ญี่ปุ่นมอบทุนให้ กฟผ. ศึกษาผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจน

เมติ มอบทุนให้ กฟผ. ผนึก 3 บริษัทชั้นนำญี่ปุ่น ศึกษาและพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนียสะอาดฯ บนพื้นที่ศักยภาพ กฟผ. เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ร่วมขับเคลื่อนและยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ลด CO2 

นางสาวจิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รักษาการผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ลงนามความร่วมมือโครงการผลิตไฮโดรเจนและแอมโมเนียสะอาดจากพลังงานหมุนเวียนบนพื้นที่ศักยภาพในภาคใต้ของ กฟผ. ที่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) มอบทุนให้ กฟผ. และ 3 บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นร่วมศึกษาและพัฒนาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศ โดยจะศึกษาความเป็นไปได้ของห่วงโซ่คุณค่าไฮโดรเจนสะอาดของ กฟผ. โดยมีขอบเขตความร่วมมือศึกษาการขยายโอกาสทางธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงศึกษาโครงสร้างพื้นฐานด้านห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ และการประมาณต้นทุนเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนียสะอาด

ด้าน นายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าตลาดไฮโดรเจนเป็นทั้งตลาดอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และสร้างงานของโลก รวมถึงยังเป็นกุญแจสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ความร่วมมือนี้จึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและไทยที่ต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าหมายการลงทุนไว้กว่า 150 ล้านล้านเยนสำหรับการวิจัยและสำรวจศักยภาพเชิงพาณิชย์ของพลังงานไฮโดรเจน ด้วยความร่วมมือของทั้งสองประเทศจะเป็นตัวเร่งและเตรียมพร้อมในการสร้างห่วงโซ่คุณค่าไฮโดรเจนทั้งในภูมิภาคอาเซียนและระดับโลกต่อไปในทศวรรษหน้า

ด้านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของประชาคมโลกและเอเชียมีความมุ่งมั่นเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งไทยโดยกระทรวงพลังงานพร้อมเดินหน้าส่งเสริมลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคพลังงานทุกวิถีทาง การศึกษาความเป็นไปได้ของห่วงโซ่คุณค่าไฮโดรเจนสะอาดของ กฟผ. ด้วยการสนับสนุนจาก METI ที่คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2567 จะมีส่วนช่วยผลักดันแผนการพัฒนาไฮโดรเจน ซึ่งนอกจากจะทำให้เป้าหมายลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำเร็จแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเกิดความยืดหยุ่นด้านพลังงานเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว

นางสาวจิราพร กล่าวเพิ่มเติมว่า กฟผ. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยและเป็นแนวหน้าในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนของประเทศมาโดยตลอด ได้นำไฮโดรเจนเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนียสะอาด เปิดมิติใหม่ในการยกระดับมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาด ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย EGAT Carbon Neutrality โดยทุนสนับสนุนนี้จะช่วยพัฒนาต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานบนพื้นที่ศักยภาพที่พร้อมรองรับการพัฒนาของ กฟผ. ด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น เพื่อร่วมสร้างความแข็งแกร่งด้านพลังงานที่ยั่งยืนซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กฟผ.ร่วมยินดีนักกีฬา 'ยกน้ำหนัก-เรือพาย' คว้า21เหรียญทองซีเกมส์2025

ทัพนักกีฬาไทยสร้างผลงานยอดเยี่ยมในศึกซีเกมส์ 2025 คว้า 9 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง จากกีฬายกน้ำหนัก และ 12 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน และ 5 เหรียญทองแดง จากกีฬาเรือพาย สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ

ชวนทำบุญ อิ่มใจ ร้านกาชาด กฟผ. จัดเต็มสอยดาวฉลากเบอร์ 5 ชมนิทรรศการแสงแห่งพระเมตตา สถิตย์ในใจประชานิจนิรันดร์ รำลึก’พระพันปีหลวง’

เริ่มแล้วงานกาชาดประจำปี 2568 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ร้อยดวงใจปวงประชา น้อมสำนึกพระเมตตา องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย”

กฟผ.ลั่นหากไม่มี SMR เป็นทางเลือกต้นทุนค่าไฟพุ่งสูงแน่

กฟผ.รับพีดีพีล่าช้าแต่ไม่ห่วง ยัน SMR ไม่ใช่โครงการระยะสั้นที่ต้องรอจังหวะรัฐบาล แต่เป็นการลงทุนเชิงโครงสร้างที่ต้องเตรียมการ 10 ปีขึ้นไป ย้ำสิ่งสำคัญคือการยอมรับของสังคมที่ต้องอาศัยการสื่อสารและความต่อเนื่องของนโยบาย ลั่นหากไม่มี SMR เป็นทางเลือก ต้นทุนค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“เทด้า” คว้ารางวัล “คู่ค้าดีเด่นจาก กฟผ.” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2

นายครองเกียรติ์ อุดมรัตนชัยกุล (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทด้า จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง