กสทช.ย้ำตรวจละเอียดยิบหลังควบรวม ทรู-ดีแทค พบทุกอย่างยังทำตามเงื่อนไข

19 ธันวาคม 2566 – สำนักงาน กสทช. จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผู้บริโภคในเรื่องอัตราค่าบริการ คุณภาพสัญญาณ และแพ็คเกจการให้บริการหลังการรวมธุรกิจระหว่าง ทรู – ดีแทค โดย พ.ต.อ. ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำประธาน กสทช. ด้านกฎหมาย และ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการ กสทช. หลังจากที่สภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายผู้บริโภคได้ออกมาเรียกร้องว่า หลังควบรวมของทั้งสองบริษัท ทางผู้บริโภคประสบปัญหา เรื่อง คุณภาพสัญญาณที่ลดลง และ ราคาบริการที่แพงขึ้น

พ.ต.อ. ประเวศน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่มีข่าวร้องเรียนเรื่องคุณภาพสัญญาณและราคาค่าบริการ จากกลุ่มองค์กรผู้บริโภค จึงมาแถลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมีข้อมูลที่ตรวจสอบได้ชัดเจน ซึ่งเริ่มที่กระบวนการติดตามการดำเนินการเรื่องควบรวม ทรู-ดีแทค โดยมีกำหนดเงื่อนไขหลังควบรวมทั้งสิ้น 19 ข้อ ซึ่งที่ผ่านมาจาการตรวจสอบติดตาม ทางบริษัทได้ดำเนินการ ในระยะเวลา ที่กำหนด มีเพียงเรื่องเดียว คือ การตั้งคณะกรรมการหรือว่าจ้างที่ปรึกษามาประเมินเรื่องราคาและคุณภาพ ตามเงื่อนไข ซึ่งติดที่คณะกรรมการหมดอายุ และได้ขยายระยะเวลาอายุของอนุกรรมการชุดนี้แล้ว

โดยนายไตรรัตน์ รักษาการแทนเลขาธิการ (กสทช.) เปิดเผยถึงกรณีที่ได้รับการร้องเรียนว่า หลังการควบรวมกิจการระหว่าง ทรู-ดีแทค ทำให้ค่าบริการแพงขึ้น และคุณภาพสัญญาณแย่ลงว่า ประเด็นเรื่อง  1.อัตราค่าบริการที่ลดลง 12% หรือไม่ เรื่องนี้ ตามที่ทรู-ดีแทค ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ กสทช.ระบุว่าอัตราค่าเฉลี่ยบริการลดลง 12% โดยใช้วิธีการเฉลี่ยราคาใหม่ด้วยการถ่วงน้ำหนักตามจำนวนผู้ใช้บริการแต่ละรายการส่งเสริมด้านการขายภายใน 90 วัน หลังจากที่ได้มีการรวมธุรกิจ

ซึ่งทรูได้ส่งข้อมูลให้สำนักงาน กสทช.ตรวจสอบ และกสทช.ได้ทำการสุ่มตรวจสอบข้อมูล สำหรับการลดราคาไม่ใช่ว่าผู้ใช้บริการเห็นโปรโมชั่นในท้องตลาดแล้วเข้าใจว่าไปลดราคาลง 12% แต่เป็นการลดราคาในการลดค่าเฉลี่ยว่าแพ็กเกจไหนประชาชนใช้เยอะ กสทช.จะนำมาเฉลี่ยผลลัพธ์ออกมา ซึ่งจากการตรวจสอบ ทรู ยังทำตามมาตรฐานที่ได้กำหนด แต่จากรายงานที่คณะอนุฯ ติดตามพบว่าราคาเฉลี่ยลดลงแน่นอน

อย่างไรก็ตาม การเฉลี่ยราคาโดยการถ่วงน้ำหนักจากแพ็กเกจที่มีผู้ใช้มาก ที่ว่าลดลง 12% นั้น ค่าเฉลี่ยนั้นคือราคาเท่าไหร่นั้น ตัวเลขเฉลี่ยเหล่านี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช. ให้รับทราบก่อน แล้วมติที่ประชุมจะให้เผยแพร่หรือไม่แล้วแต่นโยบาย

ส่วนราคาแพ็กเกจ 299 บาท และมีแพ็กเกจอื่นๆ ที่หายไปนั้น ยืนยันว่าแพ็กเกจนี้ยังมีการให้บริการอยู่ เนื่องจากลูกค้ารายเก่ายังใช้บริการอยู่ เมื่อครบกำหนดใช้บริการ 30 วัน แพ็กเกจจะหมดอายุ โดยผู้ให้บริการจะให้ผู้บริโภคเลือกว่าจะต่อแพ็กเกจเดิม หรือใช้แพ็กเกจใหม่ที่กำหนด ซึ่งแพ็กเกจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการออกแพ็กเกจของแต่ละค่าย ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกได้

ประเด็นที่ 2  คุณภาพสัญญาณ โดยเงื่อนไขระบุว่าบริษัทจะต้องไม่ลดจำนวนระบบสื่อสัญญาณ หรือที่ตั้งเซลล์ (เซลล์ไซต์) เป็นสถานที่ที่ติดตั้งเครื่องรับ-ส่งสัญญาณ เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของบริการที่ให้ประชาชนได้รับไม่ต่ำไปกว่าเดิม โดยเสาโทรคมนาคมข้างบนเสาจะเป็นเซลล์ไซต์ ที่ผ่านมา ในอดีตบ้านหนึ่งหลังมีโทรศัพท์ 3 ค่าย จะมีเสาสัญญาณรอบบ้าน จึงมีเรื่องร้องเรียนมาโดยตลอด ดังนั้น กสทช.จึงมีการกำหนดให้ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

ขณะเดียวกัน เมื่อทรู-ดีแ ทค รวมกันจึงได้ตรวจสอบพื้นที่ระหว่างเสาของทรูและเสาของดีแทค เสาไหนจะครอบคลุมประชาชนได้มากกว่า จึงจะเลือกเสานั้น ส่งผลให้มีบางจุดมีการยุบเสาไป แต่การยุบเสาไม่ได้หมายความว่าจะถอนเซลล์ไซต์ เพราะเงื่อนไขจะต้องไม่ลดเซลล์ไซต์ ทรูจึงโยกเซลล์ไซต์จากเสาที่ลดลงไปอยู่อีกเสาหนึ่ง

3.ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพสัญญาณ ตามที่มีกระแสข่าวว่า ก่อนควบรวมทรู-ดีแทค 944 เรื่อง เป็นของทรู 637 เรื่อง และดีแทค 307 เรื่อง (มกราคม-4 สิงหาคม 2566) หลังควบรวมมี 836 เรื่อง (4 สิงหาคม-30 พฤศจิกายน 2566) และหากพิจารณาสถิติร้องเรียนตามประเด็นปัญหา ของ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น (True-Dtac) หลังการควบรวม 659 เรื่องมีเครื่องเกี่ยวกับคุณภาพสัญญาณแค่ 17 เรื่อง ที่เหลือข้อมูลส่วนบุคคล ข้อความกวน ความสับสนในโปรโมชั่น และอื่นๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กสทช. เปิดบริการ ‘สายด่วน 1818’

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดให้บริการ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน “1818” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

ทรู สนับสนุนกสทช.และตำรวจ ร่วมสกัดขบวนการ SIMBOX ลดช่องโหว่ความเสี่ยงด้านอาชญากรรมไซเบอร์ และเสริมมาตรฐานความปลอดภัยดิจิทัลของประเทศ

ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการป้องกันภัยไซเบอร์และโทรหลอกลวง. ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัลของประเทศ

กสทช. ผุดแคมเปญ “รู้ก่อน รอดก่อน ปลอดภัยไปกับ กสทช.” ปักธงต้านภัยไซเบอร์ที่กาญจนบุรี

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ยกระดับการป้องกันการหลอกลวงประชาชนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการส่ง SMS ปลอม