
‘คณะวิทย์ มธ.’ ห่วงหนี้คนไทยพุ่ง ต้นเหตุจาก ‘การพนัน’ ปัจจัยเสี่ยงฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย ชี้ข้อเท็จจริงจากงานวิจัย เล่นมากเสียมาก โอกาสถูกรางวัลหรือเป็นผู้ชนะเพียงน้อยนิด
3 เมษายน 2566 – คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห่วงสถานการณ์ ‘หนี้คนไทย’ ที่มีสาเหตุจากปัญหา ‘การพนัน’ ซึ่งมีโอกาสลามไปสู่การเป็นหนี้นอกระบบ เพิ่มวงจรการเป็นหนี้ไม่จบสิ้น หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมเปิดข้อเท็จจริงจากงานวิจัยทางสถิติ ชี้ชัดการพนันทุกรูปแบบ ยิ่งเล่นยิ่งเสีย เล่นมากเสียมาก โอกาสถูกรางวัลหรือเป็นผู้ชนะเพียงน้อยนิด อาทิ การออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งมีโอกาสเพียง 1 ใน 100 ที่ต้องซื้อเลขเดียวกันต่อเนื่องอย่างน้อย 100 งวด เพื่อให้มีโอกาสถูกรางวัลเฉลี่ย 1 ครั้ง หรือต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี 2 เดือน จึงจะถูกมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เพียง 1 ครั้ง และสำหรับโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลที่ 1 มีโอกาสเพียง 1 ในล้าน ทั้งนี้ วอนรัฐลดการโปรโมท ช่วยลดแรงกระตุ้นเข้าถึงการพนัน พร้อมให้ความรู้เท่าทันภัยความเสี่ยงการเป็นหนี้จากการพนันให้มากขึ้น
รองศาสตราจารย์ ดร.วราฤทธิ์ พานิชกิจโกศลกุล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล และอาจารย์ประจำสาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ‘ภาวะหนี้’ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีความอ่อนไหวต่อระบบเศรษฐกิจไทย และส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่สะท้อนปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะ ‘หนี้นอกระบบ’ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มนักเล่น ‘การพนัน’ อาทิ ลอตเตอรี หวยใต้ดิน พนันฟุตบอล หรือพนันออนไลน์ ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมให้สามารถเข้าถึงการพนันรูปแบบต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยมีความเชื่อและพฤติกรรมร่วมของผู้ที่เล่นการพนันว่า ‘ต้องเล่นอีกเพื่อถอนทุนคืน’ และ ‘ยิ่งเล่นมาก กระจายเล่นหลาย ๆ กอง ยิ่งมีโอกาสได้สูง’ ซึ่งที่ผ่านมา คณะวิทย์ฯ มธ. มีงานวิจัยเรื่อง ‘ผลตอบแทนที่คาดจะได้รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากเลขท้าย’ ที่สะท้อนผลลัพธ์โอกาสหรือความเป็นไปได้ของการเล่นการพนันรูปแบบต่าง ๆ คือ โอกาสเสียมีมากกว่าได้
ส่วนหนึ่งของงานวิจัยดังกล่าว ได้เปิดเผยถึง โอกาสโชคดีที่จะถูกรางวัลแจ็กพอต หรือเป็น ‘วินเนอร์’ ที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ยกตัวอย่างการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งมีโอกาสเพียง 1 ใน 100 ที่ต้องซื้อเลขเดียวกันต่อเนื่องอย่างน้อย 100 งวด เพื่อให้มีโอกาสถูกรางวัลเฉลี่ย 1 ครั้ง หรือต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี 2 เดือน จึงจะถูกมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 1 ครั้ง และโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งมีโอกาสเพียง 1 ในล้าน
