กสิกรฯคาด กนง. ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.00%

การประชุม กนง. วันที่ 31 พ.ค. 66 คาด กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ระดับ 2.00% ซึ่งอาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในวัฏจักรนี้ (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

24 พ.ค. 2566 – ในการประชุม กนง. วันที่ 31 พ.ค. ที่จะถึงนี้ คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นนี้ที่ร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ระดับ 2.00% ทั้งนี้ จากการประชุม กนง. ครั้งก่อน กนง. ได้ส่งสัญญาณว่า กนง. อาจยังไม่หยุดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยท่ามกลางความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจคาอยู่ในระดับสูงจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภครวมถึงแนวโน้มราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ในระยะข้างหน้า ส่งผลให้ กนง. มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อในการประชุม กนง. วันที่ 31 พ.ค. นี้ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ อย่างไรก็ดี ทิศทางเงินเฟ้อที่ชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เผชิญความเสี่ยงมากขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและจากประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ขณะที่แรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกเริ่มลดลง เนื่องจากธนาคารกลางหลักอย่างเฟดเริ่มส่งสัญญาณอาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ ส่งผลให้ กนง. คงจะต้องให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้

ขณะที่ในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กนง. มีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.00% ไปตลอดปี 2566 หากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี ทิศทางค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะยังคงเผชิญความผันผวน ทั้งนี้ ทิศทางค่าเงินบาทในระยะข้างหน้าคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะกลับมาเป็นบวกตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญความผันผวนต่อไปในระยะข้างหน้า โดยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลคงเป็นปัจจัยที่อาจกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ฯ อาจได้รับปัจจัยหนุนหากเฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อต่างจากที่ตลาดส่วนใหญ่คาด ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงและตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ความต้องการสกุลเงินดอลลาร์ฯ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) ท่ามกลางความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้นคงจะเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ฯ กลับมาแข็งค่าได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรุงไทยประเมิน กนง. มีสิทธิลดดอกเบี้ยอีกรอบเหลือ 1.50% ภายในปีนี้

Krungthai COMPASS  กล่าวถึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากผลกระทบจาก tariff ที่คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญอีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มต่ำกว่าคาดขณะที่ภาวะการเงินที่ยังตึงตัว

'พิชัย' กล่อม 'กนง.' ลดดอกเบี้ย แย้มเพิ่มมาตรการแก้หนี้

'พิชัย' ชักแม่น้ำทั้งห้า หวัง กนง. ลดดอกเบี้ย กระตุ้นเศรษฐกิจ-หนุนส่งออก วอนแบงก์ชาติอ่อนเกณฑ์ LTV ยืดหยุ่นปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

‘ขุนคลัง’ ลั่นอยากเห็น ‘กนง.’หั่นดอกเบี้ยอีก0.25%

“ขุนคลัง” ลั่นอยากเห็น “กนง.” ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% หวังให้สอดคล้องเงินเฟ้อต่ำ-ทิศทางดอกเบี้ยโลก พร้อมปัดเข็นชื่อ “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ชง ครม. แจงยังมีเวลา!