โฆษกรัฐบาล ย้ำมาตรการช้อปดีมีคืนปี 2566 หวังให้ประชาชนวางแผนการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
11 ม.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเพื่อประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 เพื่อให้ประชาชนไปหักลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ และเพื่อกระตุ้นและรักษาการบริโภคในประเทศ ส่งผลถึงเศรษฐกิจภาพรวม ว่ารัฐบาลเชื่อมั่นจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญถึงตัวเลขการจับจ่าย คาดจะมีตัวเลขหมุนเวียนถึง 56,000 ล้านบาท ซึ่งมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี ในการกระตุ้นยอดขาย และให้ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา สามารถหักลดหย่อนภาษีด้วยค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยสามารถลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 30,000 บาท (จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบ กระดาษหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาท โดยต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 ไม่รวมสินค้าและบริการ ดังต่อไปนี้ 1.ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ 2.ค่าซื้อยาสูบ 3.ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ 4.ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร 5.ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต 6.ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 7. ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม 8.ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต 9.ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดในข้อ 1. เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ และ 10.ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดย ต้องมีหลักฐานเป็น ใบกำกับภาษีที่มีข้อความระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ มาใช้ในการใช้สิทธิหักลดหย่อน
ต่อข้อสงสัยที่หากเป็นการซื้อขายที่มีสัญญาใช้บริการระยะยาว มีระยะเวลาสัญญาเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 หรือสิ้นสุด หลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น ก็จะไม่สามารถนำค่าบริการส่วนที่ใช้บริการนอกช่วงเวลา 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 มาหักลดหย่อนได้ รวมถึงกรณีชำระค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ได้ใช้บริการหลัง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ก็จะไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้เช่นกัน
“รัฐบาลได้กำหนดและดำเนินมาตรการต่าง ๆ มุ่งหวังให้เกิดการใช้จ่าย เพิ่มยอดขาย กระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ โดยถือเป็นปีแรกที่ขยายให้นำค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยว ซึ่งโฆษกรัฐบาลขอประชาสัมพันธ์มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 เพื่อให้ประชาชนเช็คสิทธิ์ตามมาตรการ วางแผนการจับจ่ายซื้อของในช่วงเวลานี้ คำนึงถึงความคุ้มค่า และประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม RD CALL CENTER โทร. 1161”นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จิรายุ' ดีด๊า รอนั่ง 'โฆษกรัฐบาล' เข้าทำเนียบฯ พบ 'หมอมิ้ง'
'จิรายุ' ดี๊ด๊า เข้าทำเนียบฯ พบ 'หมอมิ้ง' ยันทำงานโฆษกมาตลอด การันตีความพร้อมนั่ง 'โทรโข่งรัฐบาล' บอกสื่อแล้วเจอกันบ่อยๆ
สะพัด 'จักรภพ' มาแรงคั่วเก้าอี้โฆษกรบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำหรับการประชุมครม.อย่างเป็นทางการนัดแรก ในวันที่ 17 ก.ย.เวลา 10.00 น.จะมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ครบรอบ 109 ปี กรมสรรพากร
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD
โฆษกรัฐบาลเผยทุกแบงก์เร่งเชื่อมระบบชำระเงินใน 'ดิจิทัลวอลเล็ต'
โฆษกรัฐบาล เผยความคืบหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 'สมาคมธนาคารไทย' ชี้ทุกธนาคารยินดีให้ความร่วมมือเร่งเชื่อมระบบชำระเงิน Open loop พร้อมย้ำลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ข้อมูลไม่รั่วไหล ระวัง! อย่าเชื่อข่าวปลอม
นัทรียาผงาดปลัด โยก‘หมอทวีศิลป์’ อธิบดีกรมแพทย์
อึ้ง ครม.ดัน “นัทรียา” ข้ามห้วยนั่งปลัดท่องเที่ยวฯ พร้อมตั้ง “บิ๊ก สธ.” ล็อตใหญ่