โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท นโยบาย เรือธง ของพรรคเพื่อไทย โยกเยก ไร้ความชัดเจนตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ
จากนโยบายเร่งด่วนที่จะทำทันที กลายเป็นนโยบายเร่งไม่ขึ้นที่ไม่รู้จะเริ่มได้เมื่อไหร่
รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เจอสารพัดอุปสรรคตั้งแต่ออกสตาร์ทโครงการ เริ่มตั้งแต่นักเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศร่วม 100 คนลงชื่อคัดค้าน ต่อเนื่องมาถึงข้อท้วงติงทางกฎหมาย ทั้งรัฐธรรมนูญ ทั้ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทั้ง พ.ร.บ.เงินตรา ฯลฯ มาจนถึงข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล ที่แม้ประกาศว่าพร้อมจะสนับสนุน แต่ทุกพรรคมีหมายเหตุตัวโตด้วยกันทั้งสิ้นว่า ต้องถูกกฎหมาย
สารพัดขวากหนาม สารพัดแนวต้าน แต่ด้วยปัจจัยที่ถอยไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายเรือธงที่ใช้ในการหาเสียง ไม่ต่างจากนโยบายจำนำข้าวครั้งที่แล้ว รัฐบาลจึงยอมกลืนเลือด ลดเงื่อนไขเป็นไม่ได้แจกทุกคน มาเป็นกำหนดสเปกคนที่จะได้ใหม่
แต่ขนาดลดสเปก ไม่ได้แจกทุกคน ก็ยังเจอปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย โดยเฉพาะคำว่า ‘วิกฤต-เร่งด่วน’ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่รัฐบาลไม่สามารถปลดล็อกได้
หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล ทั้งกระทรวงการคลัง ทั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกในการดำเนินโครงการ แต่กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คือหน่วยงานเดียวที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไม่สามารถเอาชนะและทำให้เห็นคล้อยตามได้ว่าเศรษฐกิจมันวิกฤตแล้ว
ขนาดองคาพยพในรัฐบาลพยายามเล่นสงครามจิตวิทยาทุกครั้งก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อให้ลดอัตราดอกเบี้ย แต่จนแล้วจนรอด เหมือนรัฐบาลเตะบอลอัดใส่กำแพง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่มีนายเศรษฐาเป็นประธาน ประชุมเรื่องนี้กัน แต่สิ่งที่ได้ไม่ใช่ความคืบหน้า หากแต่เป็นการซื้อเวลา ด้วยการให้คณะกรรมการกลับไปรวบรวมข้อเท็จจริง และศึกษาเรื่องต่างๆ อีก 30 วัน จนบัดนี้ครบกำหนดแล้ว
กระทั่งอยู่ๆ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ออกมาแถลงความคืบหน้า พร้อมกับไทม์ไลน์ที่ชัดเจนมากขึ้น
เป็นการแถลงที่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต เป็นการชิงจังหวะเปิดไทม์ไลน์เพื่อดึงความสนใจจากสงครามน้ำลายของ สว.ในเวทีซักฟอกเมื่อวันจันทร์ ซึ่งพุ่งเป้าอัดนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท
แต่อย่างไรก็ดี ไทม์ไลน์ของนายจุลพันธ์ที่กางออกมา ถือว่า เป็นครั้งที่มีความชัดเจนมากที่สุดครั้งหนึ่ง นั่นคือ วันที่ 27 มี.ค. จะมีการรายงานให้คณะกรรมการชุดต่างๆ ได้หารือกัน เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมดส่งให้คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่มีนายเศรษฐาเป็นประธานในวันที่ 10 เม.ย.
โดยวันที่ 10 เม.ย. คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่จะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่อเดินหน้าโครงการ
ขณะที่ไตรมาส 3 ปีนี้คาดว่า หลัง ก.ค. จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนร้านค้า และภายในไตรมาส 4 ปีนี้คาดว่าหลังเดือน ต.ค. จะเติมเงิน 1 หมื่นบาทไปสู่ประชาชน
“รัฐบาลยืนยันเดินหน้าโครงการนี้อย่างแน่นอน จะทำให้เงินถึงมือประชาชนภายในไตรมาส 4 ปีนี้แน่ โดยยังยืนยันเงื่อนไข เดิมกรอบที่ 50 ล้านราย” นายจุลพันธ์ระบุ
ถือเป็นการแสดงความมั่นใจและกางไทม์ไลน์ที่ชัดมากที่สุดครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะการระบุว่าจะเติมเงินให้ประชาชนในไตรมาสที่ 4 เลย
ขณะที่องคาพยพอื่นๆ ในรัฐบาลก็แสดงความมั่นใจเช่นกัน อย่างเช่น นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และทนายความตระกูลชินวัตร ที่ออกมายืนยันว่ารัฐบาลมีทีเด็ดในการบริหารจัดการการใช้จ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ทำได้แน่นอน และการดำเนินการเป็นไปโดยชอบตามกฎหมาย
ความมั่นใจที่เกิดขึ้นถูกจับจ้องว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ได้รับสัญญาณไฟเขียวแล้วหรือไม่
เพราะถ้าจะให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างความนิยมเพื่อนำไปต่อสู้กับพรรคก้าวไกล ก็จำเป็นต้องให้อาวุธไปสร้างผลงาน ซึ่งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท มันมีผลต่อรังวัดของพรรคเพื่อไทยในกรณีทำได้หรือไม่ได้ทำ
เมื่อจะใช้ก็ต้องให้โอกาสทำ!
เพียงแต่ได้ทำมาก หรือทำน้อย ต้องติดตามในวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งจะมีข้อสรุปออกมาจากคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่
ทั้งเรื่องแหล่งที่มาของเงิน ทั้งเรื่องผู้ที่จะได้รับ ซึ่งมีโอกาสสูงว่าจะเป็นเงื่อนไขจากครั้งล่าสุดที่ได้ราวๆ 50 ล้านคน และไม่น่าลดไปแจกให้เฉพาะกลุ่มเปราะบางเหมือนข้อแนะนำของ ป.ป.ช.ที่ถอยจากธงแรกมากเกินไป
หากรัฐบาลคิดว่าไม่สามารถทำได้แล้ว และทำได้แค่ซื้อเวลาไปวันๆ เหมือนก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ไม่น่าจะหลุดไทม์ไลน์ออกมาชัดเจนแบบนี้เพื่อมัดตัวเอง
ถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามในวันที่ 10 เม.ย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก


