามสกุล) ได้ติดต่อให้ตนรับงานดังกล่าว ผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งใช้ชื่อ ”ขุนเดช” ได้รับค่าจ้างครั้งล่ะ 15,000 บาท โดยค่าจ้างดังกล่าว ได้รับโอนมาจากบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี ชื่อของนายชัยยพล

นายสมัย ให้การเพิ่มเติมว่าตนได้รับการว่าจ้างให้บรรทุกไม้พะยูง จากนายชัยยพลมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จนกระทำถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและจับกุมในครั้งนี้
 
หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฐานความผิด 1.มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 วรรค2(2) 2.นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39 ขณะจับกุม นายสมัย เครือสีดา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้จัดทำบันทึกการควบคุมตัว และบันทึกการจับกุม นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับแกนในไม้พะยูงของกลาง รวมทั้งสิ้น 73 ท่อน ความยาวท่อนละ 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้างท่อนละ 15 - 20 นิ้ว รวมปริมาตร 1.93 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเงินค่าภาคหลวงประมาณ 482,500 บาท แต่ในแวดวงการค้าในกลุ่มผู้นิยมชาวจีน ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคล จะมีราคาสูงมากกว่า 10 เท่า โดยมีราคาขายท่อนละประมาณ 70,000 -100,000 บาท รวมมูลค่ามากกว่า 5 ล้านบาท