ศึกรอบด้านขนาบ'อิ๊งค์-ทักษิณ' ความนิยมดิ่งเหว พลิกเกมสู้ยาว

สถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ กำลังเผชิญศึกรอบด้าน และกำลังแก้เกมสู้ระยะยาวอย่างไร

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศมา 2 ปี มีแต่เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านลบ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาชายแดนใต้ยังลุกโชน ล่าสุดชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทุขึ้นมาอีก

เมื่อทหารกัมพูชานำคณะแม่บ้านขึ้นมาร้องเพลงชาติตัวเองปลุกใจในพื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนที่ทหารไทยจะเข้าไปห้าม จนเกิดความไม่พอใจและพูดท้าทายกัน

 หลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา GBC กับ พลเอกเตีย เซยฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน และสั่งให้ทุกฝ่ายถอยกลับไปอยู่จุดเดิม ลดการเผชิญหน้า เลี่ยงปะทะ

แต่กองทัพไทยไม่ถอย ยืนยันว่า ปราสาทตาเมือนธม อยู่ในเขตประเทศไทย จนมีข่าวสะพัดว่าจะมีการปลด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2

ต่อมา ทหารกัมพูชาเข้ามายึดเนิน 745 บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน อุบลราชธานี โดยขุดคูเลตสร้างฐานที่มั่นยาวถึง 650 เมตร ห่างจากพื้นที่เดิมประมาณ 5.1 กม. เข้ามาด้านบนฝั่งไทย เมื่อทหารไทยเข้าเจรจา เกิดเหตุปะทะกันในช่วงเช้ามืดวันที่ 28 พ.ค. ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

ทางฝ่ายกัมพูชาประโคมข่าวใส่ร้ายไทยว่าเป็นฝ่ายรุกรานก่อน แต่รัฐบาลไทยกลับไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ขณะที่ พ่อนายกฯ-ทักษิณ ขินวัตร กลับบอกว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็น no man's land หรือพื้นที่ที่ไม่มีใครควบคุม ไม่มีเจ้าของ เข้าทางฝ่ายกัมพูชา!

ด้านกองทัพไทยระบุว่า จุดที่ทหารกัมพูชาขุดนั้น อยู่ระหว่างศาลาตรีมุขกับต้นพญาสัตบรรณ ที่ใช้อ้างอิงพิกัด โดยห่างจากศาลาตรีมุข 500 เมตร และเป็นพื้นที่ในเขตแดนไทย ไม่ใช่เขตทับซ้อนอ้างสิทธิของ 2 ฝ่าย เมื่อกัมพูชายิงก่อนจึงต้องตอบโต้ และไม่ยอมเสียดินแดนแม้ตารางนิ้วเดียว

เมื่อ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ประกาศยื่นข้อพิพาทต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก รัฐบาลไทยถึงได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการหลังเหตุปะทะกันผ่านไป 1 สัปดาห์ แต่ก็ขาดความชัดเจน ไม่ระบุชัดว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายรุกล้ำอธิปไตยไทย       

 ต่อมารัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษ จะไม่นำข้อพิพาทเรื่อง พรมแดนช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และ ตากระเบย หรือ ปราสาทตาควาย ไว้ในวาระการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการกำหนดเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทย หรือ JBC ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากกัมพูชาได้ตัดสินใจส่งเรื่องดังกล่าวไปยัง ICJ แล้ว 

รัฐบาลไทยจึงได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ว่าประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจ ICJ ขอใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC)

 เป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเป็นครั้งแรก และเพิ่งยอมรับว่ากัมพูชาล้ำแดนมา 200 เมตร แต่เมื่อนักข่าวซักถาม นายกฯ อิ๊งค์ ถึงประเด็นดังกล่าว นายกฯ กลับเหวี่ยงใส่ ทำสีหน้าไม่พอใจกับคำถาม ทั้งที่ปัญหามาจากความไม่ชัดเจนของรัฐบาล จึงเท่ากับประจานความไร้วุฒิภาวะของตัวเอง

