รัฐบาลมั่นใจ 31 ธ.ค.นี้ยอดนักท่องเที่ยวทะลุ 10 ล้านคนแน่!

08 ธ.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ติดตามข้อมูลภาคการท่องเที่ยว ซึ่งชี้แนวโน้มที่ต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นายกฯ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ให้เพิ่มความเข้มงวดกับประเด็นเรื่องความปลอดภัย ทั้งในสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยว การเดินไม่ว่าจะทางอากาศ ทางถนน ทางเรือ ตลอดจนความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยจากโรคระบาด บริการอาหารที่สะอาด

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า ณ สิ้นเดือน พ.ย.2565 หรือ 11 เดือนแรกของปีนี้ มีต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 9.09 ล้านคน เฉพาะเดือน พ.ย.เดือนเดียว 1.73 ล้านคน ทำให้รัฐบาลมั่นใจว่าตลอดทั้งปี 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยทะลุเป้าหมาย 10 ล้านคนแน่นอน ดังนั้น นายกฯ จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นที่ขณะนี้ต่างชาติได้เลือกไทยเป็นจุดหลายปลายทางแรกๆ ที่เดินทางไปเยือนหลังการคลี่คลายของโควิด19

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า จากข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ขณะนี้สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงเมืองสำคัญของไทยยังคงติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ซึ่งล่าสุดสำนักข่าว CNBC ได้รายงานผลการสำรวจของ Inter Nations ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติที่มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 4.5 ล้านคน ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับเมืองที่น่าอยู่และน่าทำงานที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ 12,000 คน ซึ่งพบว่า กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยติดอันดับที่ 6

ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุถึง 10 เมืองทั่วโลกที่นักท่องเที่ยวเห็นว่าน่าอยู่และน่าทำงานที่สุดตามลำดับ ดังนี้ 1.เมืองบาเลนเซีย, สเปน 2. ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3.เม็กซิโก ซิตี้, เม็กซิโก 4.ลิสบอน, โปรตุเกส 5. มาดริด, สเปน 6. กรุงเทพฯ, ประเทศไทย 7.บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ 8.เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย 9.อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ 10.สิงคโปร์

สำหรับผลสำรวจของชาวต่างชาติที่มีต่อกรุงเทพฯ พบว่า 82% มีความสุขต่อคุณภาพการดูแลรักษาทางการแพทย์, 79%มีความสุขกับชีวิตโดยทั่วไป, 69% มีความสุขต่อค่าครองชีพ, 68% มีความสุขต่อความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต, 66% มีความสุขต่ออาชีพการทำงาน และ 54% ระบุว่าสามารถพบเพื่อนใหม่ได้ง่าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อรรถกร' โอด รับดราม่าซีเกมส์คนเดียวอาจผิดธรรมชาติไปนิด ย้ำพิธีเปิดจะทำได้ดีแน่นอน

'อรรถกร' โอด รับดราม่าซีเกมส์คนเดียวอาจผิดธรรมชาติไปนิดนึง เชื่อไม่ได้ถูกวางงานจากรบ.ก่อน แจงปมใช้โปสเตอร์ AI ด้อยค่านักออกแบบ จ่อคุยผู้รับผิดชอบ ย้ำ พิธีเปิดจะทำได้ดีแน่นอน

ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ

'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ

ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี

นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org

ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย​

นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย​ หลังสื่อถาม​ 12 ธ.ค.​ไม่มีอุบัติเหตุ​ทาง​การเมืองใช่หรือไม่​ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.

'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!

นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด