
30 ส.ค. 2565 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานของรัฐเข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ แทนกรมท่าอากาศยาน(ทย.)
ทั้งนี้ โดยสนามบินอุดรธานี จะมีบทบาทเป็นท่าอากาศยานหลักที่ทำหน้าที่เป็น Gateway ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สามารถตอบสนองความต้องการในการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยทอท.มีแนวทางการพัฒนาให้ท่าอากาศยานอุดรธานีเป็นท่าอากาศยานระดับภาค และท่าอากาศยานศูนย์กลางรองในอนาคต ซึ่งจะสามารถพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงร่วมกับสนามบินบุรีรัมย์ที่ทำหน้าที่เป็นท่าอากาศยานรองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีปัจจัยมาจากศักยภาพของทำเลที่ตั้ง ความพร้อมด้านกายภาพและห้วงอากาศ และนโยบายสนับสนุนจากทางภาครัฐด้านการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง
สำหรับจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ตั้งอยู่กึ่งกลางของจังหวัดฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย สามารถตอบสนองนโยบายด้านการท่องเที่ยวได้ และท่าอากาศยานกระบี่ยังสามารถเป็นท่าอากาศยานที่ช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานภูเก็ต ที่มีข้อจำกัดด้านการขยายขีดความสามารถในการรอบรับปริมาณการจราจรทางอากาศทั้งภาคพื้นและภาคอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และท่าอากาศยานกระบี่ยังสามารถรองรับความต้องการเดินทางในรูปแบบอากาศยานส่วนตัวที่มีมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ทอท.ได้กำหนดแผนพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง มีกรอบวงเงินลงทุนประมาณ 9,199.90 ล้านบาท (กรณีท่าอากาศยานพังงา เปิดให้บริการในปี 2574) หรือวงเงินลงทุนรวม 10,471 ล้านบาท (กรณีท่าอากาศยานพังงาไม่เปิดให้บริการ) แยกเป็น ท่าอากาศยานอุดรธานี กรอบวงเงินลงทุน 3,523 ล้านบาท ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ 460 ล้านบาท และท่าอากาศยานกระบี่ กรณีท่าอากาศยานพังงาเปิดให้บริการในปี 2574 วงเงินลงทุนจะอยู่ที่ 5,216 ล้านบาท และกรณีท่าอากาศยานพังงาไม่เปิดให้บริการ วงเงินลงทุนจะอยู่ที่ 6,487 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า จากการวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวภายในปี 2567 หลังจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด 19 ประกอบกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการส่งเสริมการตลาดที่เน้นการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน จึงได้มีการทบทวนให้ทอท.เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานแทนทย.จากเดิม 4 แห่ง ได้แก่ สนามบินอุดรธานี ,สกลนครมตาก และชุมพร เปลี่ยนเป็น 3 แห่ง คืออุดรธานี ,บุรีรัมย์ และกระบี่
อย่างไรก็ตาม เพื่อความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ตามแนวคิดการพัฒนาโครงข่ายระบบท่าอากาศยานของประเทศในภาพรวมและการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ การให้ทอท.เข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารสนามบินอุดรธานี ,บุรีรัมย์ และกระบี่ แทน ทย.พบว่า จะเป็นการสนับสนุนให้มีการกำหนดบทบาทท่าอากาศยานของประเทศและการจัดรูปแบบการพัฒนาระบบท่าอากาศยานของประเทศในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการขนส่งทางอากาศของประเทศไทย โดยจะเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งทางอากาศภายใต้โครงข่ายระบบท่าอากาศยานภายในประเทศไปสู่การเชื่อมโยงโครงข่ายระบบท่าอากาศยานระหว่างประเทศต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไตรศุลี' ย้อน 'ลิณธิภรณ์' เจ็บ! ถ้า รบ.เก่าบริหารน้ำดี ปชช.ไม่เดือดร้อนขนาดนี้
'ไตรศุลี' สวนกลับ 'ลิณธิภรณ์' ชี้รัฐบาลเพิ่งทำงานเดือนครึ่ง เร่งเครื่องแก้ปัญหาที่สะสมจากรัฐบาลก่อน อัดหากบริหารน้ำดี ชาวบ้านคงไม่เดือดร้อนอย่างทุกวันนี้ ยันติดตามสถานการณ์อุทกภัยใกล้ชิด
หนูนัด24ต.ค.ถกกกต. ปม‘ประชามติ’MOU
“ไตรศุลี” ร่อนหนังสือถึง กกต. บอก “อนุทิน” ขอเข้าพบเพื่อถกเรื่องประชามติยกเลิก MOU 43-44
แจง 'นายกฯ' ลงพื้นที่อีสานใต้ ไม่ใช่เกมการเมือง ลั่น 'ปัญหาชายแดน-น้ำท่วม' สำคัญเท่ากัน
‘ไตรศุลี’ แจงนายกฯ ลงพื้นที่อีสานใต้ ไม่ใช่เกมการเมือง ชี้รับฟังปัญหาชายแดน–น้ำท่วม เดินหน้าดูแลประชาชนทุกมิติ พร้อมตั้ง คอภ. ประชุม 6 ต.ค.นี้ เตรียมลุยต่อพื้นที่ประสบภัย
'นายกน้อย' แจงกฤษฎีกาการันตี 'สีหศักดิ์' ร่วมประชุม UNGA80 ภารกิจเพื่อชาติตาม รธน.
เลขาธิการนายกฯ เผยรัฐบาลพิจารณารอบคอบก่อนมอบหมาย รมว.ต่างประเทศ ร่วมประชุม UNGA 80 สอบถามความเห็นจาก ‘กฤษฎีกา-รองนายกฯด้านกฎหมาย’ แล้ว ชี้เป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนเพื่อปกป้องประโยชน์ชาติ ตามรัฐธรรมนูญ
ทำเนียบฯคึกคัก รมต.ทยอยถ่ายรูปติดบัตร
ทำเนียบฯคึกคัก รมต.ทยอยถ่ายรูปติดบัตร 'พัฒนา' ถึงคนแรก
ว่าที่เลขาธิการนายกฯ แย้ม 'นายกฯอนุทิน' ประกาศ 'คนละครึ่ง' จะกลับมาอีก 1 เดือน
ไตรศุลี ไตรสรณกุล กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ้งปชช.รอเฮ


