
กรมบัญชีกลางซ้อมความเข้าใจแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ กรณีใช้งบประมาณปี 66 ไปพลางก่อน
12 ก.ย. 2566 – นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประกาศใช้บังคับไม่ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) จึงได้ซ้อมความเข้าใจแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ในกรณีที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีออกใช้ไม่ทัน ซึ่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 12 บัญญัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกำหนด ดังนั้น เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 คณะกรรมการวินิจฉัยจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (3) แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐพ.ศ. 2560 ซ้อมความเข้าใจในการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง กรณีการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน ดังนี้
1.สำนักงบประมาณกำหนดให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันในไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 เฉพาะเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2567) เว้นแต่รายจ่ายประจำที่มีความจำเป็นต้องก่อหนี้ผูกพัน 12 เดือน ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามที่ต้องดำเนินการจริง โดยจำแนกเป็นรายเดือนส่งให้สำนักงบประมาณอย่างช้าภายในวันที่ 15 กันยายน 2566 เมื่อสำนักงบประมาณเห็นชอบแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานของรัฐแล้ว ย่อมถือว่าหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และสามารถประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีได้
2.หลังจากประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐรีบดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามแผนและขั้นตอนของระเบียบฯ ไปจนถึงขั้นตอนการประกาศผลผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก เพื่อให้พร้อมทำสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันที และเมื่อสำนักงบประมาณอนุมัติจัดสรรเงินให้แก่หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อนแล้ว หน่วยงานของรัฐจึงจะสามารถก่อหนี้ผูกพันภายในวงเงินที่รับทราบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างได้
“หน่วยงานของรัฐสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหา การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ว529 ลงวันที่ 8 กันยายน 2566” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'กมธ.ทหาร' ไม่เรียก 'กัน จอมพลัง' แจงเพิ่ม บี้ส่งเอกสารคำขอจากทุกหน่วย
'ปธ.กมธ.ทหาร' เผยไม่เชิญ 'กัน จอมพลัง' แจงข้อมูลเพิ่มแล้ว แต่ให้ส่งเอกสารขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานรัฐทั้งหมด พร้อมทวง 'โฆษก ทบ.' ด้วย ยันไม่ได้เพ่งโทษใคร
'สุริยะ' โยนกรมบัญชีกลางเป็นคนเคาะให้ประมูลรายเดียวได้งานเค้ก 1.57 แสนล้านบาท
'สุริยะ' แจงกรมบัญชีกลางเปิดช่องประมูลรายเดียวได้งานงบกระตุ้นศก. 1.57 แสนล้าน เนื่องจากเวลาจำกัดต้องเซ็นสัญญาภายใน 30 ก.ย.นี้ ลั่น คค.ไม่มีจัดซื้อจัดจ้างรายเดียว มั่นใจไม่มีทุจริต
อดีตผู้ใหญ่บ้าน หอบเอกสารร้อง ป.ป.ช.ระยอง สอบ ทต.เชิงเนิน ใช้งบไม่โปร่งใส
อดีตผู้ใหญ่บ้านหญิงไม่เกรงกลัวอิทธิพล บุกป.ป.ช.ระยอง ยื่นเอกสารร้องสอบทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของทต.เชิงเนิน
ครช.ร้องทุกข์ หน่วยงานรัฐ ผลาญงบฯ ทุจริต ละเว้นหน้าที่ สินค้าจีนยึดตลาด ทำปชช.ล้มละลาย
นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงาน คณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่ม 17 จ.นครปฐม ได้ยื่นเรื่อง ข้อร้องทุกข์ ร้องเรียน กรณี กฎหมาย การจัดการ การใช้งบประมาณ การตรวจสอบฯ ขัดรัฐธรรมนูญทำให้ชาติกำลังวิบัติ


