ทรู-ดีแทค ยันควบรวมถูกต้องตามกฎหมาย สวน เอไอเอส ฮุบ 3BB มันคนละเรื่อง

ทรูดีแทคโต้ทุกประเด็นเคลียร์ทุกข้อกล่าวหายันศึกษากรณีการรวมธุรกิจมาอย่างรอบด้านและดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการสวนเอไอเอสอย่ายกประเด็นควบรวม 3BB มาเทียบเพราะเป็นคนละเรื่อง

2 สิงหาคม 2565 – การรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมในไทยเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยตั้งแต่มีประกาศกสทช. ปี 2561 มีผลบังคับใช้ในปี 2561 มีการรวมธุรกิจเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 9 กรณีซึ่งกสทช. ก็ได้ดำเนินการตามประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ ปี 2561 มาโดยตลอด โดยมีมติรับทราบการรายงานการรวมธุรกิจในทุกกรณีที่ผ่านมาเท่านั้น และไม่เคยมีการพิจารณาอนุมัติหรือปฏิเสธ และอาศัยอำนาจตามประกาศ กสทช. ปี 2549 มาประกอบการพิจารณาเลย ทั้ง 9 กรณี ซึ่งเชื่อว่า กสทช. จะมีความเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติเป็นการเฉพาะกับกรณีการพิจารณารวมธุรกิจของทรูและดีแทคในครั้งนี้

การอ้างถึงกฎระเบียบในอุตสาหกรรมอื่น (ทั้งอุตสาหกรรมพลังงานและอุตสาหกรรมการเงินธนาคาร) และนำมาใช้กดดันการดำเนินงานในต่างอุตสาหกรรมนั้นจะทำให้เกิดความสับสนและไม่ถูกต้องเพราะแต่ละอุตสาหกรรมมีหน่วยงานกำกับดูแลการควบรวมและกฎระเบียบที่แตกต่างกัน จึงควรยึดกฎระเบียบและแนวทางตามอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่เอกชนทุกรายในอุตสาหกรรมฯ ยึดถือในการดำเนินธุรกิจ โดยในกรณีของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมนั้น กสทช. มีอำนาจในการออกมาตรการตามที่กฎหมายกำหนดให้อำนาจไว้ ซึ่งเป็นไปตามประกาศ กสทช. ปี 2561 ที่ออกมาเพื่อกรณีของการควบรวมในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยเฉพาะ ซึ่งทรูและดีแทคได้ปฏิบัติตามขั้นตอนในการรวมธุรกิจในครั้งนี้อย่างครบถ้วนในทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการกำกับดูแลโดย กสทช. และ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด

การอ้างถึงกรณีเอไอเอสเข้าซื้อกิจการ 3BB (Acquisition) เป็นกรณีที่แตกต่างกับการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค (Amalgamation) อย่างสิ้นเชิงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้เพราะ  กฎหมายและระเบียบของกสทช. ได้เขียนไว้ในประกาศต่างฉบับกัน กล่าวคือ  ประกาศ กสทช. ปี 2549 เรื่อง การเข้าซื้อกิจการ ซื้อขายหุ้นและทรัพย์สินที่มีนัยยะสำคัญจากกันและกัน  ซึ่งกรณีที่ เอไอเอส เข้าซื้อกิจการของ 3BB เป็นไปตามประกาศกสทช. ปี 2549 ที่มีการระบุถึง กรณีผู้รับใบอนุญาตเข้าซื้อหุ้นและทรัพย์สินของผู้รับใบอนุญาตอีกราย จำเป็นต้องขออนุญาตจาก กสทช. 

ส่วนการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทคนั้นเป็นการควบบริษัท (Amalgamation) จึงต้องพิจารณาตามประกาศ กสทช. ปี 2561 เรื่องการควบรวม ซึ่งได้ออกมายกเลิกประกาศ กสทช. ปี 2553  ดังนั้น การนำประกาศ กสทช. ปี 2553 ขึ้นมาอ้างอิง จะทำให้เกิดความสับสน เพราะเป็นประกาศที่ได้มีการยกเลิกไปแล้ว 

กรณีที่ นายสมชัย ผู้บริหาร AIS ได้กล่าวในสื่อว่า ผู้ถือหุ้นต่างชาติของทั้งสองบริษัทมีความเข้าใจระเบียบและกฎหมายไทยเพียงพอหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า ทรู-ดีแทคตลอดจนผู้ถือหุ้นของสองบริษัทให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาลอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดนอกจากนี้เรายังให้เกียรติคู่แข่งคู่ค้าและยึดมั่นหลักการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและมีธรรมาภิบาลและเคารพในกฎระเบียบและกฎหมายของทุกประเทศที่เข้าไปดำเนินกิจการเป็นอย่างดี ไม่เคยท้าทายกฎหมายเหล่านั้น ขอยืนยันว่า การควบรวมในครั้งนี้ได้มีการศึกษาทุกกฎระเบียบของไทยอย่างรอบคอบและดำเนินการตามกฎหมายของไทยอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน บริษัท ลิ้งค์เลเทอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อัลเลน แอนด์ โอเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทคที่ได้ให้กับบริษัททั้งสองในครั้งนี้ว่า 

