11 ตุลาคม 2568 - ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ และ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผบก.ตม.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ สภ.ทุ่งลุง ร่วมบูรณาการกำลังตรวจสอบรถตู้ต้องสงสัยที่ลานจอดปั๊มน้ำมันริมถนนเอเชีย ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ผลการตรวจสอบพบผู้โดยสาร คนต่างด้าว 9 คน แบ่งเป็นสัญชาติเคนยา 5 คน (ชาย 4 หญิง 1), อูกันดา 2 คน (ชาย 2) และไนจีเรีย 2 คน (ชาย 1 หญิง 1) แม้ทั้งหมดจะมีหนังสือเดินทาง แต่ตราประทับขาเข้าราชอาณาจักรภายในเล่มถูกตรวจพบว่า เป็นของปลอม
คนขับรถให้การว่าได้รับการว่าจ้างจาก นายนาเซร์คาน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี สัญชาติไทย ให้มารับคนต่างด้าวทั้ง 9 คนไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยยืนยันว่าเห็นพาสปอร์ตทุกเล่มมีตราขาเข้า จึงไม่รู้ว่าเป็นของปลอม
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ควบคุมตัว นายนาเซร์คาน ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้าชาวมาเลเซียให้ช่วยรับคนต่างด้าวผิวสี รวม 13 คน ที่ลักลอบเข้ามาทางช่องธรรมชาติ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อไปส่งที่กรุงเทพฯ แลกค่าจ้าง 4,920 USDT (ประมาณ 161,000 บาท)
นายนาเซร์คานยังรับว่า ก่อนขึ้นรถได้ส่งหนังสือเดินทางไปให้ “บังน้อง” คนพื้นที่ตากใบ ปลอมตราประทับเข้าราชอาณาจักร เพื่อหวังหลอกเจ้าหน้าที่ หากถูกตรวจระหว่างทาง โดยคนต่างด้าวอีก 4 คนถูกจัดให้นั่งรถโดยสารสาธารณะ
ภายหลังการจับกุม พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา ได้รายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้ พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 ประสาน พ.ต.ท.วรรณชัย สุขแจ่ม สว.ตม.นครศรีธรรมราช สกัดจับรถโดยสารต้องสงสัยจนสามารถควบคุมตัวคนต่างด้าวที่เหลืออีก 4 คนได้ในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายนาเซร์คาน ในความผิด “ให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือคนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ส่วนคนต่างด้าวทั้ง 13 คน ถูกดำเนินคดีฐาน “เข้าเมืองและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ตราประทับปลอม”
พล.ต.ต.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล เปิดเผยว่า ขณะนี้คนต่างด้าวทั้งหมด ยังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ โดยอ้างเพียงว่ามาเที่ยวในไทยไม่กี่วันก่อนกลับประเทศ แต่ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า ขบวนการนายหน้าเริ่มเปลี่ยนเส้นทางลักลอบเดินทาง หลังไทยเข้มงวดการออกวีซ่าให้กับบางสัญชาติที่มีความเสี่ยงไปทำงานในแก๊ง สแกมเมอร์และพนันออนไลน์
กรณีนี้ เจ้าหน้าที่จึงไม่ตัดความเป็นไปได้ว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดอาจเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหรือค้ามนุษย์ โดยสั่งให้สอบสวนเชิงลึกถึงจุดหมายปลายทางของกลุ่มคนต่างด้าว และหากพบว่าเข้าข่าย ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินการตามกลไกการคุ้มครองและส่งต่อระดับชาติ (NRM) อย่างเคร่งครัด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดีจากสิมิลัน ‘แม่สายฝน’ กลับมาวางไข่รังที่ 3 ยืนยันทะเลไทยยังอุดมสมบูรณ์
อุทยานหมู่เกาะสิมิลันพบเต่าตนุขึ้นวางไข่ 62 ฟอง ที่หาดเล็ก เกาะเมียง คาดเป็น “แม่สายฝน” ตัวเดิม นับเป็นรังที่ 3 ของฤดูกาล สะท้อนความสำเร็จในการอนุรักษ์ทะเลไทยตามแนวพระดำริ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ
'วุฒิสภาไทย' โชว์โปร่งใส-ตอบโจทย์ปชช. ผ่าน 4 กลไก บนเวทีลาว
'วุฒิสภาไทย' แลกเปลี่ยนประสบการณ์รัฐสภาระดับภูมิภาค ณ เวียงจันทน์ ชู 4 กลไก สอดรับแนวปฏิบัติ 'เปิดเผย-ตอบสนองประชาชน'
'อนุทิน' แบ่งโซนพื้นที่ให้ 6 รองนายกฯ 4 รมต.รับผิดชอบ
ครม.แบ่งพื้นที่ตรวจราชการรองนายกฯ-รมต. 'พิพัฒน์' คุมภาคใต้ 'โสภณ' ดูอีสาน 'บวรศักดิ์' แค่สงขลาบ้านเกิด 'เอกนิติ' กำกับปริมณฑล 'ธรรมนัส' 3 จชต.-เหนือตอนบน 'สุชาติ' ภาคตะวันออก 'ภราดร' กลางตอนบน 'ศุภมาศ' เหนือตอนล่าง 'นภินทร' คุมกลางตอนล่าง 'สันติ' ดูโซนเพชรบูรณ์
ชายวัย 64 กะซวกเมียร่างทรงดับคาศาลเจ้าแม่ อ้างถูกฟันก่อนป้องกันตัว
เกิดเหตุสลดในนครศรีธรรมราช ชายวัย 64 แทงอดีตภรรยาร่างทรงเจ้าแม่เสียชีวิต หลังถูกบุกงัดหน้าต่างใช้มีดพร้าฟันหลายแผล ผู้ก่อเหตุอ้างป้องกันตัว ก่อนโทรแจ้งลูกชาย
รวบแล้ว สองพ่อลูกหัวร้อน ยิงเพื่อนบ้านเจ็บ-ตาย กลางงานบวช ทั้งคู่ยังปฏิเสธ
จากกรณีนายสมควร อายุ 35 ปี จ.ขอนแก่น ใช้อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ดัดแปลง ขนาดกระสุน .380 ยิงใส่เพื่อนบ้าน และนายมวน อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นบิดานายสมควร ได้ใช้อาวุธมีดฟันซ้ำ จนทำให้นายธีรวัฒน์ นามวิเศษ อายุ 27
สองพ่อลูกเดือด! ยิง-ฟันเพื่อนบ้านดับ 1 เจ็บ 2 กลางงานบุญ ก่อนหลบหนี
งานบุญหมู่บ้านที่ขอนแก่นกลายเป็นสนามเลือด สองพ่อลูกใช้ปืน-มีดทำร้ายเพื่อนบ้านเสียชีวิต 1 เจ็บ 2 ก่อนหลบหนี ตำรวจเร่งล่า คาดปมความขัดแย้งส่วนตัว มีลักษณะไตร่ตรองก่อนลงมือ


