ศุลกากรจับกุมเนื้อสุกรแช่แข็งลักลอบนำเข้ามูลค่า 7.34 ล้านบาท สัตวแพทย์เตือนระวังหายนะจากขบวนการหมูเถื่อน

19 กันยายน 2565 – เวลา 11.00 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าว การจับกุมเนื้อสุกรแช่แข็ง น้ำหนักกว่า 35,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 7.34 ล้านบาท ณ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร

อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทย กรมศุลกากรจึงให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่าง ๆ เข้มงวดในการตรวจค้นจุดที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรเข้ามาในประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ASF ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค และปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ

และจากการดำเนินการฯ ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2565 สามารถจับกุมการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ ที่มีมูลค่าสูงได้ 3 คดี รวมน้ำหนักประมาณ 35,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 7,340,000 บาท มีรายละเอียด ดังนี้

– เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 ช่วงเวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามเคลื่อนที่เร็ว กองสืบสวนและปราบปราม ได้ทำการตรวจสอบรถยนต์บรรทุกพ่วง จำนวน 2 คัน บริเวณ ถนนซอยกิ่งแก้ว 25/1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจสอบพบเนื้อสุกรแช่แข็ง ซึ่งมีเมืองกำเนิดจากต่างประเทศ โดยไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร น้ำหนักประมาณ 23,000 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสงขลา ได้ทำการตรวจค้นยานพาหนะรถยนต์บรรทุก 12 ล้อ บริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) พบเนื้อสุกรแช่แข็ง มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกสีฟ้า โดยไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร จำนวนประมาณ 12,000 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 2,340,000 บาท

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า จากสถิติการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 5 คดี รวม 43,800 กิโลกรัม มูลค่า 8,940,000 บาท

ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะเข้มงวดในการจับกุมผู้ที่ลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทยมากขึ้น

รศ.ดร.นายสัตวแพทย์ กัมพล แก้วเกษ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เนื้อหมูเถื่อนมีต้นทุนต่ำกว่าหมูไทย เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นเนื้อหมูที่นำเข้าจากประเทศที่มีปัญหาโรคระบาด ASF และอีกส่วนหนึ่งเป็นเนื้อหมูหมดอายุ แต่ด้วยการโพสต์ขายเกลื่อนสังคมออนไลน์ในราคาที่ถูกมาก จนเป็นที่ล่อตาล่อใจต่อผู้ประกอบการที่ใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลัก เช่น ร้านอาหาร ร้านหมูกระทะชาบู ตลอดจนเขียงหมู ผลกระทบนี้ส่งผลต่อวงการหมูไทยอย่างมาก ทำให้ภาวะสมดุลเปลี่ยนไป

“เมื่อมีเนื้อหมูในตลาดมาก พ่อค้าย่อมกดราคาหมูเป็น ทำให้ราคาหมูเป็นตกต่ำ จนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับต้นทุน  ขณะที่ผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบจากโรคระบาด กว่าจะกลับมาเลี้ยงใหม่ต้องลงทุนลงแรงไปมากมาย กลับมาเจอสถานการณ์ราคาตกต่ำอีก จะส่งกระทบเป็นลูกโซ่คือ ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่มีเงินชำระค่าสินค้าวัตถุดิบ ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน คนงานในฟาร์มก็ไม่มีเงินไปใช้หนี้ หรือจับจ่ายใช้สอย สถาบันการเงินเสี่ยงต่อการมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าและวัตถุดิบไม่มีรายได้ สุดท้ายผลกระทบก็จะนำไปสู่มหภาค นั่นคือเศรษฐกิจของไทย”

รศ.ดร.นายสัตวแพทย์ กัมพลกล่าวและย้ำว่านี่คือหายหนะของจริง 

ด้านผศ. ดร. นายสัตวแพทย์ ดุสิต เลาหสินณรงค์ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ก่อนหน้านี้เกษตรกรก็หวั่นเกรงว่า ไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จะทำให้เกิดหายนะกับวงการหมูไทย สุดท้ายก็ไม่ใช่และผ่านมากันได้ แต่ก็ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูขยับขึ้นจนทำให้หายนะที่แท้จริงเริ่มก่อตัวขึ้น นั่นคือ “ขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน” ซึ่งบางคนอาจคิดเพียงว่าเนื้อหมูเถื่อนช่วยให้ราคาเนื้อหมูถูกลง แต่นั่นเป็นเพียงแค่มิติเดียว

“ในฐานะสัตวแพทยสาธารณสุขมีความกังวลใจต่อสถานการณ์หมูเถื่อนอย่างมาก เพราะผลกระทบแรกที่เห็นคือเนื้อหมูเถื่อนเหล่านี้ ไม่ผ่านการตรวจสอบเพื่อควบคุมป้องกันโรคข้ามพรมแดน เชื้อโรคหนึ่งที่วงการหมูไทยกลัวอย่างมากคือ ไวรัส ASF เพราะไวรัสนี้เคยสร้างความเสียหายไว้อย่างมาก และเป็นต้นเหตุให้เนื้อหมูไทยยังผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐเข้ม! ตรวจยึดกากโลหะหนักกว่า 7 แสนกก. ลักลอบเข้าไทย พร้อมผลักดันออกนอกประเทศ

รัฐเข้ม! ตรวจยึดกากโลหะหนักกว่า 7 แสนกก. ลักลอบเข้าไทย พร้อมผลักดันออกนอกประเทศ ปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

กรมศุลฯ โชว์ 8 เดือนกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าทะลุ 1 ล้านชิ้น

ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 กรมศุลกากร ได้ดำเนินการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าในหลายพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งพัสดุ การซุกซ่อนในโกดังและร้านค้า และการลักลอบนำเข้าผ่านบริเวณพรมแดน

รัฐบาลเข้มยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้น

กรมศุลกากรขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท

จับจริง! ของหนีภาษี กรมศุลฯจับแล้ว กว่า 780 ล้านบาท เดินหน้าปราบปรามเข้ม

รัฐบาลย้ำ จับจริง!ของหนีภาษี กรมศุลฯจับแล้ว ตุลาถึงมกรา 68 มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท เดินหน้าปราบปรามเข้ม ปกป้องผลผระโยชน์ประชาชนจากของผิดกฎหมาย