เช็กที่นี่ รฟท.แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถสายใต้หลังเจอน้ำท่วม

การรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถสายใต้ ที่มีต้นทางปลายทางที่สถานีหาดใหญ่ ยะลา และสุไหงโก-ลก ระหว่างวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม

19 ธ.ค.2565-นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไท(รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขอแจ้งปรับเปลี่ยนการเดินรถเส้นทางสายใต้ ที่มีต้นทางปลายทางที่สถานีหาดใหญ่ ยะลา และสุไหงโก-ลก ระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคม 2565 หลังเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีมวลน้ำไหลเข้าท่วมทางรถไฟสายใต้ ส่งผลกระทบต่อการเดินรถช่วงระหว่างสถานีควนเนียง – บ้านเกาะใหญ่ อำเภอควนเนียง จ.สงขลา น้ำสูงท่วมสันราง 15 เซนติเมตร และเกิดเหตุดินสไลด์ระหว่างสถานีวัดควนมีด กับสถานีนาม่วง ทำให้ขบวนรถไม่สามารถผ่านได้   และจำเป็นต้องปิดเส้นทางระหว่าง สถานีควนเนียง – บ้านเกาะใหญ่

ทั้งนี้ การรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถสายใต้  ดังนี้   วันที่ 18 ธันวาคม 2565  เที่ยวไป  ที่ออกจากสถานีกรุงเทพไปเมื่อช่วงบ่าย ทำขบวนกลับเข้าสถานีกรุงเทพ 1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 (กรุงเทพ – หาดใหญ่)2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37/45 (กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก)3. ขบวนรถเร็วที่ 169 (กรุงเทพ – ยะลา) ยกเว้น ขบวนรถเร็วที่ 171 (กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก) เดินขบวนรถถึงสถานีพัทลุง

เที่ยวกลับ งดเดินขบวนรถ 5 ขบวน ได้แก่ 1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 32 (หาดใหญ่ – กรุงเทพ)  2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพ)  3. ขบวนรถเร็วที่ 170 (ยะลา – กรุงเทพ)  4. ขบวนรถเร็วที่ 172 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพ)  5. ขบวนรถสินค้าที่ 986 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพ) 

ส่วนขบวนรถท้องถิ่น ในเส้นทางดังกล่าว งดเดินในเส้นทางดังนี้ขบวนรถท้องถิ่นที่ 454 (สุไหงโก-ลก – หาดใหญ่) เดินเฉพาะ สุไหลโก-ลก – ยะลา, ขบวนรถท้องถิ่นที่ 464 (สุไหงโก-ลก – พัทลุง) งดเดิน ,ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 (นครศรีธรรมรา – ยะลา) เดินเฉพาะ นครศรีธรรมราช – พัทลุง,ขบวนรถท้องถิ่นที่ 447 (สุราษฎร์ธานี – สุไหงโก-ลก) เดินเฉพาะ สุราษฏร์ธานี – หารเทา  ,ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 (สุไหงโก-ลก – สุราษฎร์ธานี) เดินเฉพาะ สุไหงโก-ลก – หาดใหญ่  และหารเทา – สุราษฎร์ธานี,ขบวนรถท้องถิ่นที่ 452 (สุไหงโก-ลก – นครศรีธรรมราช) เดินเฉพาะ สุไหงโก-ลก – จะนะ และขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 (ชุมพร – หาดใหญ่) เดินเฉพาะ ชุมพร – พัทลุง 

วันที่ 19 ธันวาคม 2565  การรถไฟฯ ขอประเมินสถานการณ์ และจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง

ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถคืนค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคาที่สถานีรถไฟทุกแห่ง และขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและสั่งการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสาร
สำหรับประชาชนที่จะเดินทางโดยรถไฟ ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดก่อนเดินทางอีกครั้ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิพัฒน์’ นำทัพ ภท. ลุยนครศรีฯ ประกาศทวงโอกาสให้ชาวใต้

“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ประเดิมเดินสายภาคใต้ ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย นครศรีธรรมราช ครบ 9 เขต ปลุกพลังหาเสียง ย้ำขอเป็นตัวแทนทวงสิทธิ์และโอกาส หลังชาวใต้ถูกละเลยมานานหลายสิบปี พร้อมขอคะแนนให้ภูมิใจไทยเข้าไปทำงานดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่

อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุตุฯ เตือนอากาศเย็น ยอดดอยหนาวจัด ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ

“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร

เรื่องราวทีมงานด่านหน้าของทรู ที่ทุ่มเททำงานด้วยหัวใจ เพื่อให้ทุกสัญญาณเชื่อมต่อกันในวิกฤตอุทกภัยภาคใต้

วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและชีวิตผู้คน แต่ยังตัดขาดการสื่อสารในหลายพื้นที่ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีทีมงานด่านหน้าของทรูที่ทุ่มเททำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ไม่เพียงดูแลเครือข่าย แต่ยังทำให้ทุกสัญญาณยังสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถติดต่อ รับข่าวสาร และส่งความห่วงใยถึงกันได้ในช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุด