พลังงานพับแผนเงินกู้หนุนแอลพีจีหวั่นผิดกฎหมาย

พลังงานพับแผนเงินกู้หนุนแอลพีจี หวั่นผิดกฎหมายพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท จับตา กบง.เคาะดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ ช่วย หรือปล่อยให้ราคาก๊าซหุงต้มขยับขึ้นเป็นขั้นบันได ด้านความคืบหน้าเงินกู้ 3 หมื่นล้าน “ออมสิน-กรุงไทย” ขอเงื่อนไขเพิ่ม

20 ธ.ค. 2564 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเงินกู้เพื่อช่วยเหลือก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ภาคครัวเรือนเพื่อคงราคาขายปลีกที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จากเดิมที่ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ช่วยเหลือประชาชนภาคครัวเรือนจะครบกำหนดวันช่วยเหลือในวันที่ 31 ธ.ค. 64 ว่ากระทรวงพลังงานได้ขอแบ่งแยกบัญชีการช่วยเหลือแอลพีจี ออกจากกองทุนน้ำมันฯ โดยให้ยื่นกู้จากพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท จำนวน 2,570 ล้านบาท ตามกรอบ 4 เดือนนั้น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ฯ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ท้วงติงว่าอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนแสนล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อลงรายละเอียดของความช่วยเหลือจะมีข้อกังวลในเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่เหมือนกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ โครงการคนละครึ่ง โดยสำนักงานฯ อาจจะชะลอการขอกู้เงินตรงนั้นไว้ก่อน โดยเบื้องต้นแนวทางการช่วยเหลือคือใช้เงินกู้ 30,000 ล้านบาทมาช่วยเหลือ และอีกแนวทางที่ศึกษาไว้โดยเทรนด์ที่มองราคาอาจจะเริ่มปรับตัวลดลงตามเทรนด์ความต้องการใช้งาน หลังจากหมดฤดูหนาว ดังนั้น จะต้องหารือร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และติดตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งเข้าใจว่าภายในเดือนธ.ค.2564 จะต้องกำหนดนโยบายออกมาแน่นอน

“จะคุยกันอีกครั้งว่าจะเอาเงินจากกองทุนน้ำมันฯ มาช่วยเหลือหรือว่าจะมีการขยับราคาก๊าซหุงต้มเป็นขั้นบันไดตามที่กระทรวงพลังงานเคยระบุ และคิดในแง่ดีราคาก๊าซมีการปรับลดลงตามเทรนด์การใช้งาน ก็ต้องรอดูนโยบายอีกครั้ง เมื่อมีนโยบายออกมาอย่างไรทางเราก็พร้อมจะปฏิบัติตามขั้นตอน เพราะแนวโน้มการกู้เงินช่วยLPG จะค่อนข้างยากเกรงว่าเมื่อทำไปแล้วเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติอาจมีความผิดตามพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท กำหนดที่จะต้องจ่ายเงินให้กับประชาชนโดยตรง แต่การกู้เงินครั้งนี้ กองทุนน้ำมันฯ จะต้องจ่ายตรงไปทางผู้ค้าก่อน ถึงแม้ว่าประชาชนได้รับความช่วยเหลือแต่จะได้ทางอ้อม”นายวิศักดิ์ กล่าว

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการขอกู้เงินเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยกับธนาคารออมสินได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากที่กำหนดในหนังสือให้ธนาคารแจ้งตอบภายใน 31 ม.ค.2565 เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องของเงื่อนไขต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความสามารถในการชำระเงินคืน เนื่องจากอาจจะยังกังวลในเรื่องของสถานการณ์ราคาน้ำมันยังอาจผันผวน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2564 กรรมาธิการงบประมาณได้เชิญสกนช.ไปชี้แจง ร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและกรมบัญชีกลาง โดยสกนช.ได้อธิบายถึงเหตุผลการกู้เงินโดยอิงในภาพรวมของปี2554 ที่เคยกู้ทั้ง 2 ธนาคารจำนวน 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังมีประเด็นในเรื่องของ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 แต่การกู้เงินครั้งก่อนมีมาตั้งแต่เป็นพระราชกฤษฎีกา และได้มีการยุบและเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) มาเป็นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมประเด็นคำถามในเชิงนโยบาย ซึ่งทางสกนช.ก็ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่าสำนักงานฯ อยู่ในฝ่ายปฏิบัติบนพื้นฐานของกฎหมายที่ระบุว่ามีเงินเท่าไหร่ และจะบริหารอย่างไร เพื่อส่งรายละเอียดให้ผู้กำหนดนโยบายเห็นชอบในแนวทางปฏิบัติ ซึ่งทางกรรมาธิการงบประมาณก็ได้เข้าใจในเรื่องนี้แล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“12.12 สายชอปปิ้งต้องระวัง” สสส.-ม.อ. เปิดเวทีสะท้อนปัญหา “ผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย” ในไทย เผยผลตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไร้คุณภาพผ่านแพลตฟอร์ม “TaWai for Health”

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2568 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์

'รสนา' จับตารัฐบาลอนุทิน จ่อปรับโครงสร้าง 'พูลก๊าซ' ลดค่าครองชีพจริงหรือ

นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จับตารัฐบาลอนุทิน จ่อปรับโครงสร้างพูลก๊าซใหม่ ลดค่าครองชีพประชาชนจริงหรือ?!? โครงสร้างพูลก๊าซ คือการนำเอาราคาก๊าซจาก 3 แหล่งมารวมกันและเฉลี่ยต้นทุนกัน

บุกค้นโรงเรียนเถื่อน จับครูพม่าถือวีซ่ากรรมกร แย่งอาชีพคนไทย

พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีโรงเรียนสอนภาษาเมียนมาเเอบเปิดสอนภาษาให้กับเด็กเมียนมา โดยใช้ครูเถื่อนจากเมียนมามีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก