ทีเส็บปรับทัพรุกตลาดไมซ์ในไทย

ทีเส็บเปิดทัพผู้บริหารเดินหน้าแผนผลักดันตลาดไมซ์ในประเทศ คาดการณ์สิ้นปี 2566 มีนักเดินทางไมซ์ในประเทศกว่า 17.79 ล้านคน สร้างรายได้ 59,000 ล้านบาท

12 มิ.ย. 2566 -นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ทีเส็บ TCEB เปิดเผยว่า ทีเส็บเล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศที่มีอัตราการเติบโตของนักเดินทางไมซ์ไทยสูงขึ้นต่อเนื่อง 5% ซึ่งคำนวณจากช่วงสถานการณ์ปกติตั้งแต่ปี 2560 – 2562 พบแนวโน้มการขยายการจัดงานไมซ์ของหน่วยงานองค์กร รวมถึงการเดินทางของนักเดินทางไมซ์กระจายไปยังภูมิภาคทั่วประเทศ  จากแนวโน้มดังกล่าว ทีเส็บเดินหน้าปรับโครงสร้างใหม่ ชูแผนบูรณาการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศปีนี้ภายใต้แนวคิด “มิติไมซ์ มิติใหม่ ไมซ์ดีดีที่เมืองไทย” โดยกำหนดโครงสร้างฝ่ายงานส่งเสริมไมซ์ในประเทศ ให้ทำงานแบบ 360 องศา ตอบโจทย์ทั้งการพัฒนาสินค้าบริการ พื้นที่ สถานที่จัดงาน ผู้ประกอบการ ชุมชน และเครือข่ายในพื้นที่

“ ทีเส็บมีฝ่ายในประเทศที่ทำงานมากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนใหญ่งานด้านการประชุมจัดอีเว้นท์ในประเทศมักจะเป็นงานรอง เพราะอย่างที่ทราบเดิมรายได้หลักของมาจากต่างประเทศ แต่ว่าจากตัวเลขที่ผ่านมา 3 ปีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นว่าตลาดในประเทศมีความสำคัญ และเราดูจากตัวอย่างจากประเทศจีน เขาใช้การประชุมการจัดงานจัดอีเวนต์ในประเทศช่วย โดยไม่พึ่งพาต่างประเทศเลย และได้ผล  ทางเราเองก็อยากสร้างความเข้มแข็งโดยการด้วยการปรับองค์กรในการที่จะตอบรับกับจุดนี้” นายจิรุตถ์ กล่าว 

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบตัวเลข ในช่วง 2560 -2562 พบว่า นักเดินทางไมซ์ ในในประเทศตัวเลข 98 ล้านคน/ครั้ง และ สร้างรายได้กว่า 312,432 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้าน ขณะที่นักเดินทางไมซ์ต่างประเทศ มีการเดินทางเข้ามา 3.5 ล้านคน สร้างรายได้ 278,053 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 92,000 ล้านบาทต่อไป  ดังนั้นเห็นชัดเจนว่า ตัวเลขของไมซ์ ในประเทศมีบทบาทที่สำคัญ และหลังจากนี้ทางทีเส็บจะผลักดันใน ไมซ์ ในประเทศ เปลี่ยนบทบาทจากพระรอง กลายเป็นพระเอก ที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจต่อไป    

แผนงานสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ คือ 1. ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจไมซ์อย่างเป็นรูปธรรมที่วัดผลได้ (Growth Promoter) ผ่านการใช้นวัตกรรมและแพลตฟอร์มใหม่ รวมถึงการสร้างโมเดลความก้าวหน้าเพื่ออุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน 2. สร้างความร่วมมือทางธุรกิจของประเทศไทยและนานาชาติ (Business Connector) ผ่านเครือข่ายคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อเศรษฐกิจไทยและนานาชาติ 3. การสนับสนุนบ่มเพาะธุรกิจไมซ์แบบ 360 องศา (Industry Nurturer) เพื่อสร้างอนาคตของอุตสาหกรรมไมซ์และสร้างแผนแม่บทใหม่ 4. เพิ่มคุณค่าระยะยาวของเศรษฐกิจและสังคม ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจไมซ์ (Ecosystem Architecture) สร้างความยั่งยืนให้พื้นที่

สำหรับผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศครึ่งปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – มีนาคม 2566) มีจำนวนนักเดินทางไมซ์ในประเทศจำนวน 10,974,350 คน สร้างรายได้ 25,016 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าสิ้นปีงบประมาณ 2566 นี้ (ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566) จะมีนักเดินทางไมซ์ในประเทศรวม 17,790,000 คน สร้างรายได้ 59,000 ล้านบาท”