
11 เดือนปี 2566 ต่างชาติลงทุนในไทย 98,288 ล้านบาทญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 30,106 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 22,219 ล้านบาท และจีน 15,818 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 6,086 คน
22 ธ.ค. 2566 – นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานให้ทราบว่า ช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 (มกราคม – พฤศจิกายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 612 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 209 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 403 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 98,288 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 6,086 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่
1.ญี่ปุ่น 129 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 30,106 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจบริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ และธุรกิจบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลการใช้ก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่างๆ ของธุรกิจ เป็นต้น
2.สิงคโปร์ 95 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 22,219 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
3.สหรัฐอเมริกา 95 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 4,235 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจบริการให้ใช้สิทธิและให้ใช้ช่วงสิทธิซอฟต์แวร์ที่ใช้ในธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกประเภท ธุรกิจบริการออกแบบและพัฒนา ติดตั้ง วางระบบเกี่ยวกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software) และแอปพลิเคชัน (Application) ที่ใช้สำหรับการดำเนินธุรกิจและให้บริการด้านการธนาคารและด้านการเงิน และธุรกิจนายหน้าและตัวแทนจัดซื้อ จัดหา และจัดจำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ไฟฟ้าและรถทุกชนิด เป็นต้น
4.จีน 56 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 15,818 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจบริการก่อสร้าง รวมทั้งติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจบริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่มภาพและเสียง (Audio Visual Product) และ Network Device เป็นต้น
5.ฮ่องกง 26 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มีเงินลงทุน 5,813 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ ธุรกิจบริการบำรุงรักษา และซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตท่อเหล็กไร้ตะเข็บ และธุรกิจบริการจองบัตรโดยสารสายการบินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น
ถือได้ว่าการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างชาติในไทยช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้นมีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก และองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการบำรุงรักษาและดูแลชิ้นส่วน เครื่องมือ อุปกรณ์ สำหรับงานซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า เป็นต้น
เมื่อเปรียบเทียบช่วงมกราคม – พฤศจิกายน ของปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 82 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 (เดือน ม.ค. – พ.ย.66 อนุญาต 612 ราย / เดือน ม.ค. – พ.ย.65 อนุญาต 530 ราย) โดยแม้มูลค่าการลงทุนจะลดลง 14,169 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 (เดือน ม.ค. – พ.ย.66 ลงทุน 98,288 ล้านบาท / เดือน ม.ค. – พ.ย.65 ลงทุน 112,457 ล้านบาท) แต่มีการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 1,078 ราย คิดเป็นร้อยละ 22 (เดือน ม.ค.- พ.ย.66 จ้างงาน 6,086 คน / เดือน ม.ค. – พ.ย.65 จ้างงาน 5,008 คน) โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น เช่นเดียวกับปี 2565
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ บริการที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียม บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ สำหรับโครงการรถไฟฟ้า บริการก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบระบบ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการพัฒนาแพลตฟอร์ม บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ
นางอรมนฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 120 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกัน ร้อยละ 15 โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 19,531 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 43 ราย ลงทุน 6,853 ล้านบาท จีน 28 ราย ลงทุน 3,927 ล้านบาท ฮ่องกง 6 ราย ลงทุน 4,046 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 43 ราย ลงทุน 4,705 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ตุลาคม 2568 ยอด 7,165 ราย สะสม 10 เดือน 74,510 ราย ด้านต่างชาติลงทุนไทย รอบ 10 เดือนพุ่ง 2.76 แสนล้านบาท โต 72%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือนตุลาคม 2568 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,165 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 21,778 ล้านบาท แม้ทุนจดทะเบียนจะลดลงจากปีก่อน แต่ทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 68
พาณิชย์บุกงานหนังสือให้ความรู้กฎหมายลิขสิทธิ์
กรมทรัพย์สินทางปัญญาเสริมทัพสร้างความรู้ด้านกฎหมายและสัญญาลิขสิทธิ์ แก่เหล่านักเขียน และผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรมหนังสือไทย พัฒนาศักยภาพ และสร้างรายได้เติบโตตามนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพาณิชย์ ในงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” ครั้งที่ 30 (Book Expo Thailand 2025) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ฟุ้ง นโยบายรัฐบาล นักลงทุนยังมั่นใจกว่าปีที่แล้วหลายเท่าตัว ยอดทะลุกว่า 1.6 แสนล้าน
นโยบาย รัฐบาล 'แพทองธาร' นักลงทุนยังมั่นใจ ล่าสุด ลงทุนมากกว่าปีที่แล้วหลายเท่าตัว ยอดทะลุกว่า 1.6แสนล้าน ญี่ปุ่นยังครองอันดับหนึ่งตามมาด้วยนักลงทุนจากจีน
พาณิชย์ โชว์งบการเงินธุรกิจไทยปี 67 กำไรพุ่ง 18%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยผลการวิเคราะห์ข้อมูลการนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2567 ของนิติบุคคลไทย พบสัญญาณเชิงบวกทั่วทั้งระบบธุรกิจ รายได้รวมทะลุ 61.14 ล้านล้านบาท ขยายตัว 1.96% ส่วนกำไรเติบโตโดดเด่น 18.16% สะท้อนเสถียรภาพและศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังผ่านช่วงความท้าทาย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและภาคบริการที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงที่สุด
รมช.นภินทร เร่งเครื่องปราบนอมินีทั่วประเทศ มอบพาณิชย์จังหวัดและ 9 ส่วนราชการปูพรมตรวจสอบ กำหนดเวลาเห็นผลใน 1 เดือน
รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ‘นภินทร’ มอบนโยบายพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จับมืออีก 9 ส่วนราชการในจังหวัดเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีและปราบปรามให้สิ้นซากโดยเร็ว
'สนธิญา' ยื่นหลักฐานเพิ่ม 'พีระพันธ์' ถือหุ้น 4 บริษัท จี้ นายกฯตรวจสอบให้กระจ่าง
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง มายื่นหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่เคยยื่นให้มีการตรวจสอบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี


