
‘บิ๊กป้อม’ หัวโต๊ะ กพช. เห็นชอบขยายแผนลดชดเชยราคาน้ำมันชีวภาพไปอีก 2 ปี สั่งพลังงานหนุนติดตั้ง solar Rooftop ลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือน
9 ก.ย. 2565 – เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 กันยายน ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ครั้งที่ 6/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เข้าร่วมด้วย
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน จึงขอให้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบูรณาการ การทำงาน ในการส่งเสริม การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ให้เร็วขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่ง ในการบรรเทาภาระ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน พร้อมย้ำให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนร่วมมือช่วยกันประหยัดพลังงานเพื่ออนาคต
ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไป 2 ปี จากเดิมครบกำหนดวันที่ 24 กันยายน 2565 เป็นวันที่ 24 กันยายน 2567 เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันพื้นฐานในอนาคต และส่งเสริมเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้จัดทำแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ พ.ศ. 2563 – 2565
อย่างไรก็ตาม สกนช. ไม่สามารถลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตามแผนที่กำหนดไว้ จนทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขาดสภาพคล่อง ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 112,935 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 74,162 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 38,773 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องขยายเวลาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพไปอีก 2 ปี
ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ตามที่ สกนช. ได้นำเสนอเพื่อให้การดำเนินงานในการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพดังกล่าว สอดคล้องกับมาตรา 55 ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 และเพื่อให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถดำเนินการตามพันธกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ สกนช. นำเรื่องการขอขยายระยะเวลาดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ และแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
มาตรการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ประกอบด้วย 1.กลุ่มน้ำมันเบนซิน ให้ทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และแก๊สโซฮอล E85 จนไม่มีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 2 ปี และหากมีความจำเป็นต้องขยายกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว จะดำเนินการภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 โดยรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกที่จูงใจให้ใช้น้ำมันเบนซินพื้นฐานตามที่ภาครัฐกำหนด โดยกำหนดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมทำให้ราคาขายปลีกต่อค่าความร้อนจูงใจให้ใช้น้ำมันพื้นฐานแทนน้ำมันทางเลือก
2.ให้กลุ่มน้ำมันดีเซล ให้ทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B10) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20จนไม่มีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 2 ปี และหากมีความจำเป็นต้องขยายกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว จะดำเนินการภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 โดยรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกที่จูงใจให้ใช้น้ำมันดีเซลพื้นฐานตามที่ภาครัฐกำหนด โดยกำหนดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม ทำให้ราคาขายปลีกจูงใจให้ใช้น้ำมันพื้นฐานแทนน้ำมันทางเลือก
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเริ่มดำเนินการตามแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ในส่วนของน้ำมันเบนซินจะเริ่มดำเนินการเมื่อทราบ น้ำมันพื้นฐานว่าเป็นชนิดใด ส่วนน้ำมันดีเซลจะเริ่มดำเนินการเมื่อมีการผสมสัดส่วน B100 ที่ต่างกันเพื่อให้ทราบน้ำมันพื้นฐานเป็นชนิดใดเช่นเดียวกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วัน อยู่บำรุง' ส่งสัญญาณส่อทิ้งลุงป้อม ซบ 'โอกาสใหม่'
'วัน อยู่บำรุง' โพสต์ส่งสัญญาณชีวิตถึงจุดเปลี่ยน จับตาย้ายซบ 'โอกาสใหม่' ด้าน 'จตุพร' รับได้คุยกัน เจ้าตัวสนใจนโยบายพรรค
EGCOกางแผนปี69ทุ่ม3หมื่นล.ขยายพอร์ตไฟฟ้า-พลังงานหมุนเวียน
EGCO Group เปิดแผนธุรกิจปี 2569 ชูกลยุทธ์ POWER4 ทุ่มงบ 30,000 ล้านบาท ขยายพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ และแสวงหาโอกาสลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเสริมสร้างการเติบโตระยะยาวและสร้างความมั่นคงทางพลังงานใน ยุคของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา
"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา
‘พลังงาน’ ยันไม่มีส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาตั้งแต่ก.ค. 2568
พลังงานลั่นยึดความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ย้ำชัดไทยไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแจงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ผู้ค้าน้ำมันจะต้องรายงานข้อมูลปริมาณการส่งออกให้กรมธุรกิจพลังงานทราบ หากฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานข้อมูลเท็จจะมีโทษตามกฎหมาย
'เฉลิม' ซบ 'ลุงป้อม' ลงเลือกตั้ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมา พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
สหรัฐฯและยุโรปชี้ชัด เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาครั้งนี้ เขมรเป็นฝ่ายเริ่มก่อนอีกแล้ว
นายปฐม อินทโรดม กรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โพสต์เฟซบุ๊ก Pathom Indarodom ว่า สหรัฐฯ และยุโรปชี้ชัด เหตุปะทะชาย