นอกจากนี้งานวิจัยดังกล่าวยังได้แสดงผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ เปรียบเทียบระหว่าง ‘หวยบนดิน’ และ ‘ลอตเตอรี’ ว่ามีโอกาสขาดทุนมากน้อยเพียงใด ซึ่งพบว่าโดยเฉลี่ยจะมีโอกาสขาดทุนในทุกเกม อยู่ที่ประมาณ 35-70% ของเกมที่เล่น ซึ่งกรณีที่ซื้อ ‘ลอตเตอรี’ มีเปอร์เซนต์ขาดทุนประมาณ 40% ของทุกเกม หากเลขท้าย 2 ตัว มีเปอร์เซนต์ขาดทุนประมาณ 35% และประเภทที่มีเปอร์เซนต์ขาดทุนมากที่สุด คือ การเล่น 3 ตัวโต๊ด ที่มีเปอร์เซนต์ขาดทุนสูงถึง 70% ขณะที่ ผู้เล่นที่ใช้เทคนิคการซื้อกวาดซื้อกระจายเพื่อเพิ่มโอกาส ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสถูกรางวัลมากขึ้นนั้น เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องเพียงบางส่วน เพราะเมื่อพิจารณาจากจำนวนการเล่น กับเงินที่ต้องจ่ายก็มากขึ้นตามไปด้วย เมื่อเทียบกับเงินรางวัลที่มีโอกาสได้ จึงไม่ใช้วิธีการที่คุ้มค่าตามความเชื่อของผู้เล่น
สิ่งที่น่าเป็นห่วงจากสถานการณ์หนี้คนไทยที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการพนันในปัจจุบัน คือ เทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงการซื้อสลากออนไลน์ การเล่นเกมพนันต่าง ๆ ทั้งจากเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงด้วยกระบวนที่เข้าใจง่าย มีวิธีการสื่อสารที่ดึงดูด และบางแห่งมีวงเงินพร้อมใช้สำหรับกู้ยืมโดยใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว ที่เพิ่มปัจจัยการเป็นหนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในจำนวนนี้เชื่อมโยงกับปัญหา ‘หนี้นอกระบบ’ ซึ่งยิ่งทำให้วงจรการเป็นหนี้ขยายวงกว้างและยาวนานออกไปอีก อีกทั้งสถานการณ์ที่เปราะบางกับกลุ่ม ‘เยาวชน’ ที่อาจเข้ามาสู่วงจรการพนันและการเป็นหนี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“หากมองด้วยเงื่อนไขสิทธิส่วนบุคคล อาจทำให้เรื่องของการเล่นการพนัน เป็นสิ่งไม่สามารถสั่งห้ามกันได้โดยตรง ซึ่งหากมีการนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโอกาสหรือความเป็นไปได้ในการถูกรางวัลหรือการเป็นผู้ชนะในเกมพนันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ประชาชนเกิดการรับรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเล่น และผลเสียจากการที่ไม่สามารถควบคุมความถี่และจำนวนเงินในการเล่นจนเกิดเป็น ‘หนี้สินจากการพนัน’ ในที่สุด โดย คณะวิทย์ฯ มธ. มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าควรลดความถี่ในการโปรโมทการเข้าถึงการพนันทุกรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นการออกรางวัลที่ถูกกฎหมายก็ตาม เนื่องจากหากมองพฤติกรรมของผู้เล่นในปัจจุบัน ที่มีกระแสความนิยมในสังคมไทยอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องมีการโปรโมทเพื่อกระตุ้นความสนใจและสร้างภาพจำว่า การพนันหรือการวัดดวงเป็นเรื่องปกติของสังคม โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวบุคคลถูกรางวัลใหญ่ของแต่ละงวด” รองศาสตราจารย์ ดร.วราฤทธิ์ กล่าว
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ศึกษาสถานการณ์และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ปี 2564 พบว่า คนไทยเล่นการพนันร้อยละ 59.6 หรือประมาณ 32.33 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.9 ล้านคนเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 จำนวนนี้เป็นผู้ที่เล่นพนันครั้งแรกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือเรียกว่า “นักพนันหน้าใหม่” เกือบ 8 แสนคน ที่น่ากังวลคือ ร้อยละ 29.5 ของประชากรเด็ก อายุ 15-18 ปี ที่เล่นการพนัน มีวงเงินหมุนเวียนรวม 29,155 ล้านบาท และร้อยละ 54.6 ของเยาวชน อายุ 19-25 ปี ที่เล่นการพนัน มีวงเงินหมุนเวียนรวม 93,321 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีแนวโน้มผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น และวงเงินพนันหมุนเวียนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยการพนันที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ‘สลากกินแบ่งรัฐบาล’ และ ‘หวยใต้ดิน’
ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ (PIER) เมื่อเดือนมีนาคม 2565 พบว่า คนไทยเป็นหนี้สูงถึง 37% หรือราว 1 ใน 3 ของประชากรไทย หรือราว 25 ล้านคน ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประมาณ 57% ของผู้ที่มีหนี้ จะมีหนี้สินตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป และกลุ่มผู้ที่มีหนี้ตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป มีถึง 14% โดยสามารถแยกหนี้ตามประเภทต่าง ๆ สูงสุด 3 อันดับแรก คือ
- สินเชื่อส่วนบุคคล 39%
- บัตรเครดิต 29%
- การเกษตร 12%
สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทย มีรายงานว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2564 ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ทำให้หนี้ครัวเรือนไทย พุ่งสูงถึง 90.1% ก่อนจะปรับลดลงมาในไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ระดับ 86.8% โดยมีสาเหตุสำคัญ 8 ด้าน ได้แก่ - เป็นหนี้เร็วตั้งแต่เริ่มวัยทำงาน
- เป็นหนี้เกินตัว ทำให้รายได้เกินกว่าครึ่งต้องเอาไปจ่ายคืนหนี้
- เป็นหนี้โดยไม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนหรือถูกต้อง
- เป็นหนี้เพราะมีเหตุจำเป็น
5.เป็นหนี้นาน - เป็นหนี้เสีย
- เป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น
- เป็นหนี้นอกระบบ โดยพบว่า 42% ของกลุ่มตัวอย่างกว่า 4,600 ครัวเรือนจากทุกภูมิภาคของไทย มีหนี้นอกระบบเฉลี่ยรายหัวอยู่ที่ คนละ 54,300 บาท ซึ่ง ‘การพนัน’ เป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของการเป็นหนี้นอกระบบ
ทั้งนี้ หากมองความสนใจด้านตัวเลขและความน่าจะเป็นของคนไทยที่หยั่งรากความเชื่อทางสังคม จนกลายเป็นรูปแบบพฤติกรรมที่มีความชื่นชอบร่วมกันอยู่แล้ว คณะวิทย์ มธ. มีคำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือผู้ปกครองที่กำลังมองหาช่องทางการส่งเสริมทักษะ ต่อยอดความสนใจที่เกี่ยวกับตัวเลขและความน่าจะเป็น กับโอกาสในการศึกษาต่อในวิชาที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์และสถิติ ซึ่งมีการเรียนการสอนทฤษฎีความน่าจะเป็น ที่ช่วยให้ผู้เรียนมีมุมมองและสามารถคำนวณโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับเหตุการณ์ต่าง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝังโป๊กเกอร์ลงหลุม! อนุทินเซ็นคำสั่ง มท.ยกเลิกอนุญาตการเล่น
'อนุทิน' เซ็นคำสั่ง มท. ยกเลิกการอนุญาตการเล่นพนันไพ่โป๊กเกอร์ -ไพ่เผแฝงกีฬา โดยเด็ดขาดสอดนโยบายรัฐบาลไม่ส่งเสริมการพนัน
'อนุทิน' ดับฝัน 'โป๊กเกอร์-กาสิโน' ลั่นให้นายกฯคนอื่นใช้การพนันกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯให้สัมภาษณ์กรณีนั่งควบตำแหน่งรมว.มหาดไทย จะพิจารณากรณีที่มีการแก้ระเบียบกระทรวงมหาดไทยให้กีฬาโป๊กเกอร์ถูกกฎหมาย รวมถึงพิจารณาสัญชาติให้นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ล็อบบี้ยีสต์
โอกาสใหม่! 29–30 ส.ค.นี้รัฐบาลเปิดเวทีไกล่เกลี่ยหนี้
โอกาสใหม่สำหรับลูกหนี้–เจ้าหนี้ รัฐบาลเปิดเวทีไกล่เกลี่ยใหญ่ 29–30 ส.ค. ที่ศูนย์ราชการฯ
รัฐบาล โชว์ยอดช่วยประชาชนลดหนี้นอกระบบแล้ว 8.6 หมื่นราย วงเงิน 2.6 พันล้านบาท
รัฐบาลเดินหน้าลดภาระหนี้นอกระบบ ช่วยเหลือประชาชนแล้วกว่า 8.6 หมื่นราย วงเงินกว่า 2,600 ล้านบาท
สส.ปชน. หั่นงบ TCEP จัดแข่งโป๊กเกอร์ มีเงินรางวัลล่อใจเข้าข่ายการพนัน
'ปรีติ' ชี้ งานแข่งโปกเกอร์ เป็นการจัดตั้งกระบวนการมาตั้งแต่ต้น เข้าข่ายการพนัน มีรางวัลล่อใจ ทำนิติกรรมอำพราง ผ่านแพ็คเกจทัวร์ เหตุ ทุกการเปิดไพ่คือการวางเดิมพันเสมอ จี้ ปรับลด 6.5% TCEB