ในสถานการณ์วิกฤต การสื่อสารของผู้นำประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้คนในชาติมีขวัญกำลังใจ และมั่นใจว่าจะนำพาคนในชาติฝ่าวิกฤตไปได้ อย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า "ถามดิฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องทำอย่างไร ค่อนข้างจะเหมือนประชาชนคนไทยทุกคน?" ประชาชนได้ยินแล้วก็ห่อเหี่ยวใจทันที

ในขณะที่ทหารกัมพูชายกทัพติดชายแดน ประชาชนชาวไทยร่วมกันให้กำลังใจทหารในรูปแบบต่างๆ พร้อมระดมสิ่งของเครื่องใช้ให้ทหารหาญในชายแดน แต่ผู้นำของไทยแต่งตัวสวย ไปร่วมงานฉลองวันเกิดที่่ปรึกษา ถ่ายรูปทำสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนกับไม่รู้สึกรู้สากับเหตุการณ์บ้านเมือง

คนไทยไม่มีใครกระหายสงคราม หรือยั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง แต่ต้องการให้รัฐบาลแสดงความเข้มแข็ง มีชั้นเชิงทางการทูต ประกาศจุดยืนและสื่อสารให้ประชาคมโลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เป็นผู้รุกราน แต่ถูกรุกล้ำอธิปไตย ตอกย้ำพื้นที่ 4 แห่งที่กัมพูชาอ้างเป็นข้อพิพาทนั้นอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย ไม่ใช่เอาแต่ท่องว่า ต้องเจรจา ยึดสันติวิธี

การที่ผู้นำกัมพูชาท้าทายไทยขึ้นศาลโลก เราก็ต้องประกาศให้ชัดว่า เหตุที่ไม่ยอมรับ ICJ ตั้งแต่ปี 2503  เพราะ ICJ ไม่มีความยุติธรรม กัมพูชาอ้างแผนที่ 1:200,000 ส่วนไทยใช้แผนที่ 1:50,000 ยึดสันปันน้ำทำให้เส้นแบ่งไม่ตรงกัน ทั้งที่การทำแผนที่จากสนธิสัญญาปี ค.ศ.1904 (ฝรั่งเศส) เส้นเขตแดนต้องอยู่บนสันปันน้ำ ตามหลักการสากล แต่คำตัดสินของ ICJ ไม่ได้ยึดสันปันน้ำ ทำให้ไทยเสียปราสาทเขาพระวิหาร

สำหรับการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย. ที่กัมพูชา เชื่อว่าจะไม่มีข้อสรุป โดยกระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า การพูดคุยระหว่าง นายภูมิธรรม รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.เตีย  เซยฮา ในส่วนของคำขอของฝ่ายไทยให้กัมพูชาถอนทหารออกจากจุดที่ตั้งในพื้นที่มอมเตย (ช่องบก) ซึ่งเกิดการสู้รบเมื่อวันที่ 28 พ.ค.นั้น ฝ่ายกัมพูชาขอปฏิเสธที่จะทำตามคำขอดังกล่าว

เท่ากับล้มโต๊ะเจรจากันแล้ว ความขัดแย้งก็จะยืดเยื้อ รัฐบาลจึงต้องมีแผนรับมือทุกมิติ และพร้อมตอบโต้การรุกล้ำอธิปไตย ไทยยึดหลักสันติวิธี แต่สันติภาพที่เกิดจากโต๊ะเจรจาล้วนมาจากกองกำลังที่เหนือกว่า!

จากท่าทีของรัฐบาลไทยที่ไม่ชัดเจนและล่าช้าต่อสถานการณ์ สะท้อนว่าความสัมพันธ์ที่ดีของผู้นำรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ระหว่าง พ่อนายกฯ ของไทย กับ พ่อนายกฯ กัมพูชา ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อชาติไทยแต่อย่างใด แต่รัฐบาลกัมพูชาได้คะแนนนิยมจากการปลุกกระแสชาตินิยมทุกครั้ง

จึงเกิดคำถามว่ามีวาระซ่อนเร้นเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ ด้านพลังงานทางทะเล ทำให้รัฐบาลไทยไม่กล้าตอบโต้กัมพูชา หรือว่า ผู้นำกัมพูชา มองว่าผู้นำไทยอ่อนแอ ทักษิณ อยู่ในช่วงขาลง จึงฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับกลุ่มอำนาจในรัฐไทย โดยมีการวางแผนรุกคืบตามยุทธศาสตร์อย่างเป็นขั้นตอน

เหตุการณ์ดังกล่าวยังตรงกับช่วงที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน นายทักษิณ ในคดีป่วยทิพย์ ชั้น 14 ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

 โดยนายทักษิณยังไม่ยืนยันว่าจะไปปรากฏตัวที่ศาลหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวเตรียมหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง เพราะเหตุที่ทักษิณไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว อ้างว่ากลัวโจทก์เก่าที่้เป็นพวกค้ายาเสพติดและชายแดนภาคใต้ลอบฆ่าตายในคุก?

ดังนั้น ช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา จึงเป็นทางเลือกและทางออกหนึ่งหากจำเป็นต้องตัดสินใจ แต่ทักษิณเป็นคนไม่ยอมแพ้ ยังเดินหน้าสู้ทุกทาง

การประชุมกรรมการแพทยสภาในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ มีวาระลงมติกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา มีการวีโตคำสั่งแพทยสภา ลงโทษแพทย์ 3 รายเกี่ยวกับการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ 

จึงมีข่าวสะพัดว่าฝ่ายการเมืองกดดันกรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่งที่เป็นข้าราชการ ไม่ให้เข้าประชุม เพื่อไม่ให้เสียงถึง 2 ใน 3 ในการวีโต หรือหากไปประชุมก็ให้ลงมติเห็นด้วยกับการวีโตของนายสมศักดิ์

ล่าสุด นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและกรรมการแพทยสภา กรณีส่งข้อความในกลุ่มไลน์กรรมการแพทยสภา เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและมีอคติในการวินิจฉัยการรักษาอาการป่วยของนายทักษิณ อาจทำให้การพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลาง

อีกด้านหนึ่งก็ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไล่บี้ คดีฮั้ว สว. เอาผิดกลุ่ม สว.สีน้่ำเงิน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกหมายเรียกหรือหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา สว.ล็อตที่ 6 แล้ว มีทั้ง สว.และนักการเมืองจากพรรคภูมิใจไทยด้วย เพื่อลดอำนาจการต่อรองของ กลุ่มสีน้ำเงิน

 พร้อมกับเดินเกมปรับ ครม.ครั้งใหญ่ โดย พ่อนายกฯ สั่งยึด กระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทยให้พรรคเพื่อไทย อ้างว่าเพื่อเร่งผลักดันนโยบายสู่ประชาชน แต่ที่มากกว่านั้น ต้องการคุมกลไกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและท้องที่ ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบจ. ซึ่้งเป็นฐานกำลังสำคัญในการเลือกตั้ง และเตรียมจัดทัพสิงห์คลองหลอดเข้าไปคุมตำแหน่งหลักรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้า

 ส่วน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย ก็รู้ทันเหลี่ยมคูทางการเมืองของพ่อนายกฯ อยู่แล้ว โดยนายอนุทินยืนกรานว่าในส่วนของภูมิใจไทยจะไม่ปรับ รมต.

อย่างไรก็ตาม ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด (worst case scenario) ของทักษิณ หากศาลสั่งจำคุก! จะสะเทือนต่อองคาพยพของรัฐบาลทันที และหาก นายกฯ อิ๊งค์ ถูกร้องถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง ก็เท่ากับว่าข้อตกลง ดีลลับ ถูกฉีกทิ้งหมดแล้ว!

หากถูกต้อนเข้ามุมอับขนาดนั้น พรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยเก้าอี้นายกฯ ตกไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น ทางเลือกสุดท้ายคือ การยุบสภา แม้จะรู้ว่าคะแนนนิยมลดลง ไม่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ แต่ก็พร้อมจับมือกับ พรรคประชาชน จัดตั้งรัฐบาล เปลี่ยนเกมเล่นให้ พรรคส้ม อยู่แนวหน้าชนกับ กลุ่มอนุรักษนิยม เล่นเกมยาวบนกระดานการเมืองไทยในยกต่อไป!.