
รัฐบาลชวนเกษตรกรชาวนาร่วมโครงการส่งเสริม “เปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 66” มุ่งยกระดับปริมาณและการผลิตข้าวคุณภาพ ได้ราคาดี สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
9 เม.ย. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลขับเคลื่อนโครงการส่งเสริม “เปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 66” โดยกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรชาวนาสามารถเข้าถึงและได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีจากกรมการข้าวทั่วประเทศ เพื่อให้ชาวนาได้มีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีสำหรับการเพาะปลูกและขยายพันธุ์ ทั้งนี้ เกษตรกรชาวนาที่สนใจเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านกลุ่มเกษตร และสถาบันเกษตรกร เช่น ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวทั่วประเทศ ศูนย์ข้าวชุมชนในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน ในราคาตามหลักเกณฑ์ของกรมการข้าวที่ได้กำหนดไว้ (ข้าวขาวหอมมะลิ 105 กข 15 ราคากิโลกรัมละ 5 บาท ข้าวเหนียวและข้าวปทุมธานี 1 กิโลกรัมละ 4 บาท และข้าวขาว กิโลกรัมละ 3 บาท) โดยสามารถเข้าร่วมได้จนถึงเดือนกันยายน 2566 หรือจนกว่าเมล็ดพันธุ์จะหมด ขณะนี้ (ณ วันที่ 3 เม.ย. 66) มีเกษตรกรชาวนาสมัครเข้าร่วมแล้ว 82,293 ราย จากเป้าหมาย 205,965 ราย ในพื้นที่เป้าหมาย 3,913,333 ไร่ ซึ่งปีนี้มีเป้าหมายดำเนินการเปลี่ยนเมล็ดพันธ์ุข้าวคุณภาพดี จำนวน 58,700 ตัน ส่งเสริมไปแล้ว 17,017.402 ตัน โดยเริ่มจัดส่งให้ชาวนาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 65 จนถึงปัจจุบัน
“รัฐบาลและพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับอาชีพชาวนา ผู้สร้างความมั่นคงด้านอาหารให้แก่ประเทศ และเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งมั่นในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ดีของไทยอย่างต่อเนื่องให้เหมาะสมกับพื้นที่ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าข้าวคุณภาพดีเป็นอันดับต้นของโลก แต่ผลผลิตเฉลี่ยข้าวยังมีผลผลิตต่อไร่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยสาเหตุหนึ่งพบว่ามาจากการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรเก็บไว้เองหลายรอบซึ่งมีคุณภาพต่ำ ดังนั้น การปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตดีนอกจากปัจจัยด้านคุณภาพของดิน ปริมาณน้ำ และเทคโนโลยีแล้ว เมล็ดพันธุ์ดีและที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงขึ้น สามารถต้านทานต่อโรค แมลงศัตรูพืชและได้ผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีคุณภาพดีตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเป็นการยกระดับปริมาณและคุณภาพผลผลิตข้าวให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้และเกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งโครงการส่งเสริมเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวฯ จะสามารถนำพาเกษตรกรและพัฒนาข้าวไทยให้ได้มาตรฐานที่ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มสุรินทร์เกี่ยวข้าวหอมมะลิ 22 ไร่ บริจาคโรงทานหลวง ถวายเป็นพระราชกุศล
ชาวนาตาอ็องเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิราว 10 ตัน เตรียมนำไปสี-บรรจุถุง ส่งให้โรงทาน ณ ท้องสนามหลวง หุงแจกประชาชนที่ไปถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พิษณุโลกเร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำโมเดล
พิษณุโลก เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำ หลังรับน้ำจากสุโขทัยอีก จนจุน้ำ 204 ล้าน เพิ่มจากเมื่อวาน 5 ล้าน ลบ.ม จากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ชาวนาสะเทือนอกนาข้าวหอมมะลิจมน้ำหนัก
ชาวนาอ่างทองใจสลาย น้ำท่วมนาใกล้เก็บเกี่ยว สูญเงินลงทุน รายได้หายไปกับน้ำ
ชาวนาอ่างทองจำนวนมากกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ข้าวใกล้เก็บเกี่ยวไม่ถึง 2 สัปดาห์ถูกน้ำท่วมทุ่ง สร้างความสูญเสีย
ชาวนาพิจิตร ร้องขายข้าวเปลือกแล้วไม่ได้เงิน สูญนับล้านตั้งแต่สงกรานต์
ชาวนาอำเภอตะพานหินรวม 14 ราย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร หลังนำข้าวไปขายให้ท่าข้าวเอกชน
ข้าวเปียกขายไม่ออก! ชาวนาบุรีรัมย์หอบข้าวตากริมถนน สู้ฝน-สู้ราคา
หลังพายุ “คัลแมกี” ถล่มทำข้าวเปียกชื้น โรงสีไม่รับซื้อหรือกดราคาต่ำกว่า 10 บาทต่อกิโล ชาวนาหลายหมู่บ้านใน อ.เมือง บุรีรัมย์ ต้องขนข้าวเปลือกกลับมาตากหน้าบ้าน ริมถนน หวังไล่ความชื้นก่อนนำไปขายใหม่เพื่อใช้หนี้และเลี้ยงครอบครัว
ธุรกิจบริการชาวนา แนวคิดดี มีอนาคต
คนไทยยุคเก่า ต้องรู้จักคำพูดที่ว่า “ชาวนา คือกระดูก สันหลังของชาติ” มาถึงยุคปัจจุบัน กระดูกสันหลัง เริ่มมีปัญหา จริงๆ มีมาแล้วพักใหญ่ จากการขาดแคลนแรงงาน ผลผลิตตกต่ำ ราคาผกผัน คู่แข่งข้าวไทยในตลาดโลก มีมากขึ้น ผลผลิตต่อพื้นที่ของประเทศคู่แข่งเขาสูงกว่า เป็นต้น


