พาณิชย์ลุยศึกษาทำ FTA FTA ไทย-กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก ชี้หนุนการค้าโต 16.75%

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยแพร่ผลศึกษาการจัดทำ FTA ไทย-กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (PA) พบช่วยเพิ่มจีดีพี 0.04% ดันมูลค่าการค้าโต 16.75% สินค้าส่งออกที่ไทยจะได้ประโยชน์ มีทั้งธัญพืช พลาสติก ยาง ยานยนต์และชิ้นส่วน ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ค้าส่งค้าปลีก และก่อสร้าง ระบุกลุ่ม PA ยังจะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะสินแร่และสัตว์น้ำ

23 ส.ค. 2566 – นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเผยแพร่ผลการศึกษาการจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (Pacific Alliance : PA) ณ โรงแรมสวิสโซเทล รัชดา กรุงเทพฯ ว่า การสัมมนาครั้งนี้ ได้นำเสนอประโยชน์และผลกระทบในการจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับกลุ่ม PA ซึ่งมีสมาชิก 4 ประเทศ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา คือ ชิลี เปรู โคลอมเบีย และเม็กซิโก โดยกรมได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือทำการศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าว พบว่า การทำ FTA ระหว่างไทยกับกลุ่ม PA คาดจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย เพิ่มขึ้น 0.04% ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับกลุ่ม PA เพิ่มขึ้น 16.75% ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกเพิ่มขึ้น 4.70% มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 44.67% มูลค่า 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่ม PA ยังจะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะสินแร่ และสัตว์น้ำด้วย

ทั้งนี้ ผลการศึกษา ประเมินว่า สินค้าส่งออกของไทยที่จะได้รับประโยชน์ เช่น ธัญพืช พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก ยางและของทำด้วยยาง ยานยนต์และชิ้นส่วน และเครื่องนุ่งห่ม ขณะที่สินค้าที่ต้องเตรียมความพร้อมในการปรับตัว ได้แก่ ปลา สัตว์น้ำจำพวกครัสตาเซีย โมลลุสก์ สินแร่ ตะกรันและเถ้า เฟอร์นิเจอร์ โลหะต่าง ๆ และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับสาขาบริการของไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรมและร้านอาหาร การค้าส่งค้าปลีก และการก่อสร้าง ส่วนสาขาบริการที่ต้องปรับตัว เช่น การขนส่ง สื่อ และการบริการธุรกิจอื่น ๆ
ปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับชิลี และเปรู แต่ยังไม่มี FTA กับเม็กซิโกและโคลอมเบีย โดยกลุ่ม PA มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก มี GDP รวมกันคิดเป็น 36% ของภูมิภาคลาตินอเมริกา และมีประชากรรวมกันกว่า 225 ล้านคน

ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับกลุ่ม PA มีมูลค่า 6,239.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปกลุ่ม PA มูลค่า 4,359.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากกลุ่ม PA มูลค่า 1,880.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และผลิตภัณฑ์ยาง ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ และพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อนุทิน’ ปลื้มปิดงาน OTOP Midyear 2023 ยอดจำหน่าย 447 ล้าน

มท.1 สุดปลื้ม ปิดงาน OTOP Midyear 2023 รวม 9 วัน สร้างรายได้ผู้ประกอบการ 447 ล้านบาท ทะลุเป้าที่กำหนด มีผู้เที่ยวชมงาน 1.6 แสนคน ขอบคุณประชาชนร่วมจับจ่ายใช้สอยอุดหนุนผลิตภัณฑ์มาตรฐานฝีมือคนไทย

สนค.แนะเอกชนไทยคว้าโอกาสตลาดส่งออกใหม่สู่กลุ่มประเทศนอร์ดิก

สนค. วิเคราะห์สินค้าไทยที่มีโอกาสในการเจาะตลาดนอร์ดิกด้วย Data Analytics Dashboard บนเว็บไซต์ คิดค้า.com พบว่า “ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า” และ “กลุ่มเครื่องปรับอากาศ” เป็นสินค้าดาวเด่นในตลาดนอร์ดิก “ยางยานพาหนะ” และ “อาหารสุนัขและแมว” เป็นสินค้าศักยภาพ พร้อมแนะให้เปิดตลาด “ไก่” และ “อาหารทะเลกระป๋อง” ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง แต่ไทยเข้าถึงตลาดได้น้อย

สนค.แนะผู้ประกอบการเจาะตลาดส่งออกใหม่ภูมิภาคเอเชียกลาง

สนค. วิเคราะห์สินค้าไทยที่มีโอกาสในการเจาะตลาดเอเชียกลางด้วย Data Analytics Dashboard บนเว็บไซต์ คิดค้า.com พบ “กลุ่มรถยนต์” และ “ยางยานพาหนะ” เป็นสินค้าดาวเด่น มีโอกาสส่งออกและขยายตลาด “คอมพิวเตอร์” และ “เครื่องปรับอากาศ” เป็นสินค้าศักยภาพ แต่ส่วนแบ่งไทยยังน้อย สามารถเพิ่มได้อีก ส่วน “ไก่” และ “น้ำตาลทราย” เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ไทยควรเข้าไปเจาะตลาดเพิ่ม

พาณิชย์จ่อบุกดูไบเจรจาFTA กับยูเออี รอบที่ 3

“พาณิชย์” เตรียมนำทีมไทยเข้าร่วมประชุมเจรจา FTA กับยูเออี รอบที่ 3 วันที่ 29 ส.ค-1 ก.ย.นี้ ที่ดูไบ เดินหน้าประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า และประชุมคณะทำงานกลุ่มย่อย 9 คณะ มั่นใจผลักดันการเจรจาคืบหน้าต่อเนื่อง และสรุปผลได้ภายในสิ้นปีนี้ เผยผลศึกษา ชี้การทำ FTA จะช่วยให้ GDP ของไทยเพิ่มขึ้น การส่งออกขยายตัว มีสินค้าและบริการได้ประโยชน์เพียบ