‘คมนาคม’ สู้ยิบไม่ยอมเสียค่าโง่จ่อยื่นขอพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่

‘คมนาคม’ลุยไม่ยอมเสียค่าโง่ กางแผน 15 ขั้นตอนผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยื่นฟ้องขอพิจารณาคดีโฮปเวลล์ ใหม่ ตั้งเป้ารายละเอียดแล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มี.ค. นี้

11 มี.ค.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าได้ประชุมคณะทํางานศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อดําเนินการแก้ไขปัญหาและความเสียหายของรัฐที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (คดีโฮปเวลล์) พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายนิรุฒ มณีพันธุ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด  สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท) กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะทำงานซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ในที่ประชุมมีการพิจารณาถึงแนวทางการดำเนินงานภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งที่ 81-83/2565  ฉบับลงวันที่ 24 ก.พ. 2565 กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคมและรฟท.ไว้พิจารณา และให้ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณางดการบังคับคดีที่บังคับให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท. ชำระเงิน 2หมื่นกว่าล้านบาทให้แก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสัญญาณในทางที่ดีต่อภาครัฐในการขอพิจารณาคดีใหม่

อย่างไรก็ตามในการประชุมมีการหารือถึงแผนปฎิบัติการ( Action Plan)ที่กระทรวงคมนาคมและ รฟท.ต้องดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมายที่กำหนดไว้ในการฟ้องคดีต่อศาล รวม 15 ขั้นตอนตามที่กระทรวงคมนาคม ได้จัดทำรายละเอียดไว้ข้างต้น ซึ่งความสำเร็จของการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ในครั้งนี้มีนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าทีมในการสืบค้นพยานหลักฐานต่าง ๆ และข้อพิรุธ รวมถึงได้รับการสนับสนุนที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของภาครัฐจากกระทรวงคมนาคม และ รฟท. 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่กระทรวงคมนาคมและ รฟท.ได้มีโอกาสต่อสู้โดยคดีจาก พยาน หลักฐานและข้อพิรุธต่าง ๆ และได้การสนับสนุนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างดีในการต่อสู้คดีไปด้วยกันโดยที่ประชุมพิจารณาแล้วได้ข้อยุติว่า กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จะมีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและ รฟท.โดยมีผู้แทนกระทรวงคมนาคมและ รฟท. รวมถึงมีมติให้ นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นผู้ประสานงานคดีนี้โดยคณะจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มี.ค. 2565 ซึ่งพนักงานอัยการก็ได้รับทราบและยินดีรับข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมและ รฟท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิพัฒน์’ ห่วงใยพี่น้องภาคใต้ตอนล่าง สั่งคมนาคมเร่งสำรวจความเสียหาย วางแผนซ่อมถนน เพิ่มประสิทธิภาพทางน้ำ รับมือฝนที่ยังยาวถึงต้นปี

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนฟ้าอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยระบุว่า พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นภูมิภาคที่ “เข้าสู่ฤดูฝนช้าที่สุดของประเทศ” และมักมีระยะเวลาฝนตกยาวนานไม่น้อยกว่าสองเดือน แตกต่างจากจังหวัดอื่นที่เข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว

“พิพัฒน์” ลงพื้นที่ปัตตานี ชื่นชมฟื้นตัวเร็ว ยันรัฐบาลเร่งเยียวยา–เตรียมพร้อมมาตราการรับฝนรอบใหม่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์หลังอุทกภัย โดยการกำชับจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลพี่น้องที่ประสบภัยทุกครัวเรือนอย่างเต็มที่

'กรมทางหลวง' โร่แจง! เหตุพระราม 2 โครงสร้างไม่ทรุด สั่งห้ามเกิดซ้ำ

กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างสะพาน ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพี่น้องประชาชน กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เกี่ยวกับเหตุคอนกรีตไหลลงบนถนนพระราม 2