“เมื่อพิจารณาจากแนวปฏิบัติของ กสทช. ในการพิจารณาการควบรวมกิจการหรือการรวมธุรกิจที่ผ่านมา จะพบว่าภายหลังจากที่ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ ปี 2561 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2561 มีผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไม่น้อยกว่า 9 รายดำเนินการแจ้งการรวมธุรกิจภายใต้ประกาศดังกล่าว ซึ่ง กสทช. ก็มีมติเพียง “รับทราบ” การแจ้งการรวมธุรกิจเหล่านั้นเท่านั้น โดยมิได้ออกคำสั่ง “อนุญาต” และมิได้อาศัยอำนาจตามประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการผูกขาดฯ ปี 2549 มาประกอบการพิจารณาแต่อย่างใด” 

“ถึงแม้ กสทช. จะไม่มีอำนาจในการอนุญาตหรือไม่อนุญาต แต่กสทช. มีอำนาจในการกำกับดูแลตามข้อ 12 แห่งประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ ปี 2561 ในการกำหนดเงื่อนไขหรือนำมาตรการเฉพาะสำหรับผู้มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญในตลาดโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะได้”

ทรู-ดีแทค ขอยืนยันว่า การควบรวมในครั้งนี้ ทั้งสองบริษัทได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ทั้งผ่านการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการของทั้งสองบริษัทให้ดำเนินการ  และได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท รวมทั้งผู้บริหารก็ได้ดำเนินการตามกระบวนการเรื่องนี้อย่างครบถ้วนแล้ว และเชื่อมั่นว่า เราจะขับเคลื่อนบริษัทเทคโนโลยีใหม่นี้ เพื่อสร้างประโยชน์และคุณค่าเพิ่มให้แก่ผู้บริโภคประชาชนชาวไทย ภาคธุรกิจ สังคมและประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'AIS'ลุยยุทธศาสตร์เบอร์1ด้านกีฬา จับมือ'PGA TOUR' คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดทุกศึกใหญ่

AIS เดินหน้ายุทธศาสตร์เบอร์ 1 ด้านกีฬา! ผนึกพลัง PGA TOUR สู่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดครบทุกทัวร์นาเมนต์ใหญ่และกิจกรรมการตลาดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งเดียวในไทย

จุฬาฯ-PMCU-เอไอเอส-ช่อง 7HD ร่วมเปิดพื้นที่ AIS SIAM จัดกิจกรรม ‘สยามน้อมอาลัย ด้วยหัวใจที่เท่าเทียม’ เนื่องในวันคนพิการแห่งชาติ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ (PMCU) บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และช่อง 7HD ขอแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรของแผ่นดิน

'ท่าเรือ'ฟอร์มกำลังร้อน รับมือคู่ปรับ'เมืองทอง'ที่กำลังเมาหมัด ชมฟรีทาง AIS PLAY

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 “บีวายดี ซีไลออน 6 ลีกหนึ่ง” ลุยทำการแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง โดย AIS PLAY ยังคงพร้อมถ่ายทอดสดจากขอบสนามให้ทุกคนได้ชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนเคย

'AIS PLAY'บุกคอนเทนต์กีฬาเต็มพิกัด จับมือNBAยิงสดบาสระดับโลก ฤดู2025-26ทุกแมตช์สำคัญ

AIS PLAY ตอกย้ำจุดยืนการเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและกีฬาอันดับ 1 ของไทย มอบประสบการณ์รับชมการแข่งขัน NBA แบบจัดเต็ม เปิดให้บริการแพ็กเกจ “NBA 2025-26” ราคาเริ่มต้นเพียง 249 บาทต่อเดือน (ไม่รวม VAT) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักกีฬาและคอสตรีมมิ่ง ให้สามารถรับชมศึกบาสระดับโลก พร้อมด้วยความบันเทิงระดับพรีเมียมในราคาสุดคุ้ม ด้วยการรวมสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากทั้ง NBA และ Prime Video เข้ากับสิทธิ์การถ่ายทอดสดโดยตรงของ AIS PLAY ไว้ในแพ็กเกจเดียว ให้ลูกค้า AIS และแฟนบาสเกตบอลได้ชมทุกแมตช์สำคัญ มากกว่า 290 แมตช์ พร้อมบรรยายไทยเต็มอรรถรส ตั้งแต่ฤดูกาลปกติ เพลย์ออฟ All-Star Weekend ไปจนถึง NBA Finals โดยฤดูกาล NBA 2025-26 มีกำหนดเปิดฉากในวันพุธที่ 22 ตุลาคม 2568 (ตามเวลาไทย)

ผู้บริโภคแพ้! ศาลฯ ยกฟ้อง คดีควบรวม ทรู-ดีแทค ชี้มติ กทสช. ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลปกครองกลางพิพากษา "ยกฟ้อง" คดีสภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นฟ้องให้เพิกถอนมติ กสทช. ให้ควบรวมกิจการ "ทรู-ดีแทค" ด้าน "สุภิญญา" ยอมรับความพ่ายแพ้ เดินหน้าเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้ต่อ พร้อมจะเดินสายพบนักการเมือง ดันแก้กฎหมาย กสทช.ป้องกันการผูกขาดโทรคมนาคม