
4 มี.ค. 2565 – เมื่อเวลา 01.00 น. พ.อ.ธนิตพนธ์ หงส์วิไล ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 (ผบ.ฉก.ร.5) นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก สภ.สะเดา พร้อมกำลังทหารกองกำลังเทพสตรี โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมราบที่ 5 ร้อย ร.5021 ร่วมกับชุดเฝ้า 4304 ร้อย ตชด. 437 ตำรวจ สภ.สะเดาและฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา สกัดจับรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 4908 กำแพงเพชร ที่บริเวณถนนเลียบชายแดนไทย – มาเลเซีย ใกล้กับบ้านเรือนไทย บ้านไทยจังโหลน ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 8 คน เป็นผู้ชายทั้งหมดอัดแน่นมาเต็มท้ายรถกระบะ
ส่วนผู้นำพาเป็นคนไทย 2 คน คือนายเจษฎายุทธ ยะรัง หรือเจษ สัญชาติไทย ชาว ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา และนางสาวสะลีฝ๊ะ หมานระโต๊ะ หรือ ฝ๊ะ ชาว ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทั้งสองคนเป็นผัวเมียกัน โดยสามีเป็นคนขับรถกระบะและภรรยานั่งข้างๆ และขณะถูกจับกุมทั้งสองคนถึงกับกอดคอกันร้องไห้ เนื่องจากภรรยากำลังตั้งท้องแก่ 7 เดือนด้วย
จากการตรวจสอบแรงงานเมียนมาทั้ง 8 คน เป็นแรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายไม่มีหนังสือเดินทาง นอกจากนี้จากการตรวจค้นในตัวนายเจษฎา ยังพบยาบ้า 2 เม็ด และไอซ์ อีก 8.50 กรัมด้วย ซึ่งครั้งแรกปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ของตัวเองถูกเจ้าหน้าที่ยัดให้ แต่สุดท้ายก่อนเข่าอ่อนทรุดตัวข้างรถกระบะยกมือไหว้ร่ำให้ขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุม และยึดโทรศัพท์มือถือ อีก 3 เครื่อง
สอบสวนนายเจษฎายุทธ และภรรยา ให้การตรงกันว่า ได้รับการติดต่อจากนายบ่าว ไม่ทราบชื่อจริง ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวกกลุ่มนี้บริเวณหลังวัดม่วง ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปส่งที่ชายแดนไทยมาเลเซียลักลอบเดินทางต่อเข้าไปยังประเทศประมาเลเซียทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนยาบ้าและไอซ์ก็เป็นของนายบ่าว และนายเจษฎายุทธ ยังบอกอีกว่าเพิ่งเสพยาบ้ามา 3 เม็ด ก่อนที่จะเดินทางไปรับชาวเมียนมากลุ่มนี้ และผลตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติด Amphetamine ด้วย
และจากการสอบสวน นาย แทด ออง อายุ 26 ปี หนึ่งในชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมได้และพูดไทยได้ บอกว่า ทำงานอยู่ใน อ.หาดใหญ่ มา 3 ปี อาชีพรับจ้างส่งของ และได้รับการติดต่อจากมารดา ซึ่งทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซีย ผ่านระบบ Messenger ชื่อ Khin Khin เพื่อให้ตนเองเดินทางเข้าไปไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยมารดาจะเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ไม่ทราบว่าเท่าไหร่และเตรียมเดินทางเข้าไปยังมาเลเซียเมื่อคืนนี้แต่ก็ถูกจับกุมได้ก่อน
ส่วนชาวเมียนมาที่เหลือ จากการสอบสวนผ่านล่ามทราบว่า ได้ติดกับนายหน้าสัญชาติเมียนมา เพื่อต้องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนค่าใช่จ่ายจะจ่ายให้เมื่อสามารถเดินทางเข้าไปยังประเทศมาเลเซียได้แต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ โดยลักลอบเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และได้เดินทางมายังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยรถยนต์กระบะ สีแดง ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน และพักอาศัยอยู่ห้องเช่าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และเมื่อคืนนี้มี นายเจษฎายุทธ และนางสะลีฝ๊ะ สองผัวเมียขับรถกระบะมารับเพื่อเดินทางต่อเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ก็ถูกจับกุมได้ก่อนที่จะข้ามแดน
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่ง สภ.สะเดา ดำเนินคดี โดยในส่วนของสองผัวเมียคนไทยถูกแจ้งข้อหานำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ส่วนแรงงานชาวเมียนมา แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองโควิด19
สำหรับสถานการณ์การค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติขณะนี้พบว่าเริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาได้แล้ว 5 ครั้ง จำนวน 94 คน ทั้งในพื้นที่ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ และ อ.บางกล่ำ ขณะเตรียมส่งเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนไทยมาเลเซียได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบทางด้านการข่าวและลาดตระเวนคุมเข้มชายแดนไทยมาเลเซียเพื่อสกัดการลักลอบค้าแรงงานเถื่อน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบ.ทสส.' ฮึ่ม! ใช้กฎการใช้กำลัง หากกระสุนรบเมียนมา-ชนกลุ่มน้อยตกชายแดนไทยอีก
ผบ.ทสส. รับทราบรายงานกระสุนรบเมียนมา-ชนกลุ่มน้อย ตกชายแดนไทย บอก ประสานพื้นที่แจ้งเตือนแล้ว หากเกิดซ้ำ เตรียมใช้กฎการใช้กำลัง พร้อมเตรียมสั่งอพยพ ปชช.จากที่เสี่ยง
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ปภ. ยืนยันผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา ยื่นขอรับเงินเยียวยา 9,000 บาทโดยไม่ใช้เอกสาร
ปภ. ยืนยัน เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา 9,000 บาท ยื่นคำร้องโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รัฐอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนปฏิบัติ ท้องถิ่นจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และการยืนยันจากพื้นที่

