AION บุกตลาดรถไฟฟ้าอาเซียน ชูไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต

บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (AION) จัดพิธีลงนามความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวกับ 7 ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำจาก 4 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน  ประกาศสู้ศึกตลาดรถไฟฟ้าเต็มสูบ  เล็งใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ และฐานผลิตเพื่อส่งออกในภูมิภาค ประเดิมเปิดตัว AION Y PLUS ทำตลาดรุ่นแรก

25 ส.ค. 2566 – นายหม่า ไห่หยาง ผู้จัดการทั่วไป GAC AION Thailand Sales (จีเอซี ไอออน)  เปิดเผยภายหลังลงนามร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจ กับ 7 ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ใน 4 ประเทศอาเซียน ประกอบไปด้วย  Jinhui (ประเทศไทย)  AIONIC (ประเทศไทย) , V Group (ประเทศไทย) ,  Harmony  Group (ประเทศไทย) , 99 เมียนมาร์ (เมียนมาร์) , Harmony  Group (เวียดนาม) และ EV HUB (สิงคโปร์) โดยระบุว่า ทาง GAC AION ให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียน และจะใช้ภูมิภาคนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการบุกตลาดในระดับโลก 

ทั้งนี้บริษัท มองว่า ประเทศไทย เป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยบริษัทมีความตั้งใจที่จะใช้ ไทยเป็นฐาน สำหรับการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาค รวมถึงใช้ไทยเป็นฐานการผลิต เพื่อส่งออกรถไฟฟ้า พวงมาลัยขวาไปขายทั่วโลกด้วย

นายหม่า ยังระบุว่า บริษัทได้อยู่ในขั้นตอนการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ  โดยก่อนหน้านี้บริษัทประกาศแผนการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยวงเงินลงทุนกว่า  6,400 ล้านบาท ส่วนแผนการจัดตั้งโรงงาน และกระบวนการผลิตในขณะนี้ ยังไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาที่แน่ชัดได้

ทั้งนี้ในวันเดียวกัน  AION ยังได้เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น AION Y Plus ที่พร้อมออกจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรก ชูคุณภาพที่เหนือกว่าด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรา ห้องโดยสารขนาดใหญ่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูง โดยจะมีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในวันเปิดตัว วันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้ 

ด้านนายอภิชาติ ลีนุตพงษ์  ประธานกรรมการ บริษัท เอไอโอนิค ออโต จำกัด หนึ่งในพันธมิตรตัวแทนจัดจำหน่ายรถยนต์ GAC AION เปิดเผยว่า ในส่วนของบริษัท มีแผนที่จะเปิดโชว์รูม ในปี 2566 นี้ อย่างน้อย 12-15 สาขา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะเป็นโชว์รูมในหัวเมือง 4 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาจะใช้เงินลงทุนราวๆ 15 ล้านบาท

โดยในปีนี้คาดว่า จะมีรถเข้าทำตลาดสองรุ่น คือ AION Y Plus และ AION S โดยจะมีการเปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กันยายน และจะเริ่มรับรถได้ตั้งแต่เดือน ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป