'อัครา' กดปุ่มเปิดดำเนินการเหมืองทองรอบใหม่เต็มกำลัง

อัครา ลุยเปิดดำเนินการเหมืองทองรอบใหม่เต็มกำลัง สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศอื้อ พร้อมสมทบเงินเข้ากองทุนพัฒนาชุมชนกว่า 65 ล้านบาท เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีก 1 พันคน

8 ก.ย. 2566 -นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าหลังจากได้รับหนังสือจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร แจ้งให้ทราบว่า ได้ออกใบอนุญาตการเปิดการทำเหมืองและการประกอบโลหกรรมให้แก่บริษัทฯ แล้ว และต่อมาวันที่ 16 มี.ค. 2566 บริษัทฯ ก็ได้รับหนังสืออนุญาตเปิดการทำเหมืองสำหรับประทานบัตรฝั่งเพชรบูรณ์ จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์เช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเปิดดำเนินกิจการได้เต็มรูปแบบ โดยคงมาตรฐานการประกอบการในระดับสากลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และยึดหลักธรรมาภิบาลที่ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม

“ทันทีที่เรากดปุ่มเดินเครื่องจักรเท่ากับเป็นการกดปุ่มเดินหน้านำเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในทันที โดยบริษัทฯ ต้องสมทบเงินเข้ากองทุนจำนวน 4 กอง คิดเป็น 21% ของค่าภาคหลวงแร่ที่บริษัทฯ ชำระให้กับรัฐบาล หรือรวมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 65 ล้านบาทต่อปี ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคํา ซึ่งส่งผลให้มีเม็ดเงินจากกองทุนไปใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ในพื้นที่”นายเชิดศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯ จะเดินหน้าตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ ซึ่งในระยะแรกนั้นจะใช้โรงประกอบโลหกรรมที่ 2 เพียงโรงเดียว จากนั้นจึงจะเริ่มซ่อมโรงประกอบโลหกรรมที่ 1 และเมื่อโรงประกอบโลหกรรมทั้ง 2 แห่ง สามารถกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว จะเปิดรับพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณงานที่มากขึ้นต่อไป ซึ่งโดยรวมแล้วจะก่อให้เกิดการจ้างงานทั้งโดยตรงและผ่านผู้รับเหมาร่วม 1,000 อัตรา

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาอนุมัติออกใบอนุญาตการเปิดดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและนโยบายของรัฐ เห็นได้จากการใช้เวลาในกระบวนการอนุญาตที่นานมาก ซึ่งก็เข้าใจได้ว่า หน่วยงานรัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน

“อัคราปฏิบัติตามกฎหมายและขั้นตอนที่กำหนดครบถ้วน ไม่เคยมีทางลัดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแต่อย่างใด สิ่งสำคัญที่แยกจากกันไม่ได้เพื่อให้เหมืองแร่สามารถอยู่คู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน คือ การพาทุกคนก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และนี่คือหนึ่งในพันธกิจหลักของเรา”นายเชิดศักดิ์ กล่าว