กรุงไทย จัดให้ เปิดเงินฝากประจำพิเศษ 18 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปี

30 ม.ค. 2566 – “ธนาคารกรุงไทย” เดินหน้าส่งเสริมคนไทยออมเงิน เพิ่มรายได้ในช่วงภาวะค่าครองชีพสูง สร้างความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืน ออกเงินฝากประจำพิเศษ 18 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ต่อปี รับฝากขั้นต่ำ 50,000 บาท เปิดรับฝากถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566

ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญในการออม เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้นทุกวัน รวมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” ล่าสุด ออกผลิตภัณฑ์ เงินฝากประจำพิเศษ 18 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 1.5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน เพื่อสนับสนุนคนไทยมีวินัยในการออม เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต อีกทั้งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ฝากเงิน ในภาวะที่ค่าครองชีพอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกการออมและการลงทุนให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคง ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ

เงินฝากประจำพิเศษ 18 เดือน สำหรับบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย นิติบุคคลไม่แสวงหากำไร มูลนิธิ วัด เงินศาสนสมบัติกลาง ศาล ศาลเจ้า สำนักปฏิบัติธรรม โบสถ์ มัสยิด สถานศึกษาของเอกชน สถานศึกษาของรัฐ ราชการ องค์กรสาธารณกุศลต่าง ๆ เปิดบัญชีขั้นต่ำ 50,000 บาท รับฝากทุกสาขาถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ หรือ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรุงไทย ประกาศยกหนี้ 100% ให้ทหาร-ตชด. เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากเหตุชายแดน

ธนาคารกรุงไทยออกมาตรการพิเศษ ยกหนี้ทุกสัญญาให้ทหารและ ตชด. ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากเหตุชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อ สดุดี วีรกรรมผู้กล้า พร้อมขยายความช่วยเหลือสู่ครอบครัวผู้เสียหาย ร่วมยืนเคียงข้างผู้เสียสละด้วยหัวใจแห่งศรัทธาและความเคารพ

Virtual Bank ..ธนาคารในโลกดิจิทัล มุมมอง..ผ่านวิสัยทัศน์ 'ผยง ศรีวนิช'

ตั้งแต่กระทรวงการคลัง ประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank หรือ ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 ..จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติ ศักยภาพ และความสามารถของผู้ขออนุญาต  โดยคาดว่าจะสามารถประกาศรายชื่อได้ภายในช่วงกลางปี 2568 โดยผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