ดัชนีราคาที่ดินเปล่าไตรมาส 2 ขยับเพิ่ม 6.2% แต่เริ่มโตลดลง จากปัญหาศก. -หนี้ครัวเรือน

ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 2 /2566 ภาพรวมเพิ่มขึ้น 6.2% แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนโควิด-19

2 ส.ค. 2566 – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566 พบความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ชะลอตัวลงโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 376.5 จุด โดยพบว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลงร้อยละ -2.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนายังคงมีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่มีการชะลอตัวจากไตรมาสแรก หลังจากเริ่มมีการชะลอตัวของตลาดจากปัจจัยลบต่าง ๆ โดยภาพรวมอัตราการเพิ่มของดัชนีราคาที่ดินเปล่าฯ ในไตรมาสนี้ มีการปรับเพิ่มขึ้นของต่ำกว่าอัตราค่าเฉลี่ย 5 ปี ในช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 (ปี 2558 – 2562)

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์เปิดเผยว่าดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 376.5 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ลดลงร้อยละ -2.4 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนายังคงมีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีการชะลอตัวจากไตรมาสแรก โดยอัตราการเพิ่มของดัชนีราคาที่ดินในไตรมาสนี้ ยังเป็นการเพิ่มที่ไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเฉลี่ย 5 ปี ในช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 (ปี 2558 – 2562) ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.8 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 (YoY) อีกทั้งยังมีอัตราเฉลี่ยของอัตราการเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 4.1 แสดงให้เห็นอัตราเร่งของดัชนีราคาที่ดินในช่วงดังกล่าวที่สูงกว่าปัจจุบัน

“ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินเปล่ามีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากการที่เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปี 2566 มีการขยายตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งการยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของ ธปท. และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอัตราส่วนที่สูงถึง 90% ของ GDP อีกทั้งเป็นช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้ความสามารถในการซื้อและการผ่อนชำระที่อยู่อาศัยของประชาชนลดลง ส่งผลให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยชะลอตัว ผู้ประกอบการจึงชะลอแผนในการเปิดขายโครงการใหม่ในปีนี้ถึงปี 2567 มีผลให้เกิดการชะลอการซื้อที่ดินเปล่าเพื่อรองรับการพัฒนาลงบ้างในหลายทำเล ประกอบกับรัฐบาลได้ประกาศจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มอัตราในปี 2566 จึงทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับแผนการซื้อที่ดินสะสมเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่ดินสะสมในตลาดเพื่อเป็น Land Bank ลดลง เพื่อควบคุมภาระต้นทุนจากการถือครองที่ดิน โดยภาระภาษีที่ดินฯ ซึ่งเป็นต้นทุนในการพัฒนาโครงการในระยะต่อไป”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธอส.ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี จัดเต็มแคมเปญพิเศษตอบแทนลูกค้า นำโดยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ 0.72% ต่อปี เงินฝากดอกเบี้ยสูงสุด 2.72% ต่อปี

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี มุ่งมั่นเดินหน้าสู่ความยั่งยืน สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ธอส. ประสบความสำเร็จ GO LIVE GHB SYSTEM อัปเกรดระบบ CORE BANK เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) GO LIVE ระบบ GHB System ภายใต้แนวคิด “Change for Sustainability เปลี่ยน…เพื่อความยั่งยืน” เพื่อยกระดับระบบ CORE BANK ของธนาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

‘คลัง’ผ่อนผันเกณฑ์ประกันภัย ช่วยเยียวยาผลกระทบไทย-เขมร

‘คลัง’ ผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันชีวิต-ประกันวินาศภัย ครอบคลุมพื้นที่ประสบสาธารณภัย และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีผลถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 ด้านแบงก์รัฐ ‘ออมสิน-ธอส.-บสย.’เร่งอัดมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม

‘คลัง’ผ่อนภัณฑ์เกณฑ์ประกันภัยช่วยเยียวยาผลกระทบไทย-เขมร

บีซีพีจี เผยผลการดำเนินงาน 6 เดือน ปี 2568 มีรายได้รวม 1,511.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ หรือกำไรก่อนรายการพิเศษที่ 329.2 ล้านบาท

คลังสั่งธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งปีหลัง 1.5 แสนล้าน

คลัง มอบนโยบาย ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งปีหลังอัดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1.5 แสนล้านบาท กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ หนุนการจ้างงานและธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโตเพิ่มขึ้น