
กระแสข่าว "บิ๊กตู่"-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เคลียร์ใจกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังนายกฯ ออกมายอมรับเมื่อต้นสัปดาห์ว่า "ได้คุยกันแล้วครั้งนึง"
ส่วนจะสามารถล้างใจได้หมดจดหรือไม่ คงเป็นเรื่องต้องติดตามกันต่อไป หลังก่อนหน้านี้ทาง กลุ่ม 3 ช. ถูก "ลุงตู่" ไล่บี้อย่างหนักหลังศึกซักฟอกรอบล่าสุด ตั้งแต่สั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งเสนาบดี
ต่อด้วย "2 ป." คือ ป.ประยุทธ์ และ "บิ๊กป๊อก"-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พร้อม 6 รมต.สายตึกไทยคู่ฟ้า เปิดเกมไล่บี้ เพื่อให้พ้นโครงสร้าง พปชร.
แต่เพราะบารมี "บิ๊กป้อม"-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. ช่วยเซฟกลุ่ม 3 ช. เอาไว้ แต่สุดท้ายก็มีเหตุฟ้าผ่าให้ต้องเสียแกนหลัก "วิรัช รัตนเศรษฐ" ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตประธานวิปรัฐบาล พร้อมด้วยภรรยาและน้องภรรยา รวม 3 ส.ส.โคราช ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จากคดีจัดสร้างสนามฟุตซอลฉาว
เป็นเหตุให้กลุ่ม 3 ช. หมดอิทธิพลทางการเมืองไปเยอะ เท่านั้นไม่พอ ยังถูกริบโควตาประธานวิปรัฐบาล และ "บิ๊กตู่" สามารถผลักดัน นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ องครักษ์ในสภา มานั่งเป็นประธานวิปรัฐบาล คุมเสียงในสภา ป้องกันกฎหมายสำคัญถูกคว่ำ และองค์ประชุมล่มให้รัฐบาลเสียรังวัด
ด้วยสถานการณ์ที่เหลือทางเดินน้อยลง จึงทำให้ "ร.อ.ธรรมนัส" ต้องลดท่าทีแข็งกร้าวและยอมสนับสนุน "ลุงตู่" ให้อยู่ครบวาระ 4 ปี จบภารกิจเทอมนี้ไปก่อน
รวมทั้งยังมีรายงานว่า ได้ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นกับ "บิ๊กตู่" ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งเกมการเมือง แรงกระเพื่อมทั้งบนดินและใต้ดินและการทำโพล ส.ส. จนเกิดความแตกแยกใน พปชร. เป็นฝีมือของขาใหญ่ ไม่เกี่ยวกับ "ผู้กอง" โดยตรง
เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความจริงใจ "อีเวนต์ ปาร์ตี้" กระชับความสัมพันธ์ในวันที่ 26 พ.ย. สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ที่มี "บิ๊กป้อม" และทีมของ "ผู้กองคนดัง" เป็นโต้โผจัดงานจึงเกิดขึ้น
ด้วยการเชิญแกนนำและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในสมัยประชุมสภานี้ รวมทั้งสยบความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลที่มีข่าวออกมาตลอด รวมทั้งการทำงานในสภาที่มักจะปัญหาทั้งองค์ประชุมล่ม ให้มีความราบรื่นขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ตกปากรับคำไปแล้ว และ พล.อ.อนุพงษ์ก็คงไม่พลาด คาดว่าจะมีไฮไลต์สำคัญคือการเผชิญหน้าพร้อมกันของพี่น้อง 3 ป. และยังจับตาว่าจะมีฉากโชว์หวานระหว่าง "บิ๊กตู่" และ "ผู้กองมนัส" สวมกอดกันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แม้ "ผู้กอง" จะต้องการยุติความขัดแย้ง โดยใช้งานดังกล่าวเป็นสักขีพยานต่อหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและมีสื่อรวมสังเกตการณ์
แต่หากถามใจลึกๆ "บิ๊กตู่" จะยังไว้วางใจ กลุ่ม 3 ช. หรือไม่ เพราะมีกระแสว่า นายกฯ ได้เตรียมทางหนีไฟเอาไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง และ พปชร.ในมือ "ร.อ.ธรรมนัส" ไม่ยอมเสนอชื่อ "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ เพียงคนเดียว
หากสมมุติฐานเป็นจริง "บิ๊กตู่" จะเท พปชร. ย้ายไปพรรคสำรอง โดยมีรายงานว่า "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ที่ล้มแผนการเสนอตัวชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. จะร่วมมือกับ "ปลัดฉิ่ง"-นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีบิ๊ก "ด" เตรียมพรรคการเมืองเอาไว้
และหากนายกฯ ตัดสินใจเช่นนั้น ก็จะมี ส.ส.พปชร.จำนวนมาก และกลุ่มทุนไหลตามไปอย่างแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนั้น "พี่น้อง 3 ป." ที่ว่าเหนียวแน่น อาจจะแตกก็เป็นได้!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน


