
“สุริยะ” สั่ง “คมนาคม” อำนวยความสะดวกคนไทยกลับจากอิสราเอลสู่ภูมิลำเนา เน้นย้ำ “บขส.-รฟท.” พร้อมช่วยเหลือดูแลจนภารกิจลุล่วง พร้อมเปิดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นศูนย์ประสานงานอำนวยความสะดวก
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2566 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ นางมนพร เจริญศรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลและสั่งการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อำนวยความสะดวกให้กัับพี่น้องประชาชนชาวไทย ที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอลจำนวน 136 คน และญาติพี่น้องที่มารอรับให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางสู่ภูมิลำเนา
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม รักษาราชการแทน รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลช่วยเหลือประชาชนคนไทยในประเทศอิสราเอลที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่สงบ และได้อพยพผู้มีความประสงค์เดินทางกลับสู่ประเทศไทยนั้น กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ บขส. ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย
ทั้งนี้โดยในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 12 – 16 ต.ค. 2566 บขส. ได้มีการให้บริการรถรับ – ส่งไปแล้ว จำนวน 26 คัน รองรับเส้นทางจากท่าอากาศยาน บน.6 และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงมีการให้บริการดูแลการเดินทางจากท่าอากาศยานและโรงพยาบาลบำราศนราดูร มายังสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของตน ซึ่งรวมแล้วสามารถรองรับจำนวนประชาชนได้ประมาณ 1,000 คน
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวว่า การจัดรถไฟรับส่งแรงงานไทยเดินทางกลับภูมิลำเนา และเปิดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นศูนย์ประสานงานสำหรับหน่วยงานช่วยเหลือแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล ตามนโยบายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งระดมความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยสงครามจากอิสราเอลโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้จัดรถไฟให้กับแรงงานไทยและครอบครัวที่กลับจากอิสราเอลสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างสะดวก ปลอดภัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมทั้งเปิดพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณประตู 2 จัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานสำหรับหน่วยงานช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากประเทศอิสราเอล เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานและเครือญาติใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นศูนย์กลางในการติดต่อพบปะระหว่างกันได้อย่างสะดวก ตลอดจนใช้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางกับทุกระบบขนส่งสาธารณะให้สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างสวัสดิภาพ
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม โดย รฟท. ได้จัดซุ้มอาหารว่างและน้ำดื่ม ดูแลแรงงานไทยและครอบครัวที่มารอรับ โดยจัดเตรียมที่นั่งพักคอยกว่า 400 ที่นั่ง และเตรียมความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ ช่วยกันดูแลอำนวยความสะดวกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้บริการได้อย่างเพียงพอ โดยไม่กระทบต่อการให้บริการเดินทางแก่ผู้โดยสารประชาชนทั่วไป พร้อมกำชับให้ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690
นอกจากนี้ได้เตรียมความพร้อมรองรับการสอบถามข้อมูล ตลอด 24 ชั่วโมง กระทรวงคมนาคมพร้อมดูแลแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลรวมไปถึงญาติพี่น้องร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จนกว่าภารกิจการรับแรงงานไทยกลับบ้านจะสำเร็จลุล่วง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พท. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครล็อต 4 ยัน ธ.ค. ครบ 400 เขต ยังอุบแคนดิเดตนายกฯ
'เพื่อไทย' เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส. ล็อตใหม่เพิ่ม 11 คน นนทบุรีครบทุกเขต 'สมนึก' โผล่ให้กำลังใจ 'จุลพันธ์' ลั่นไม่มีพรรคไหนพร้อมเท่า พท. มั่นใจยังขายได้ ชื่อแคนดิเดตยังไม่ให้หลุดออกมา
เพื่อไทยจ่อเปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ ‘สุริยะ’ มาแน่ สะพัดอีก 2 จากตระกูลชิน
พรรคเพื่อไทยเผย เตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อ ล็อกแล้ว 1 คือ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ขณะอีก 2 รายอยู่ระหว่างทาบทาม “ณัฐพงศ์ คุณา
พท. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเพิ่ม 31 เขต ส่ง 'อดีตเลขาฯปปส.' ชน 'ธรรมนัส'
'เพื่อไทย' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. รอบ 3 อีก 31 เขต ส่ง 'อดีตเลขาฯ ป.ป.ส.' ชน ''ธรรมนัส' ส่วนคู่สมรส 'จักรภพ' ลง กทม. 'จุลพันธ์' มั่นใจได้ตั้งรัฐบาล
'หญิงหน่อย' ชี้เปรี้ยง! รีแบรนด์ พท. ต้องเลิกบริหารแบบครอบครัว
'อดีตปธ.ยุทธศาสตร์เพื่อไทย' ชี้ พท. ต้องเลิกบริหารแบบพรรคครอบครัว-บริษัทจำกัด ถึงจะรีแบรนด์ได้ มอง 'จุลพันธ์' มีโอกาสนั่งหัวหน้าคนใหม่ แต่ตัวจริงคือแคนดิเดตนายกฯ
มนต์ขลัง “ชินวัตร” เสื่อม “แพทองธาร” ยอมถอย สู้ศึกเลือกตั้ง
ท่ามกลางความร้อนแรงในทางการเมืองไทย เหล่าพรรคการเมืองต่างต้องเตรียมการเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในอีก 4 เดือนข้างหน้า ทั้งวางกลยุทธ์ วางสรรพกำลังสู้ศึกเลือกตั้ง


