
บีโอไอยกทีมบุกภาคเหนือ จับมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ พร้อมร่วมหารือผลักดันระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ 4 จังหวัด หวังเป็นหัวหอกสร้างการเติบโตในภาคเหนือ เผย 3 เดือนที่ผ่านมา มีการยื่นขอลงทุนในภาคเหนือกว่า 8,000 ล้านบาท
2 พ.ค. 2566 – นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2566 บีโอไอร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ภาคเหนือ จัดงาน “NEW Economy, NEW Opportunities” โดยเป็นการจัดงานต่อเนื่องจากภาคตะวันออก เพื่อประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) และมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ เนื่องจากภาคเหนือเป็นพื้นที่สำคัญที่มีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายหลายสาขา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 250 คน พร้อมทั้งได้จัดการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหน่วยงานในพื้นที่
“ภาคเหนือมีความพิเศษที่แตกต่างจากภาคอื่น ๆ ตรงที่มีส่วนผสมระหว่าง High Tech และ High Touch อย่างลงตัว ในด้าน High Tech เชียงใหม่เป็นแหล่งรวมสตาร์ตอัปและกลุ่ม Digital Nomad อีกทั้งมีย่านนวัตกรรมการแพทย์และโรงเรียนแพทย์ที่มีคุณภาพ ลำพูนเป็นหนึ่งในคลัสเตอร์หลักของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และมีไบโอคอมเพล็กซ์ ต้นแบบเศรษฐกิจชีวภาพ ตั้งอยู่ที่นครสวรรค์และเชื่อมโยงกับจังหวัดรอบ ๆ ขณะที่ในด้าน High Touch ภาคเหนือมีความโดดเด่นทั้งในแง่ศิลปวัฒนธรรม งานหัตถกรรม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมทั้งเกษตรและอาหารที่อุดมสมบูรณ์ โจทย์สำคัญอยู่ที่ว่าเราต้องดึงจุดแข็งเหล่านี้ มาต่อยอดเพื่อสร้างฐานธุรกิจใหม่ ๆ และเพิ่มมูลค่าให้มากที่สุด เพื่อทำให้ภาคเหนือเป็นดาวเด่นในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนในทศวรรษหน้า” นายนฤตม์ กล่าว
พร้อมกันนี้ บีโอไอได้หารือกับหน่วยงานพันธมิตรในการขับเคลื่อนนโยบาย “ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ Northern Economic Corridor: NEC” ซึ่งประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง โดยพื้นที่ NEC เป็นหนึ่งในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 แห่ง ใน 4 ภาค ที่กำหนดโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภายใต้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ขณะนี้บีโอไอได้ออกมาตรการด้านสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 4 แห่ง เรียบร้อยแล้ว
“สิทธิประโยชน์ที่บีโอไอให้กับการลงทุนในพื้นที่ NEC จะอยู่ในระดับเดียวกับ EEC ซึ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีเงื่อนไขด้านการพัฒนาบุคลากร หรือการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม บีโอไอมีเป้าประสงค์ที่จะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ ที่มีความเชื่อมโยงตั้งแต่วัตถุดิบต้นน้ำไปยังผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ โดยใช้ศักยภาพของแต่ละจังหวัดมาเสริมซึ่งกันและกัน และอาจดึงผู้เชี่ยวชาญหรือเทคโนโลยีจากภายนอกเข้ามาช่วย โดยต้องทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้รับประโยชน์ด้วย ซึ่งพื้นที่ NEC 4 จังหวัด ถือเป็นหัวหอกสำคัญที่จะดึงภาคเหนือทั้ง 17 จังหวัด ให้เติบโตไปด้วยกันได้” นายนฤตม์ กล่าว
สำหรับยอดการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือ ช่วงไตรมาสแรกปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 8,116 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เกษตรและแปรรูปอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SAM ฉลองครบ 25 ปี รุกตลาด EEC ส่งมอบโอกาสเพื่อชาวภาคตะวันออก ขนทรัพย์มือสองทั้งเพื่อที่อยู่อาศัยและการลงทุนมากกว่า 4,500 รายการ
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ยกขบวนทรัพย์มือสอง(NPA)บนทำเลดีทั่วไทยมากกว่า 4,500 รายการ เข้าร่วมงานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 7 MONEY EXPO 2025 RAYONG
บีโอไอเคาะแก้กฎหมายเพิ่มขีดฯ รับมือกติกาใหม่ภาษีโลก
บีโอไอ ไฟเขียวแก้กฎหมายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ เพิ่มสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ เครดิตภาษี เพื่อแข่งกับประเทศต่าง ๆ ดึงนักลงทุนเป้าหมาย ภายใต้กติกาภาษีใหม่ของ OECD และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรทักษะสูง พร้อมอนุมัติมาตรการใหม่ เสริมแกร่งสตาร์ตอัปไทยกลุ่ม Deep tech เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล
รบ.ตีปี๊บ 4 มาตรการบีโอไอเสริมแกร่งเอสเอ็มอี
BOI รับลูกตามข้อสั่งการนายกฯ เพิ่มพลังการลงทุนให้ธุรกิจ ปรับแผนส่งเสริมฯ รูปแบบใหม่ ดัน 4 มาตรการสุดยอดจาก BOI เสริมแกร่ง SMEs ไทยสู่ตลาดโลก รับมือเศรษฐกิจผันผวน พร้อมรุกเวทีการค้าโลก
บีโอไอเผยยอดจับคู่ธุรกิจจากงาน SUBCON 2025 กว่า 22,000 ล้านบาท
บีโอไอเผยผลสำเร็จงาน SUBCON Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 14 – 17 พฤษภาคม 2568 ยอดจับคู่ธุรกิจพุ่งเกือบ 10,000 คู่ มูลค่าการซื้อขายกว่า 22,000 ล้านบาท ย้ำไทยศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมใหญ่สุดในภูมิภาค เปิดโอกาสผู้ประกอบการไทย ก้าวสู่ Supply Chain ระดับโลก


