ธปท.ไม่หนุนสินทรัพย์ดิจิทัลชำระค่าสินค้า

1 ธ.ค. 64 – นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ติดตามการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อการลงทุนและการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการทางการเงิน รวมถึงการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ในรูปแบบที่เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมา ธปท. ได้มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ และขอย้ำว่า ธปท. ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เนื่องจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน ที่จะส่งผลต่อร้านค้า ผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการให้ได้รับความเสียหาย 

“ในระยะต่อไป หากมีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้างอย่างแพร่หลาย ความเสี่ยงข้างต้นอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และความเสียหายแก่สาธารณชนทั่วไปได้ ซึ่งเป็นมุมมองที่สอดคล้องกับผู้กำกับดูแลในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และมาเลเซีย โดยที่ผ่านมา มีบางประเทศจำกัดการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในขอบเขตเพื่อการลงทุนเป็นหลัก เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขณะที่หลายประเทศอยู่ระหว่างการพิจารณาการกำกับดูแลที่เหมาะสม” นางสาวสิริธิดา กล่าว 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ธปท. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณารูปแบบการกำกับดูแลการให้บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อจำกัดความเสี่ยงข้างต้น โดยจะยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบการชำระเงิน รวมถึงการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงินโดยรวม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ออกใช้วันนี้ ธนบัตรพอลิเมอร์ 50-100 บาท ทนทาน กันปลอม ช่วยผู้พิการทางสายตา

ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มหมุนเวียนธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 50 และ 100 บาท วันนี้ 21 พ.ย. ใช้วัสดุพลาสติกพิเศษสะอาด ทนใช้ และเสริมเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลง พร้อมเพิ่มจุดสัมผัสให้ผู้พิการทางสายตาใช้งาน

‘ธปท.’ กำชับแบงก์เร่งนำพนักงานกลับไทย เผยติดตามใกล้ชิด/ชี้เร็วไปประเมินผลขัดแย้งกับเขมร

‘แบงก์ชาติ’ รับยังเร็วไปผลกระทบจากความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ยืนยันติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด กำชับสถาบันการเงินที่มีสาขาในกัมพูชาเร่งทยอยนำพนักงานกลับประเทศ คาดว่าจะกลับได้ทั้งหมดภายในวันนี้ (25 ก.ค.)

‘แบงก์ชาติ’ รอผลเจรจาภาษีทรัมป์ ก่อนประเมินผลกระทบเศรษฐกิจ

“แบงก์ชาติ” ขอรอผลเจรจาภาษีทรัมป์ ก่อนประเมินผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย แนะภาคธุรกิจฉวยโอกาสเร่งปรับตัว เพิ่มศักยภาพ-ขีดความสามารถในการแข่งขัน ชงทบทวนเพดานค้ำประกันสินเชื่อเปิดช่องเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน จับตาสินค้าทะลักเข้าไทย ห่วงกลุ่มเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่วมหนัก